ก่อนอื่น มันฉาบเคลือบน้ำตาลอย่างไทยญี่ปุ่นก็มีนะคะ เป็นเส้นยาวๆกรอบๆเรียกว่า “อิโมะเคนปิ” แต่ว่าอิโมะเคนปิรสชาติคล้ายของไทยไปนิด ถ้าจะทำขนมจากมันเทศให้แตกต่างเราแนะนำมันฉาบนิ่ม “ไดกาคุอิโมะ” ด้านนอกกรอบแบบมันฉาบ ด้านในนุ่มเหมือนมันเชื่อม ความอร่อยคูณสองที่กินเพลินหยุดไม่อยู่ วิธีทำก็ง่ายมาก เรามาดูสูตร พร้อมกับเรียนรู้ที่มาของชื่อนี้กันเลยค่ะ

มันเทศฉาบนิ่มแบบญี่ปุ่น มีชื่อเรียกภาษาญี่ปุ่นว่า “ไดกาคุอิโมะ” (大学芋) ตัวไดกาคุแปลว่ามหาวิทยาลัย และ อิโมะมาจากคำว่า ซัทสึมะอิโมะ (さつま芋) ที่แปลว่ามันเทศค่ะ มันเทศในที่นี่คือมันเทศญี่ปุ่นเปลือกสีม่วงที่คนไทยหลายคนรู้จักค่ะ

ทำไมถึงเรียกว่า “มันเทศมหาลัย” ชื่อนี้มีที่มาค่ะ โดยการสันนิษฐานหลายข้อจากช่วงยุคโทโซถึงยุคโชวะ (ค.ศ.1912-1989) ว่าเป็นมันเทศที่นิยมตามร้านค้าแถวมหาวิทยาลัยเมจิ (บริเวณย่านโอชาโนะมิซุ) และยังมีมันเทศราดน้ำผึ้งของร้านบริเวณหน้าประตูแดง (อะคะมอน) ของมหาวิทยาลัยโตเกียว ไม่ก็เป็นมันเทศที่นักศึกษามหาวิทยาลัยโตเกียวทำขายเพื่อเป็นทุนการศึกษา สุดท้ายคือมันเทศที่นิยมของนักศึกษามหาวิทยาลัยวาเซดะ โดยที่มาเท่าที่สิบค้นได้ ทุกข้อล้วนเกี่ยวกับนักศึกษา จึงเป็นที่มาของชื่อ “ไดกาคุอิโมะ” ค่ะ (มหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งล้วนเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังที่โตเกียวค่ะ)

นอกจากนี้ยังมีอาหารจีน ชื่อว่า ชูกะอิโมะ (中華芋) เป็นมันเทศราดน้ำผึ้ง ซึ่งมีความคล้ายกับไดกาคุอิโมะ ต่างกันแค่ของจีนไม่มีงาดำโรยค่ะ ซึ่งว่ากันว่าในภูมิภาคคันไซสมัยก่อนให้เด็กกินเป็นกับข้าวเพราะมีความหวานที่เด็กๆชอบค่ะ

ปัจจุบันไดกาคุอิโมะ เป็นทั้งของหวานและอาหารทานเล่นที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ ยิ่งในฤดูของมันเทศ (ช่วงเดือน 9-12) หลายบ้านจะทำกินเองค่ะ เพราะมันมีราคาถูก หาซื้อง่าย ด้วยรสชาติที่หวานมัน กินกี่คำก็ไม่เบื่อ ทำให้ชาวต่างชาติที่ได้ชิมเพียงครั้งแรกก็ติดใจ ต้องสอบถามหาสูตรกันเลยค่ะ

มันเทศญี่ปุ่นมีหลายพันธุ์ เนื้อก็มีหลายสีทั้งเหลือง ส้ม และม่วง ลูกเล็กบ้างใหญ่บ้าง ใหญ่สุดเท่าที่เคยเห็น เป็นพันธุ์เปลือกสีม่วง ใหญ่เท่าฟักที่เอาไว้ทำซุปกินกับข้าวมันไก่เลยค่ะ ใหญ่ๆแบบนี้ไม่มีขายตามร้านทั่วไปนะคะ อย่างแผงผักตามรูปก็ไม่มีค่ะ

มันเทศญี่ปุ่น สามารถหาซื้อได้ที่ไทยค่ะ เพราะมีการเพาะปลูกกันกว้างขวาง ลองหามาทำดูนะคะ รับรองรสชาติแท้แบบต้นตำรับ พันธุ์ที่นิยมนำมาทำไดกาคุอิโมะจะมีเปลือกสีม่วงตามรูป เลือกลูกเล็กเรียวค่ะ เพราะหั่นง่าย แต่ละชิ้นจะเห็นเปลือกทุกด้าน พอทอดแล้วมีสีที่สวยน่ารับประทานค่ะ

1. มันเทศทอดสุกเหลือง 2 ถ้วยตวง
2. โชยุ 1 ช้อนชา
3. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
4. มิริน 1 ช้อนโต๊ะ (ไม่มีใช้น้ำเปล่าแทนได้ค่ะ และเพิ่มน้ำตาลทรายแค่ปลายช้อนชา / สำหรับคนที่ไม่ชอบหวานมาก ไม่ต้องเพิ่มน้ำตาลค่ะ)
5. น้ำมันพืชสำหรับทอด ผสมน้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ (เพื่อให้มันเทศที่ทอดมีกลิ่นหอมงา)
6. งาดำคั่ว พอประมาณ
7. น้ำเปล่า ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่มันเทศไม่ให้ดำ)

ถ้าเตรียมพร้อมแล้ว พลิกหน้าต่อไปเลยค่ะ