allabout japan
allabout japan

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคิวชู

แนะนำ 10 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีในภูมิภาคคิวชู

ฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงเวลาแห่งทิวทัศน์ที่สวยงาม ทั้งจากใบเมเปิ้ลญี่ปุ่นสีแดงและใบแปะก๊วยสีเหลืองสดใส ในภูมิภาคคิวชู (Kyushu) ส่วนใหญ่จะเริ่มพีคตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนธันวาคม ถือเป็นภูมิภาคที่ใบไม้เปลี่ยนสีช้าที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ไปเที่ยวปลายปี โดยที่เลือกมาส่วนใหญ่เป็นจุดที่สามารถเดินทางจากฟุกุโอกะ (Fukuoka) ได้สะดวก

By Japan Travel Editor

※หมายเหตุ บทความนี้เริ่มเผยแพร่ในช่วงวิกฤติโคโรน่าไวรัสสายพันธ์ุใหม่ (COVID-19) ในปี 2020 ไม่ว่าจะอ่านบทความนี้เมื่อไหร่ก็ตาม ผู้ที่ต้องการไปเที่ยวควรพิจารณาด้วยตัวเองหากสถานการณ์ยังไม่กลับสู่สถานะปกติ※

1. ภูเขาคูจู จังหวัดโออิตะ (Mt.Kuju, Oita)

https://pixta.jp/

1. ภูเขาคูจู จังหวัดโออิตะ (Mt.Kuju, Oita)

ภูเขาเขาคูจู (Mt.Kuju) คือทิวเขาสูงที่ทอดตัวเป็นแนวยาวในพื้นที่เมืองโคโคโนเอะ (Kokonoe) และยอดเขานาคาดาเกะ(Nakadake) ที่มีความสูง 1,791 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลก็ถือว่าสูงที่สุดในเกาะคิวชู เมื่อประกอบกับแนวเทือกเขาความสูงใกล้เคียงกันจึงทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น “หลังคาของคิวชู” ที่นี่เป็นเส้นทางเดินและปีนเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยวทุกฤดู เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงตามทิวเขาก็จะแต่งแต้มด้วยสีของใบไม้เปลี่ยนสีสดใส จึงได้ชื่อว่าเป็นจุดชมทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถ JR Bus ไปลงที่สถานีบุงโกะนากามุระ (Bungo Nakamura Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสประจำทางไปลงป้าย Kuju-Tozanguchi ใช้เวลา 1 ชั่วโมง และเดินต่ออีกเล็กน้อย

2. อุนเซ็น หุบเขานิตะ จังหวัดนางาซากิ (Unzen Nita Pass, Nagasaki)

https://pixta.jp/

2. อุนเซ็น หุบเขานิตะ จังหวัดนางาซากิ (Unzen Nita Pass, Nagasaki)

หุบเขานิตะ (Nita Pass) เป็นจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งภูเขาอุนเซ็น (Mt.Unzen) โดยมีไฮไลท์คือกระเช้าโรปเวย์ชมทิวทัศน์เหนือสันเขา (Unzen Ropeway) ซึ่งในฤดูใบไม้ร่วงนอกจากจะได้พบกับวิวใบเมเปิ้ลสีแดงสุดลูกหูลูกตาแล้วก็ยังมีสีสันของดอกไม้ชนิดอื่นให้ได้ชมด้วย เช่น ทุ่งดอกอาซาเลีย (Azalea) หรือกุหลาบพันปีสีชมพูที่บานสะพรั่ง รวมทั้งยังมีวิวธรรมชาติของเทือกเขาที่ล้อมรอบอย่างภูเขาเมียวเกนดาเกะ (Mt. Myokendake) และภูเขาฟูเก็นดาเกะ (Mt. Fugendake) รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ที่ให้บริการสำหรับพักผ่อนได้ด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ค่าบริการกระเช้าโรปเวย์ : ผู้ใหญ่ ไป-กลับ 1,260 เยน เที่ยวเดียว 630 เยน

เด็ก ไป-กลับ 630 เยน เที่ยวเดียว 320 เยน

เวลาทำการ : 08.30 - 17.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟด่วนพิเศษ Limited Express Kamome ตรงไปลงที่สถานีอิสะฮายะ (Isahaya Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที จากนั้นต่อรถบัส Shimatetsu Bus ไปลงที่ Unzen Onsen ใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง 20 นาที

3. ทะเลสาบโอนามิ จังหวัดคาโกชิมะ (Onami Lake, Kagoshima)

https://pixta.jp/

3. ทะเลสาบโอนามิ จังหวัดคาโกชิมะ (Onami Lake, Kagoshima)

ทะเลสาบโอนามิ (Onami Lake) เป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคิริชิมะ คิงโควัน (Kirishima Kinkowan National Park) จังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องเส้นทางสำรวจธรรมชาติและเดินป่าปีนเขายอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ โดยทะเลสาบแห่งนี้เกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟ ลักษณะเหมือนแอ่งน้ำวงกลมสีฟ้าที่มีป่าดึกดำบรรพ์กับภูเขาล้อมรอบบนความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,411 เมตร ในฤดูใบไม้ร่วงที่นี่จึงเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามตระการตาที่สุดแห่งหนึ่งกับภาพทิวทัศน์ใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง สะท้อนผืนน้ำสีฟ้าราวกับภาพวาดศิลปะ ซึ่งการจะเดินทางขึ้นมาชมวิวจะมีเส้นทางปีนเขาชื่อ Onami-ike Trailhead ระยะทางราว 1.25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 40 นาที

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคาโกชิมะชูโอ (Kagochima-chuo Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที ต่อรถไฟสาย JR Nippo line ไปลงสถานีคิริชิมะจิงกู (Kirishima-jingu Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ Maruo Hot Spring เพื่อขึ้นรถบัสนำเที่ยวเทือกเขาคิริชิมะและไปลงที่ Onamiike Tozanguchi ใช้เวลาอีกประมาณ 40 นาที

4. สวนแปะก๊วยพันต้น เมืองทารุมิซุ จังหวัดคาโกชิมะ (Tarumizu Thousand Ginkgo, Kagoshima)

https://pixta.jp/

4. สวนแปะก๊วยพันต้น เมืองทารุมิซุ จังหวัดคาโกชิมะ (Tarumizu Thousand Ginkgo, Kagoshima)

สวนแปะก๊วยพันต้น (Tarumizu Thousand Ginkgo) เป็นสถานที่ชมใบแปะก๊วยสีเหลืองที่มีชื่อเสียงมากในจังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) มีต้นแปะก๊วยราว 1,200 ต้น ปลูกอยู่เรียงรายในสวนแห่งนี้ และเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบแปะก๊วยเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งหมดก็มีทิวทัศน์สีเหลืองอร่ามงดงามทั่วบริเวณ อีกทั้งช่วงกลางคืนก็จะมีงานเทศกาลประดับไฟ (Light up) ฤดูใบไม้ร่วงให้นักท่องเที่ยวได้เดินเที่ยวชมในช่วงค่ำคืนซึ่งเป็นบรรยากาศที่สวยงามอีกแบบหนึ่ง

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณต้นเดือนถึงกลางเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคาโกชิมะชูโอ (Kagochima-chuo Station) ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที และในช่วงเทศกาลชมใบแปะก๊วยฤดูใบไม้ร่วงจะมีรถบัสรับ-ส่งไปยัง Tarumizu thousand ginkgo biloba วันละ 4 รอบ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

5. หุบเขาทาคาจิโฮะ จังหวัดมิยาซากิ (Takachiho Gorge, Miyazaki)

https://pixta.jp/

5. หุบเขาทาคาจิโฮะ จังหวัดมิยาซากิ (Takachiho Gorge, Miyazaki)

หุบเขาทาคาจิโฮะ(Takachiho Gorge) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดมิยาซากิ (Miyazaki) ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนลึกลับที่สุดแห่งหนึ่งในคิวชูซึ่งมีทั้งธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในบริเวณเดียวกัน เช่น ศาลเจ้าที่เป็นจุดเสริมพลังชีวิต (Power Spot) ในถ้ำอามาโนะยาซุกาวาระ (Amano Yasugawara) และในฤดูใบไม้ร่วงก็จะได้พบกับทิวทัศน์ใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองสุดตระการตาจากป่าไม้บนเทือกเขาที่ล้อมรอบพื้นที่หุบเขาแห่งนี้ โดยเฉพาะจุดชมวิวบริเวณน้ำตก มานาอิโนทาคิ (Manai-no-taki Waterfall) ซึ่งสามารถพายเรือกลางน้ำชมวิวอีกมุมมองได้ด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี แต่ถ้าสนใจพายเรือจะมีค่าใช้จ่าย 2,000 เยน ต่อ 30 นาที นั่งได้ไม่เกิน 3 คน

เวลาทำการ : 08.30-17.00 น. ช่วงเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีกการจัดแสดงไฟเวลา 18.00-22.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงที่สถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) จากนั้นต่อรถบัส ไปลงที่ Takachiho Bus Center ใช้เวลา 3 ชั่วโมง และเดินต่ออีก 30 นาที

6. สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น จังหวัดซากะ (Mifuneyama Rakuen Garden, Saga)

https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Azalea_Valley_in_Mifuneyama_Garden_and_Mount_Mifuneyama_6.jpg

6. สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น จังหวัดซากะ (Mifuneyama Rakuen Garden, Saga)

สวนมิฟุเนะยามะราคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen Garden) เป็นสวนญี่ปุ่นขนาดกว้างใหญ่ที่มีบรรยากาศสวยงามจากพืชพรรณไม้ทุกฤดูกาล มีจุดเด่นคือภูเขาลูกใหญ่และทุ่งดอกอะซาเลีย (Azalea) ในฤดูใบไม้ผลิ และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงทิวทัศน์รทั่วทั้งสวนก็จะแน่นขนัดด้วยวิวใบไม้สีแดง ส้ม เหลืองสดใสให้ทุกคนได้รื่นรมย์กับความงามของของธรรมชาติผสมผสานกับภาพของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณที่ตั้งอยู่ในสวนได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ในช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีก็จะมีการจัดงานเทศกาลโมมิจิ (Momiji Matsuri) ซึ่งในยามค่ำคืนก็จะมีการประดับไฟสว่างไสวในสวนให้ได้เดินเที่ยวชมและถ่ายภาพสวยๆ กันอย่างเพลิดเพลิน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 600 เยน, เด็ก 300 เยน, เด็กต่ำกว่าวัยเรียนชมฟรี

เวลาทำการ : 08.00-17.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

ช่วงเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีกการจัดแสดงไฟเวลา 17.00-22.00 น.
การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟ Limited Express Sasebo Line ไปลงที่สถานีทาเคโอะออนเซ็น (Takeo Onsen) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อแท็กซี่อีกเล็กน้อย

7. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Shiranoe Botanical Garden, Fukuoka)

https://pixta.jp/

7. สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Shiranoe Botanical Garden, Fukuoka)

สวนพฤกษศาสตร์ชิราโนเอะ (Shiranoe Botanical Garden) ภายในเป็นสวนที่มีต้นไม้ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนผลิบานตลอด 4 ฤดู และในฤดูใบไม้ร่วงก็มีจุดชมวิวใบไม้แดงหลายจุดภายในพื้นที่แห่งนี้ซึ่งมีการปลูกต้นเมเปิ้ลญี่ปุ่นไว้กว่า 800 ต้น รวมทั้งไม้ผลัดใบอื่นๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ส้ม แดงให้ได้ชื่นชมความงดงาม นอกจากนี้ก็ยังมีร้านน้ำชาในสวนให้นั่งพักผ่อนดื่มชากับขนมหวานในอาคารสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมท่ามกลางอากาศเย็นสบายของฤดูใบไม้ร่วงกับทิวทัศน์ของการตกแต่งสวนที่ไม่ได้มีเพียงแค่ใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น


ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 300 เยน, เด็ก 150 เยน

เวลาทำการ : 09.00-17.00 น. และปิดทุกวันอังคาร (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีโคคุระ (Kokura Station) แล้วต่อรถไฟสาย Kagoshima Line ไปลงที่สถานีโมจิโกะ (Mojiko Station) ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นนั่งรถบัสหมายเลข 41 ที่หน้าสถานี ไปลงป้าย Shiranoe 2 cho-me และเดินอีก 2 นาที

8. สวนคุเนนอัน จังหวัดซากะ (Kunenan Garden, Saga)

https://pixta.jp/

8. สวนคุเนนอัน จังหวัดซากะ (Kunenan Garden, Saga)

สวนคุเนนอัน (Kunen-an Gardens) ในจังหวัดซากะ (Saga) เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในคิวชู โดยสวนแห่งนี้จะเปิดให้คนภายนอกเข้ามาเที่ยวชมทิวทัศน์เฉพาะช่วงสั้นๆ ในฤดูใบไม้ร่วงของแต่ละปีเป็นเวลา 9 วัน บรรยากาศด้านในก็จะได้พบกับวิวใบไม้แดงในสวนดั้งเดิมแบบญี่ปุ่นและอาคารสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ และในช่วงที่เปิดให้บุคคลภายนอกเข้าไปชมใบไม้แดง ที่บริเวณหน้าทางเข้าก็อาจมีการจัดงานออกร้านขายของเหมือนตลาดย่อมๆ ให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมกันด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : 400 เยน

เวลาทำการ : 08.30-16.00 น. (หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาในปีปกติ หลังจากปี 2020 อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เนื่องจากอิทธิพลของ COVID-19)

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีชินโทสุ (Shin-Tosu Station) แล้วต่อรถไฟสาย Nagasaki Line ไปลงที่สถานีคันซากิ (Kanzaki Station)ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Kunenan ใช้เวลาอีก 10 นาที

9. สวนไมซุรุและซากปราสาทฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Maizuru Park and Ruins of Fukuoka Castle, Fukuoka)

https://pixta.jp/

9. สวนไมซุรุและซากปราสาทฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ (Maizuru Park and Ruins of Fukuoka Castle, Fukuoka)

ซากปราสาทฟุกุโอกะ (Ruins of Fukuoka Castle) ตั้งอยู่ภายในสวนไมซุรุ (Maizuru Park) ปัจจุบันนี้ก็ยังหลงเหลือส่วนของฐานปราสาททำจากหินกับกำแพงป้อมปราการบางส่วนให้ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของสิ่งปลูกสร้างในอดีต และที่นี่ยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีฤดูใบไม้ร่วงแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมในฟุกุโอกะ เนื่องจากสามารถเดินทางเข้าถึงได้สะดวก และมีจุดชมวิวมุมสูงบนเนินใกล้กับป้อมปราการ เหมาะกับการมาชมทิวทัศน์ใบไม้สีเหลือง ส้ม แดง และพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ใกล้ๆ กันก็ยังมีสวนโอโฮริ (Ohori Park) ที่เป็นอีกจุดชมใบไม้แดงแต่งแต้มสีสันทั่วทั้งพื้นที่ซึ่งไม่ควรพลาดเช่นกัน

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณกลาง-ปลายเดือนพฤศจิกายน

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟใต้ดินสายสนามบิน (Kuko Line) ไปลงสถานีอากะซากะ (Akasaka Station) ใช้เวลา 8 นาที แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย

10. ถนนสายต้นแปะก๊วย หน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ (Rows of Gingko Trees at Kumamoto Prefectural Government Building)

https://pixta.jp/

10. ถนนสายต้นแปะก๊วย หน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ (Rows of Gingko Trees at Kumamoto Prefectural Government Building)

ถนนสายต้นแปะก๊วยหน้าที่ทำการจังหวัดคุมาโมโตะ เป็นจุดชมใบแปะก๊วยสีเหลืองทองอร่ามอีกแห่งในฤดูใบไม้ร่วง โดยถนนแห่งนี้จะมีต้นแปะก๊วยอยู่เรียงรายสองฝั่งถนนเป็นระยะทางประมาณ 200 เมตร ซึ่งเมื่อถึงช่วงพีคก็จะได้พบกับภาพบรรยากาศเหมือนอุโมงค์แปะก๊วยและใบไม้สีเหลืองราวกับปูพรมเต็มท้องถนน อีกทั้งในแต่ละปีเมื่อถึงฤดูใบไม้ร่วงก็จะมีการงานประดับไฟ (Light up) ช่วงค่ำคืนให้ได้ดื่มด่ำกับสีสันของแสงไฟและบรรยากาศโรแมนติกด้วย

ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี: ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนธันวาคม

ค่าเข้าชม : ฟรี

เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง

การเดินทาง : จากสถานีฮากาตะ (Hakata Station) ขึ้นรถไฟชินคังเซ็นไปลงสถานีคุมาโมโตะ (Kumamoto Station) ใช้เวลา 40 นาที แล้วต่อรถบัสประจำทางไปลงที่ป้าย Kumamoto Kencho mae ใช้เวลาประมาณ 30 นาที และเดินต่ออีก 5 นาที

Japan Travel Editor

เรารวบรวมไอเดียเที่ยวญี่ปุ่นอันหลากหลายมาให้คุณ ตั้งแต่ถนนใหญ่สายช้อปปิ้งในเมืองโตเกียว วัดและศาลเจ้าโบราณสุดขลัง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติทั้งดอกซากุระสีชมพู ใบไม้แดง วิวหิมะขาวๆ ทีมงานของเราจะนำข้อมูลดีๆมาให้คุณ