ตัวอย่าง 1-Day Trip ชมภูเขาไฟฟูจิ ทุ่งดอกชิบะซากุระ และสวนสนุก Fuji-Q Highland

เมื่อเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิ พออากาศเริ่มอบอุ่น ต้นไม้ดอกไม้ก็พากันออกดอกออกใบ ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ เราก็ต้องพาไปแหล่งชมดอกไม้สวยๆ กันใช่มั้ยล่ะคะ ในครั้งนี้ทางเราขอมาแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวบริเวณรอบภูเขาฟูจิ (Mt.Fuji) แบบง่ายๆ เป็นเส้นทางที่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือจะแก๊งเพื่อน คู่รักก็ไปได้เช่นกัน ไม่ว่าจะขับรถเที่ยวเองหรือนั่งรถสาธารณะก็สามารถตามรอยได้สบาย

เส้นทางที่เราจะแนะนำมีเพียง 2 จุด แต่สามารถอยู่ได้ทั้งวัน ได้แก่ เทศกาลฟูจิชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival) และโซนโทมัสแลนด์ (Thomas Land) ในสวนสนุกฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland)เอาล่ะ ทริปครั้งนี้จะน่าสนใจขนาดไหนไปอ่านกันได้เลยค่า!

ช่วงเช้า：แวะชมดอกไม้กับเทศกาลฟูจิชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival)

เริ่มต้นวันด้วยเช้าที่สดใสกับทุ่งดอกชิบะซากุระ (Shibazakura) หรือดอกพิงค์มอส (Pink Moss) สีชมพูสดตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าได้เป็นอย่างดีในงานฟูจิชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival) ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่ 16 แล้วค่ะ ภายในมีดอกชิบะซากุระทั้งหมดถึง 8 สายพันธุ์กันเลยทีเดียว พื้นที่กว้างขวางมาก และจุดถ่ายรูปเยอะจัดเต็ม ยิ่งในวันที่ฟ้าเปิดภูเขาไฟฟูจิซังก็จะออกมาให้ได้ชมกันแบบเต็มๆ ตาอีกด้วย

การเดินทางมาที่นี่สามารถเช่ารถมาเองหรือนั่งรถบัสจากคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Lake) แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต โดยรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หรือถ้ามาตรงจากชินจูกุ (Shinjiku) รถบัสจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ

ดอกชิบะซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน จนถึง เดือนพฤษภาคม ดอกไม้ชนิดนี้จะมีทั้งหมด 3 สีด้วยกัน คือ ชมพูเข้ม ชมพูอ่อน และ สีขาว

เพื่อนๆ ทราบมั้ยคะ ว่าที่งานนี้มีต้นชิบะซากุระและดอกไม้อื่นๆ มากถึง 500,000 ต้น และกว้างถึง 15,000 ตารางเมตรเลยทีเดียว! โซนที่คิดว่าน่ารักมากๆ คือบริเวณที่ตกแต่งดอกชิบะซากุระเป็นรูปหัวใจตามรูปนี้เลยค่ะ

ภายในงานจะมีจุดชมดอกไม้อยู่หลายจุด ทั้งจุดที่เป็นทุ่งดอกไม้และจุดที่มีพร็อบ (Props) ตั้งประกอบเพื่อสร้างความน่าสนใจในการถ่ายรูปให้มากขึ้น นอกจากจุดถ่ายรูปแล้ว ยังมีจุดขายอาหารที่เป็นร้านอาหาร คาเฟ่ และรถฟู้ดทรัค (Truck Food) อีกด้วย ซึ่งจำหน่ายอาหารที่ทานง่ายๆ อาทิ ทาโกยากิ ไก่คาราอาเกะ หรือของหวานไม่ว่าจะเป็นคาสเทลล่า หรือไอศครีมก็มีเช่นกันค่ะ

แนะนำจุดถ่ายรูปภายในงาน

1. ล่องเรือในทุ่งซากุระ : เป็นจุดที่สวยมาก ทุกคนสามารถลงไปนั่งในเรือและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ สวยเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในนิยายเลย พายเรือในทุ่งดอกชิบะซากุระ จุดนี้เป็นจุดถ่ายรูปใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวปีนี้เลยนะคะ ไม่ควรพลาดเลย

2. ประตูสีเหลือง : สีเหลืองของประตูและดอกชิบะซากุระสีตัดกันสวยมาก จุดนี้ตอนเห็นครั้งแรกคิดถึงประตูไปไหนก็ได้ของโดราเอม่อนมากค่า

3. ชิบะซากุระรูปหัวใจ : ความตั้งใจของคนจัดสวนที่เรียกดอกชิบะซากุระสีขาวจนเป็นรูปหัวใจ และรายล้อมด้วยดอกสีชมพู โรแมนติกมากกกก มีเก้าอี้สีชมพูหวานแหววให้ได้นั่งถ่ายรูปกันด้วย

ช่วงเที่ยง：แวะทานข้าวที่คาเฟ่ Peter Rabbit English Garden The Cafe

Peter Rabbit English Garden The Cafe นี้ตั้งอยู่ในภายสวนเลยค่ะ ที่นี่ใช้ผักท้องถิ่นที่เป็นผักประจำฤดูมาประกอบอาหาร สีสันของผัดสีสันสดใสน่าทานเอามากๆ รวมไปถึงทั้งบรรยากาศในร้านที่ตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่ ทำให้ดูโล่งไม่แออัด สามารถชมวิวดอกไม้ไปด้วยรับประทานอาหารไปด้วย เหมาะเป็นที่พักผ่อนคลายความเหนื่อล้าหลังถ่ายรูปมาจากด้านนอกได้เป็นอย่างดี

การตกแต่งด้านในจะตกแต่งสไตล์คันทรีมีคาแรคเตอร์จากการ์ตูนเรื่องปีเตอร์ แรบบิท (Peter Rabbit) วาดตกแต่งน่ารักสุดๆ คนชอบปีเตอร์ แรบบิท ต้องหลงรักที่นี่เหมือนเราอย่างแน่นอน

อาหารของที่นี่จะเน้นเป็นอาหารสไตล์ฝรั่ง เช่น เมนูขนมปัง แซนด์วิช ขนมเค้ก หรือหากใครชอบทานข้าวที่นี่ก็มีเมนูข้าวกับเนื้ออบ (Roast Beef) ให้ทานเช่นกันค่ะ ถ้าใครไม่สะดวกนั่งทานที่ร้านก็สามารถซื้อชูครีมเมนูแนะนำของที่ร้านกลับบ้านได้เช่นกัน เมนูเค้กของที่นี่นั้นอร่อย ครีมละมุนนุ่มลิ้นสุดๆ หรือถ้าใครเป็นนักสะสมเจ้ากระต่ายน้อย ที่นี่ก็มีร้านของฝากเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ปีเตอร์ แรบบิท เช่นกันจ้า

เมนูแนะนำ

บลูมพายมีทซอส (Bloom Pie Meat Sauce) น่าทานตั้งแต่ยกมาเสริฟเลยทีเดียว แป้งพายกรอบนอกนุ่มใน กับมีทซอสหรือซอสเนื้อรสชาติกลมกล่อม ชิ้นใหญ่มากกกก สั่งมาที่เดียวสามารถแบ่งทานได้หลายคนเลย

Afternoon Tea Set (ท่านละ 4,000 เยน) ภายในเซตประกอบด้วยแซนด์วิช เค้ก สโคน และ ชา ธีมของที่นี่จะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจิบชาในสวนอังกฤษ ทางร้านจะใส่แซนด์วิชมาในตระกร้าปิกนิก พร้อมกับเซ็ตขนมหวานไม่ว่าจะเป็นมาการอง ขนมเค้กชิ้นจิ๋ว แบบฝรั่งมาเลย น่ารักมากๆ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fuji Shibazakura Festival 2023

Fuji Shibazakura Festival 2023

การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Station) ไปลงที่สถานีปลายทาง ฟูจิโมโตสุโกะ รีสอร์ต (Fuji Motosuko Resort)ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที
ระยะเวลาจัดแสดง : 15 เมษายน - 28 พฤษภาคม 2023 เวลาทำการสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ : http://www.fujimotosuko-resort.jp (ภาษาญี่ปุ่น มีให้เลือกภาษาอังกฤษด้านในเว็บไซต์)
ค่าเข้าชม : วันที่ 15 เมษายน - 21 เมษายน และ 15 พฤษภาคม - 28 พฤษภาคม สำหรับผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 400 เยน, วันที่ 22 เมษายน - 14 พฤษภาคม สำหรับผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน
ช่องทางการจอง : https://www.fujikyu-travel.co.jp/free/SZ_2.html (ภาษาญี่ปุ่น มีให้เลือกภาษาอังกฤษด้านในเว็บไซต์)

ช่วงบ่าย：ตะลุยต่อกับสวนสนุกสุดมันส์ Fuji-Q Highland

เมื่อช่วงเช้าจบไปแล้ว ต่อไปเราจะพาทุกคนเดินทางไปสวนสนุก Fuji-Q Highland ที่คาดว่าหลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักเป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้เราไม่ได้จะพาทุกคนไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวนะคะ แต่จะพาไปรู้จักกับโซน Thomas Land การ์ตูนรถไฟขวัญใจน้องๆ หนูๆ ซึ่งปีนี้ได้จัดงานครบรอบ 25 ปีพอดี รวมไปถึงโซน Lisa and Gaspard ซึ่งครบรอบ 10 ปีเช่นเดียวกัน อาหารกับขนมพิเศษน่าทานรอพวกเราอยู่ค่า

※ การเดินทางจากงานเทศกาลชิบะซากุระไปยังสวนสนุก Fuji-Q Highland สามารถขับรถต่อหรือนั่งรถบัสสาธารณะ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที (กรณีถ้ารถไม่ติด)

สวนสนุก Fuji-Q Highland ถึงจะขึ้นชื่อเรื่องเครื่องเล่นที่ค่อนข้างหวาดเสียว โดยเฉพาะรถไฟเหาะและบ้านผีสิง หลายๆ ท่านคงคิดว่าไม่เหมาะกับเด็กเล็กแน่ๆ แต่เราจะมาบอกว่าท่านคิดผิดค่ะ! นอกจากเครื่องเล่นสำหรับผู้ใหญ่แล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องเล่นสำหรับเด็กเล็กอีกด้วย นั่นคือ Thomas Land หรือรถไฟคุณโทมัสที่เราพูดถึงไปเมื่อสักครู่นั่นเองค่ะ

แค่ทางเข้าก็น่ารักสุดๆ แล้วใช่มั้ยคะ ใครที่ไม่มีเด็กเดินทางมาด้วย ก็สามารถแวะเข้าไปถ่ายรูปได้นะคะ จุดถ่ายรูปสวยๆ เพียบเลย

Thomas Land ปีนี้พิเศษกว่าปีอื่นๆ เพราะมีการจัดงานครบรอบ 25 ปีด้วย ภายในโซนนี้จึงตกแต่งธีมครบรอบ 25 ปีไว้หลายจุด มีการตกแต่งรถไฟคุณโทมัสและผองเพื่อนไว้อย่างสวยงาม เด็กๆ สามารถไปถ่ายรูปได้เลยค่ะ นอกจากจุดถ่ายรูปแล้ว เครื่องเล่นที่นี่ยังมีให้เลือกอย่างหลากหลาย ทั้งรถไฟเหาะของเด็ก ล่องแก่ง หรือเขาวงกต น่าเล่นหลายเครื่องเลย

นอกจากเครื่องเล่นและจุดถ่ายรูปแล้ว ไฮไลต์ของงานนี้ก็คงหนีไม่พ้นห้องอาหาร Thomas Land ห้องอาหารน่ารักมากๆ ตกแต่งสีสันสดใส มีมุมสำหรับจัดงานวันเกิดด้วยนะคะ และช่วงนี้ถ้าเด็กคนไหนสั่งเซ็ตพิเศษ "อาหารครบรอบ 25 ปี Thomas Land" เมื่อทานเรียบร้อยแล้ว สามารถนำจานกลับไปเป็นที่ระลึกได้อีกด้วย! ตอนที่ไปโต๊ะข้างๆ เด็กน้อยดีใจกันมาก เห็นแล้วอยากสั่งตามเลยค่ะ ฮ่าๆ

เซ็ตจานที่สามารถนำกลับบ้านได้ จะมีทั้งหมดสองแบบค่า ราคาจะอยู่ที่ 2,000 - 3,000 เยน อาหารมีหลากหลายเหมาะสำหรับเด็กเล็กมากๆ ค่ะ สำหรับวิธีการรับเซ็ตจานกลับบ้านนั้นไปแจ้งเจ้าหน้าที่โดยการเอาจานที่ทานเสร็จแล้วไปเก็บ เจ้าหน้าที่จะให้จานใหม่มาให้ทั้งเซ็ต น่าสะสมสุดๆ

ปิดท้ายด้วยการแวะไปโซนกัสปาร์และลิซ่า (Lisa and Gaspard)

ก่อนกลับจาก Fuji-Q Highland อย่าลืมที่จะแวะเมืองน่ารักๆ สไตล์ยุโรปของกัสปาร์และลิซ่า (Lisa and Gaspard) กันด้วยนะคะ ซึ่งอยู่บริเวณทางออกของสวนสนุก ที่นี่ก็มีจุดถ่ายรูป ขนมและเครื่องดื่มสุดพิเศษที่ตกแต่งแบบเก๋ๆ จำหน่ายอยู่เช่นกัน ใครที่เป็นสาย Instagrammer ห้ามพลาดเลยทีเดียว ทั้งไอศครีม บานานาช็อกโก นอกจากจะเป็นพร็อบถ่ายรูปสวยแล้วยังอร่อยมากอีกด้วยน้า

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fuji-Q Highland

Fuji-Q Highland (Thomas Land＆Lisa and Gaspard)

การเดินทาง : นั่งรถบัสจากสถานีรถบัสชินจูกุ (Shinjuku Bus Station) ไปลงที่สถานีปลายทาง ฟูจิคิว ไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หรือหากนั่งรถจากงานเทศกาลชิบะซากุระ ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที
ระยะเวลาจัดแสดง : โซน Thomas Land 18 มีนาคม - 6 พฤษภาคม 2023 และโซน Lisa and Gaspard 27 เมษายน - 25 มิถุนายน
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 09.30-17.00, วันเสาร์ 09.00-19.00, วันอาทิตย์ 09.00-18.00
ค่าเข้าชม : ปัจจุบันทางสวนสนุก Fuji-Q Highland ไม่คิดค่าเข้าชม แต่จะชำระเป็นแต่ละเครื่องเล่นแทน
(โซน Thomas Land เครื่องเล่นราคาเครื่องละ 400-500 เยน และโซน Lisa and Gaspard ราคา 800 เยน)
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : https://www.fujiq.jp/en (ภาษาอังกฤษ)