ลุยที่เที่ยวติดรถไฟสาย Midosuji Line
Midosuji Line
「M-19] สถานีชินไซบาชิ (Shinsaibashi Station)
สถานีชินไซบาชิเป็นสถานีขนาดใหญ่ใต้ดิน เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟใต้ดิน Yotsubashi และสถานี Nagahoribashi รวมทั้งสามารถเดินเข้าไปยังพื้นที่ของศูนย์การค้าใต้ดินซึ่งกว้างติดอันดับของญี่ปุ่นอย่าง คริสตัล นางาโฮริ (Crysta Nagahori) ได้ด้วย ทางเดินค่อนข้างกว้างทำให้เดินกันได้สบายๆ โดยไม่เบียดเสียด มีร้านเสื้อผ้า ร้านขนม ร้านอาหารหลากหลายรวมแล้วกว่า 200 ร้านเป็นช็อปเรียงรายตลอดสองฝั่งในห้างเป็นระยะทางยาวกว่า 700 เมตร โดยรวมแล้วทั้งสถานีชินไซบาชิ สภานีใกล้เคียง และย่านการค้า รวมกันแล้วเหมือนเป็นเมืองใต้ดินขนาดใหญ่แห่งนึงเลยทีเดียว
ถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิ (Shinsaibashi-Suji Shopping Street)
ถนนช้อปปิ้งชินไซบาชิ เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นที่สุดของบริเวณรอบๆ สถานีนี้ เป็นย่านช้อปปิ้งชื่อดังอีกแห่งของโอซาก้าซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยว เต็มไปด้วยร้านเสื้อผ้าแฟชั่นหลากสไตล์ ร้านขายยา ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านของดิวตี้ฟรี ร้านขายของกระจุกกระจิก กิ้ฟช็อปต่างๆ ร้านขายของคาแรกเตอร์การ์ตูนดังๆอยางเช่นดิสนีย์และซานริโอ ไปจนถึงร้านอาหาร ร้านขนม เครื่องดื่ม และคาเฟ่เก๋ๆ จนบรรยายได้ไม่หมด อยากให้ลองมาแวะเที่ยวกัน เวลาเปิด-ปิดขึ้นอยู่กับแต่ละร้าน เริ่มที่ประมาณ 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่ม
[M-20] สถานีนัมบะ (Namba Station)
สถานีนัมบะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟหลายสาย ทั้งรถไฟ JR รถไฟใต้ดิน รถไฟเอกชนคินเท็ตสึและนันไก และเนื่องจากเป็นสถานีสำคัญรถไฟด่วนต่างๆ จึงมักจะจอดที่นี่ด้วย ถ้าต้องการเปลี่ยนเส้นทางไปยังจุดหมายที่ต้องการก็ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟที่นี่เลย
รอบๆ สถานีนัมบะเป็นย่านศูนย์กลางการช้อปปิ้งขนาดใหญ่ รวมแหล่งบันเทิงต่างๆ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ถนนสายช้อปปิ้งชื่อดังหลายสาย ตรอกกินดื่มที่เปิดตอนเย็นๆ อย่างพวกร้านอิซากายะ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เรียกว่าถ้าแวะมาเที่ยวแถวนี้ก็สนุกได้ตั้งแต่ออกจากสถานีมาเลย โดยที่นี่เป็นสถานีที่ใกล้กับป้ายไฟกูลิโกะมากที่สุด
ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)
ที่นี่เป็นย่านของแหล่งช้อปปิ้งและอาหารการกินชื่อดังที่ไม่น่ามีใครไม่รู้จัก ป้ายไฟกูลิโกะที่มีบุรุษชูแขนรอต้อนรับผู้มาเยือนเป็นแลนด์มาร์กของย่านโดทงโบรินี้เอง ไม่ว่าใครมาเที่ยวย่านนี้ก็ต้องไม่พลาดถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับป้ายไฟกูลิโกะที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่ ร้านของกินก็ตกแต่งได้แปลกตาและเรียกแขกดีอย่างเช่น ร้าน Kanidoraku ที่มีปูตัวใหญ่ขนาด 6.5 เมตรเกาะอยู่หน้าร้านซึ่งสามารถขยับขาได้ด้วย
ย่านโดทงโบริเป็นแหล่งช้อปปิ้ง รวมอาหารการกินและความบันเทิงหลากหลาย และเป็นย่านที่เปิดดึกมาก ร้านค้าที่นี่หลายร้านมักเปิดให้บริการกัน 24 ชั่วโมง เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเห็นชีวิตกลางคืน
[M-22] สถานีโดบุตสึเอ็นมาเอะ (Dobutsuen-mae Station)
สถานีโดบุตสึเอ็นมาเอะ (แปลว่า สถานีหน้าสวนสัตว์) เป็นหนึ่งในสถานีพื้นที่สีเขียวของเมืองโอซาก้า ภายในตัวสถานีมีความน่าสนใจเป็นพิเศษคือตามเสาและฝาผนังของสถานีจะมีภาพสัตว์ต่างๆ โดยตรงเสาจะเป็นภาพบั้นท้ายของน้องสัตว์ให้เราตามไปสู่ทางออก เป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ มาก เมื่อออกจากสถานีก็จะเจอตรอกจังจัง (Janjan Yokocho) เป็นตรอกคนเดินแคบๆ สองฝั่งจะเป็นร้านของกินโดยเฉพาะทาโกะยากิกับอาหารชุบแป้งทอดเสียบไม้ที่เรียกว่าคุชิคัตสึ (Kushikatsu) มีอยู่หลายร้าน ร้านอาหารแถวนี้มักจะเป็นแบบยืนรับประทาน คือมีแค่โต๊ะให้แต่ไม่มีเก้าอี้นั่ง อาจเนื่องด้วยข้อจำกัดของพื้นที่
สวนสัตว์เท็นโนจิ (Tennoji Zoo)
สวนสัตว์เท็นโนจิเป็นสวนสัตว์เก่าแก่ที่ก่อจั้งมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1915 แม้จะอยู่กลางเมืองแต่ก็เป็นสวนสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ มีสัตว์เลี้ยงไว้รวมกว่า 200 ชนิดรวมมากกว่าพันตัว ข้างในสวนสัตว์มีการจัดแสดงแบ่งเป็นโซนๆ แสดงให้เห็นระบบนิเวศของสัตว์ต่างๆ เช่น โซนสัตว์เลื้อยคลาน โซนทุ่งหญ้าซาวันน่าแอฟริกาก็มีบรรดาสัตว์อย่างฮิปโปโปเตมัส ยีราฟ และสิงโตอาศัยอยู่ บรรยากาศเหมือนอยู่ในทุ่งหญ้าซาสันน่าจริงๆ ไฮไลท์อยู่ที่น้องหมีขาวขั้วโลกที่หาดูได้ยาก
เวลาทำการ
09.30 - 17.00 น.
วันหยุด
ปิดทุกวันจันทร์
29 ธันวาคม - 1 มกราคม
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 500 เยน
เด็ก 200 เยน
(หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาทำการในช่วงเวลาปกติ)
[M-23] สถานีเท็นโนจิ (Tennoji Station)
สถานีเท็นโนจิอยู่ในย่านที่แวดล้อมด้วยอาคารทันสมัยในตัวเมืองโอซาก้า ตรงข้ามอาคารสถานีเป็นห้างสรรพสินค้าอาเบะโนะ ฮารุกัส คิงเท็ตสึ (Abeno Harukas Kintetsu Department Store) ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ มากมาย ซึ่งที่นี่จัดว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นก็ว่าได้ นอกจากห้างก็ยังเป็นที่ตั้งของจุดชมวิวเมืองโอซาก้าบนดาดฟ้าชมวิว Harukasu 300 ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาเบะโนะ ฮารุกัส (Abeno Harukas Art Museum) และสวนหย่อมให้แวะพักอีกด้วย มีทางเดินสกายวอล์กเชื่อมต่อไปยังอาคารใกล้ๆ นับว่าสะดวกมาก ถ้าต้องการไปเที่ยวต่อที่ย่านชินเซไกที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมซึ่งสามารถเดินไปอีกไม่ไกล
ย่านชินเซไก (Shinsekai) และหอคอยซือเท็นกากุ (Tsutenkaku Tower)
เป็นย่านที่รวมร้านค้า ร้านอาหาร ขนมหลากหลายประเภท ร้านกินดื่มที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของโอซาก้า โดยชื่อย่าน Shinsekai แปลว่าโลกใหม่ ด้วยทางราชการตั้งใจว่าจะทำย่านนี้ให้เป็นโลกใหม่ของโอซาก้า สร้างสวนสาธารณะเท็นโนจิ (Tennoji Park) หอคอยซือเท็นกากุ (Tsutenkaku Tower) สวนสนุก และโรงภาพยนตร์ขึ้นมา แต่ปัจจุบันสวนสนุกกับโรงภาพยนตร์ถูกยุบไปแล้ว เหลือหอคอยซือเท็นกากุที่เป็นแลนด์มาร์กโดดเด่นตั้งอยู่กลางย่าน เป็นสัญลักษณ์ของย่านชินเซไก เปิดไฟแสงสีสวยงามตอนกลางคืน ใครอยากชมวิวเมืองโอซาก้าก็ขอเนะนำให้ขึ้นไปชมวิวบนหอคอยซือเท็นกากุนี้เลย ช่วงกลางวันคนอาจไม่หนาแน่นมากนัก แต่ตอนกลางคืนนักท่องเที่ยวมาเดินกันคึกคักสุดๆ
(ในทางเทคนิคแล้ว ทั้งสถานีเท็นโนจิ และสถานีโดบุตสึเอ็นมาเอะ สามารถเดินไปยังย่านชินเซไกและสวนสัตว์ได้ทั้งคู่เพราะอยู๋ใกล้กันมาก)
[M-26] สถานีนางาอิ (Nagai Station)
สิ่งแรกที่จะเห็นเมื่อขึ้นมาจากสถานีคือ รอบๆ สถานีนางาอิจะมีพื้นที่สีเขียวอยู่ฝั่งหนึ่งของถนน และอีกฝั่งมีอาคารพาณิชย์ที่ไม่สูงมากที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านอาหารและร้านค้ามากมาย เดินไปอีกไม่ไกลก็จะเจอกับย่านร้านค้านางาอิ (Nagai Shopping Street) เป็นถนนคนเดินที่มีร้านค้าขายสินค้าหลากหลาย มีตั้งแต่ขายเสื้อผ้าบูติกต่างๆ อาหารสดและอาหารปรุงสำเร็จ เช่น ผักสด ปลาสด ข้าวสาร เท็มปุระ โอโคโนมิยากิ ไปจนถึงร้าน 100 เยน คาเฟ่ที่เป็นร้านนั่ง ร้านขายยา คลินิกแผนโบราณ และโรงเรียนสอนดนตรี บางร้านก็เก่าแก่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่สมัยโชวะ
สวนพฤกษศาสตร์นางาอิ (Nagai Botanical Garden)
อีกฝั่งของถนนที่เราขึ้นมาจากสถานีใต้ดินจะดูเป็นสีเขียว เพราะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เหมือนเป็นปอดของโอซาก้าอีกแห่ง เดินเข้าไปก็จะเจอกับที่เที่ยวสบายๆ อย่างสวนพฤกษศาสตร์นางาอิ ที่อยู่ภายในสวนสาธารณะนางาอิอีกทีหนึ่ง สามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปีเพราะที่นี่เขามีพืชพันธุ์ครบทั้ง 4 ฤดูกาล โดยถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้ชมดอกซากุระตั้งแต่ทางเข้าเลยทีเดียว แล้วยังได้ชมดอกโบตั๋น ดอกอาซาเลีย ดอกคามิเลีย ดอกทิวลิปกันเพลินตา ช่วงฤดูร้อนก็ยังมีดอกไอริสกับดอกไฮเดรนเยียให้ชมกันอยู่ บวกกับความเขียวสดของต้นไม้ใหญ่ด้วยก็ทำให้สดชื่นมาก ฤดูใบไม้ร่วงก็ต้องไม่พลาดดอกคอสมอส ฤดูหนาวก็ถึงคราวดอกกุหลาบคริสต์มาสบานอวดโฉม นับว่าเป็นที่เที่ยวและที่พักผ่อนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและดอกไม้นานาพันธุ์ที่อยากเชียร์ให้มากันให้ได้ โดยสวนเปิดตั้งแต่ 09.30 - 16.30 และมีค่าเข้าแค่ 200 เยนเท่านั้น
(หมายเหตุ เวลาทำการข้างต้นเป็นเวลาทำการในช่วงเวลาปกติ)
ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย