สูตรหม้อไฟแซลมอนของฮอกไกโด ง่ายๆทำได้ที่บ้าน

หม้อไฟที่มีส่วนผสมหลักคือ มิโสะ และ ปลาแซลมอน ผักที่ใส่นั้นคือผักที่ขึ้นในท้องถิ่น จึงไม่มีส่วนผสมตายตัว เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่น้ำซุปญี่ปุ่น มิโสะสูตรเฉพาะของแต่ละร้าน และแซลมอนสดๆของฮอกไกโดนั่นเอง
หากท่านใดอยากลองทำลองกินเราก็มีสูตรง่ายๆมาให้ ทำตามได้ที่บ้าน และหากใครไปเที่ยวฮอกไกโด บอกเลยว่าห้ามพลาดเมนูนี้
อาหารหม้อนี้มีชื่อว่า อิชิคาริ นาเบะ (Ishikari nabe 石狩鍋) เป็นอาหารประเภทหม้อไฟ ภาษาญี่ปุ่นคำว่านาเบะ แปลว่าอาหารหม้อไฟ สำหรับเมนูที่ทำวันนี้เป็นสูตรหม้อไฟประจำท้องถิ่นของเมืองอิชิคาริ ในจังหวัดฮอกไกโด ชื่อนาเบะเมนูนี้จึงมาจากชื่อเมืองค่ะ
ส่วนผสม

1. ปลาแซลมอนสด 4-5 ชิ้น
2. เกลือป่น พอประมาณ
3. มันฝรั่ง 3 ลูก
4. น้ำซุปญี่ปุ่น 600 มิลลิลิตร (น้ำเปล่าผสมผงซุปญี่ปุ่น)
5. สาเก 2 ชต
6. มิโสะ 4 ชต
7. เนย 10 กรัม (ไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ชอบ)
8. เต้าหู้อ่อนเนื้อหยาบ(โมเมน) 150 กรัม
9. ผักต่างๆพอประมาณ เช่น ต้นหอมญี่ปุ่น, เห็ดไมตาเกะ, เห็ดหอมสด, ผักกะหล่ำ, ผักชุนงิคุ
ผักชุนงิคุ shun-gi-ku 春菊 ที่ไทยเรียกว่า ตั้งโอ๋ ผักที่มีกลิ่นเอกลักษณ์รสออกขมนิดๆ นิยมใส่นาเบะ สุกี้ยากี้ญี่ปุ่น ทำเทมปุระ หรือกินสดเป็นผักสลัด ผักชุนงิคุนั้นไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ หากว่าชอบกินผักหลายชนิด จะใส่ แครอท หอมใหญ่ เพิ่มก็อร่อย ไม่ได้มีสูตรตายตัวค่ะ
ขั้นตอนแรก เตรียมปลาและผัก

1. ปลาแซลมอนล้างสะอาด โรยเกลือให้ทั่ว วางบนตะแกรง พักไว้ 15 นาที เพื่อเพิ่มรสชาติ และช่วยดับกลิ่นคาว

2. ต้มน้ำเดือดจัด ราดลงไปบนเนื้อปลาให้ทั่ว เพื่อลดคาว

3. ล้างน้ำเย็นตาม ส่วนของหนังปลาให้ใช้มือลูบๆล้างให้สะอาด หนังปลาต้องสะอาดและไม่มีเกล็ดเพราะมันคือส่วนที่คาวของปลา

4. เลือกมันฝรั่งลูกเกลี้ยงไม่มีราก ปอกเปลือกหั่นชิ้นใหญ่หน่อย เพื่อเวลาต้มจะได้ไม่เละ นำไปแช่น้ำสักพักเพื่อล้างยาง

5. เตรียมทำน้ำซุป โดยตั้งหม้อ เติมน้ำที่ผสมผงซุปญี่ปุ่นลงไป ตามด้วยมันฝรั่ง ต้มจนเดือดใส่ปลาและสาเก(เพื่อลดคาวและเพื่มอุมามิ)

6. นำแผ่นฟอล์ยมาขยำแล้วปิดไว้ เพื่อให้ฟองติดอยู่ด้านในฟอล์ย แทนการตักฟองทิ้งด้วยทัพพี ต้มประมาณ 5 นาที เบาไฟลง

7. ละลายมิโสะใส่ไป โดยตักน้ำซุปมาใส่ถ้วยมิโสะ ละลายให้หมดแล้วเทลงหม้อ คนเข้ากัน ปิดไฟยกลง
ขั้นตอนสุดท้าย เตรียมหม้อไฟ

8. เตรียมหม้อ จัดผักโดยผักกะหล่ำหั่นชิ้นพอดีคำ เห็ดไมตาเกะใช้มือฉีก เห็ดหอมใช้มีดบั้งเพื่อความสวยงาม ต้นหอมญี่ปุ่นหั่นเป็นท่อนเฉียงๆ ผักชุนงิคุเด็ดยอดให้เป็นช่อ วางทุกอย่างใส่หม้อ ตามด้วยเต้าหู้ โดยเว้นที่ไว้สำหรับใส่ปลาและมันฝรั่ง

9. ใส่ปลาและมันฝรั่งที่ต้มไว้ ตามด้วยน้ำซุปมิโสะ ต้มจนผักสุกพร้อมรับประทาน

10. ก่อนตักเสิร์ฟ ใส่เนยลงไปตรงกลาง เพื่อความหอมละมุน ได้รสชาติแบบฮอกไกโด
เมื่อรับประทานไม่หมด หรือเหลือแต่น้ำซุป เราสามารถใส่ข้าวสวยลงไปต้ม เป็นข้าวต้ม หรือใส่เส้นราเมง กลายเป็น มิโสะราเมง วิธีรับประทานนี้เรียกว่า ชิเมะ คือ การกินปิดท้ายอาหารประเภทหม้อไฟญี่ปุ่นค่ะ