All About Japan

แชร์ประสบการณ์สมัครเป็นไอดอลที่ญี่ปุ่น♡

เรียนภาษาญี่ปุ่น รู้ลึกเรื่องญี่ปุ่น ชีวิตในญี่ปุ่น ทำงานในญี่ปุ่น
แชร์ประสบการณ์สมัครเป็นไอดอลที่ญี่ปุ่น♡

หลายๆคนเคยมีความฝันอยากเป็นนักร้องหรือดาราใช่ไหมคะ เราก็เป็นคนนึงที่เคยอยากเป็นเหมือนกัน เเละได้ไปลองมาเเล้วถึงญี่ปุ่น วันนี้เราจะขอแบ่งปันประสบการณ์ที่เคยลองไปสมัครออดิชั่นเป็นไอดอลที่ญี่ปุ่นให้ทุกคนฟังกันค่ะ

ขอเล่าเกริ่นก่อนว่า ตัวเราเองก็เคยมีความฝันอยากเป็นไอดอลมาก่อน แต่ติดที่ว่าอายุเกิน20ปี (ซึ่งปกติไอดอลหญิงจะอายุน้อยมาก ประมาณ13-18 ปีค่ะ) จึงทำให้ล้มเลิกความฝันนั้นไป

แต่ตอนที่ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นและได้ไปเที่ยวที่นาโกย่าบังเอิญก็ไปดูไลฟ์ฟรีของวงไอดอลวงหนึ่ง (ปกติระบบของไอดอลญี่ปุ่นหลายๆวง มักจะมีไลฟ์คอนเสิร์ตฟรีเป็นครั้งคราว ให้ทั้งคนทั่วไปเเละโอตะได้ชมค่ะเพื่อให้คนรู้จักวงของเรามากขึ้น เเต่ถ้าหากอยากเข้าร่วมเเฟนมีตติ้ง อยากคุยกับศิลปิน อยากจับมือ หรือถ่ายรูปจะต้องเสียเงินซื้อซีดีหรือสินค้าต่างๆของศิลปินเพื่อให้ได้สิทธิ์เหล่านั้นค่ะ)

พอเราดูไลฟ์จบ ก็ได้ลองไปงานแฟนมีตติ้งถ่ายรูปกับสมาชิกวงไอดอลนี้ ด้วยความประทับใจ กลับมาบ้านเลยเปิดเว็บไซต์ของไอดอลวงนี้ดู ก็เห็นประกาศรับสมัครสมาชิกใหม่ของวงนั้น ที่สำคัญคือรับถึงอายุ 22 ปี ! ณ จุดๆนั้นคือปลื้มปริ่มมากๆค่ะ คิดว่าโอกาสสุดท้ายนั้นได้มาถึงแล้ว!!!วี้ดดดดดดด

แต่ว่า...ถึงจะบอกว่ารับถึงอายุ 22 ปี แต่ตอนนั้นเราอายุเกินมาได้ 7 วันค่ะ /นั่งสลด
แต่!! เราจะมายอมแพ้แก่ตัวเลขไม่ได้ ดังนั้น เป็นไงเป็นกัน ลองสมัครดู!

สมัครเป็นไอดอล

สมัครเป็นไอดอล

เลยลองเขียนสมัครด้วยอีเมล์ไป โดยคล้ายๆกับสมัครงานบริษัททั่วไปนั่นแหละค่ะ มีข้อมูลส่วนตัวเช่นชื่อ ที่อยู่ งานอดิเรก นั่นแหละค่ะ แต่ก็มีบางอย่างที่บริษัททั่วไปไม่ขอ (เช่นสัดส่วนต่างๆ)

และที่สำคัญคือเรื่องอายุ ที่เราค่อนข้างเป็นห่วงว่าจะไม่ผ่านเพราะอายุเกินมา7วันค่ะ เราก็เลยเขียนแนะนำตัวไปว่าตอนนี้อายุ 23 แต่เมื่อ 7 วันก่อนยังอายุ 22 ปีอยู่นะก๊ะ พร้อมแนบรูปไป 2 รูป แถมรูปที่ส่งไปนั้นคือรูปที่คิดว่าสวยที่สุด (แต่รูปนั้นก็คือรูปตอนที่ไปติ่งวงอื่นมาค่ะ อื้อหือ 5555)

ซึ่งผ่านไปไม่ถึงหนึ่งวัน ทางต้นสังกัดรีบตอบกลับมาอย่างไวว่า ผ่าน และอยากให้ไปสัมภาษณ์รอบสองที่สำนักงาน ตอนนั้นที่รู้ผลดีใจมากๆค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าที่ผ่านเพราะคนมันขาดหรือเขาสนใจที่เราสวย ประหลาด หรืออะไรกันเเน่ค่ะ 5555555

หลังจากตอบกลับอีเมล์ไปว่าสามารถไปออดิชั่นได้วันไหน หลังจากนั้นทางต้นสังกัดก็ส่งเนื้อหาเกี่ยวกับการออดิชั่นมาให้ว่าจะออดิชั่นที่ไหน ต้องทำอะไรบ้าง เราก็เลยซ้อมร้องเพลงกะเต้นไป เตรียมเพลง Koi ที่แปลว่าความรัก ของ Hoshino Gen ที่ตอนนั้นกำลังฮิตๆ (ซ้อมจนเพื่อนแทบเต้นด้วยได้)

พอถึงวันที่รอคอย ก็ไปถึงสำนักงาน ประหม่ามั่กมากกก พอไปถึงก็พบว่า วันนั้นมีเรามาสัมภาษณ์คนเดียว โปรดิวเซอร์ยิ้มร่าเดินมาหาพร้อมพูดว่า "ไม่ต้องแสดงหรอก มานั่งคุยกันเถอะ"

ประสบการณ์สัมภาษณ์

ประสบการณ์สัมภาษณ์

คุยกันเป็นชั่วโมง โดนถามคำถามมากมายเกี่ยวกับชีวิตเรา ไม่คิดเลยว่าจะสัมภาษณ์แบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับเวลาสมัครงานทั่วๆไปเลยค่ะ ส่วนเพลงที่เตรียมมา ที่กะว่าจะเต้นจะร้องเพลงโชว์ลูกคอ 18 ตลบนั้นไม่ได้เเสดงให้เขาชมค่ะ 5555555555

โปรดิวเซอร์ก็ถามคำถาม น่าจะดูนิสัยและทัศนคติต่างๆของเรา สัมภาษณ์เเบบเป็นกันเองมากๆค่ะ คุยไปอีกสักพักเขาก็แจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเป็นไอดอล ว่าเดือนหนึ่งได้เงินเท่าไหร่ แถมมีตารางการทำงานให้ดูเรียบร้อย

โปรดิวเซอร์: วันจันทร์-ศุกร์ซ้อมนะ วันศุกร์มีวิทยุตอนเวลานี้ๆ วันเสาร์อาทิตย์ออกอีเว้นท์ ทุกวันพฤหัสจะมีอีเว้นประจำคือ....นี่นั่นนู่น

เรา: เอ่อ... ถ้าหนูมาได้แค่ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ล่ะคะ (ตอนนั้นเราไม่ได้อาศัยอยู่ที่นาโกย่าค่ะ แลกเปลี่ยนอยู่ที่จังหวัดอื่น เลยไม่สามารถมาทุกวันได้จริงๆ)

โปรดิวเซอร์: คงไม่ได้นะ ต้องมาทุกวัน ถ้าหยุดซ้อมเป็นอะไรที่รับไม่ได้เลย เมมเบอร์ทุกคนต้องทำกฏเดียวกัน เธอต้องมานาโกย่าทุกวัน

เรา: ทุกวันเลยหรอคะ.... เอ่อออ .....หนูต้องกลับประเทศอีก6เดือนนะคะ โอเคไหมคะ

โปรดิวเซอร์: ......(เงียบไปสามนาที) เดบิวไปแล้วหายไปหกเดือนมันก็แปลกๆอยู่นะ

พอเข้าใจกันแล้วว่าคงทำงานด้วยกันไม่ได้ สุดท้ายก็เตรียมล่ำรากันค่ะ โปรดิวเซอร์มีการบอกก่อนกลับว่า "ขอโทษจริงๆนะ เสียดายมากๆ เรียนจบสมัครมาใหม่ได้ไหม ไม่ก็รอมาอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วสมัครอีก"

เราได้ยินเเบบนี้ก็เสียดายมากๆค่ะ เเต่กว่าจะได้กลับมาญี่ปุ่น ตัวเราคิดว่าไม่เหมาะที่จะเป็นไอดอลเเล้ว (ถึงเป็นก็ได้ทำไม่กี่ปี) จึงปฎิเสธไปค่ะ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

ถึงแม้จะน่าเสียดาย ที่สุดท้ายไม่ได้เป็นไอดอล แต่อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตก็ได้ลองทำตามความฝันดูแล้วค่ะ 555

ถ้าเพื่อนๆพี่ๆน้องๆคนไหนสนใจอยากลองออดิชั่นที่ญี่ปุ่น เพิร์ธสนับสนุนเต็มที่ค่ะ! ถึงแม้ว่าวงที่เราไปลองจะเป็นวงเล็กๆ ไม่ได้ดังเหมือนเครือ AKB48 แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆสำหรับสาวอายุเกินค่ะ /ยิ้มแห้ง

วันนี้ได้รู้ว่า ไอดอลนั้นก็คืออาชีพๆหนึ่งที่มีเงินเดือน และมีหน้าที่ๆต้องทำทุกวัน เหมือนกับงานอื่น และกว่าจะได้เป็นไอดอลเนี่ยก็ต้องมีการสมัคร การสัมภาษณ์ การดูประวัติส่วนตัว ซึ่งไม่ต่างจากการสมัครงานทั่วๆไปเลยละค่ะ ส่วนเนื้อหางานนั้นก็คือการซ้อมและการมอบความสุขเเละรอยยิ้มให้กับผู้ชมนั่นเองค่ะ

ใครที่สนใจจะลองสมัคร นอกจากเตรียมใจเเล้วก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทดีเเละที่สำคัญ "สัญญาว่าจ้าง" ดีๆนะคะ ^^

know-before-you-go