หน้าร้อนอย่างเดือนสิงหาคมเหมาะกับการเที่ยวทะเลเป็นที่สุด ยิ่งถ้าเป็นทะเลสวยชายหาดแปลกตาเหมือนหาดยูริงาฮามะยิ่งดี หาดนี้ตั้งอยู่ที่เกาะโยรนจิมะ (Yoronjima Island) ทางตอนใต้สุดของจังหวัดคาโงชิมะ เป็นชายหาดที่ขนาดและพื้นที่เปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละวันแล้วแต่น้ำขึ้นน้ำลงและไม่สามารถคาดเดาได้ ช่วงเวลาที่หาดเผยตัวจะอยู่ระหว่างเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมเท่านั้น และบางวันก็เห็นได้แค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงด้วย แต่ก็คุ้มค่าเมื่อได้เห็นและไปเล่นน้ำที่นั่น เพราะเป็นหาดทรายละเอียดสีขาวกลางทะเลที่สวยสุดๆ การไปหาดยูริงาฮามะทำได้โดยการนั่งเรือมาจากชายหาดโอกาเนกุ (Okaneku Beach) ที่อยู่ห่างกัน 1.5 กิโลเมตร

เวลาเกิดชายหาดเดือนสิงหาคม
ปี 2019 เกิดวันที่ 1-6/15-17/30-31
การเดินทาง
นั่งเครื่องบินจากสนามบิน Kagoshima ไปลงจากสนามบินโยรอน แล้วเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ชายฝั่งโอกาเนกุ แล้วนั่งเรือต่อไปที่หาด

ฤดูร้อนแบบเดือนสิงหาเหมาะกับที่เย็นสบาย การมาสัมผัสกับธรรมชาติที่เกบิเคก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเช่นกัน เกบิเคเป็นช่องแคบอยู่ระหว่างหุบเขาที่มีแม่น้ำอิวาอิ (Iwai) ไหลผ่าน อยู่ที่เมืองอิจิโนเซกิ (Ichinoseki) วิวทิวทัศน์ของหุบเขาเกบิเคจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลเลยเหมาะที่จะมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่คนชอบมาชมธรรมชาติ ถ่ายรูปสวยๆ และล่องเรือชมทัศนียภาพของหุบเขา ฤดูร้อนเราจะได้เห็นความเขียวขจีของต้นไม้ที่ขึ้นตามแนวผาโดยรอบ ระหว่างล่องเรือก็จะมีพวกนกเป็ดน้ำว่ายมาให้เห็น เราสามารถให้อาหารได้ด้วยนะ

เวลาทำการ
เวลาให้บริการเรือเริ่มตั้งแต่ 08.30 - 16.30 น.
ค่าบริการเรือนั่งชมธรรมชาติ
ผู้ใหญ่ 1600 เยน
นักเรียนประถม 860 เยน
เด็กเล็ก (ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป) 200 เยน
อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี
เรือออกเป็นรอบ รอบละ 90 นาที
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Tohoku Shinkansen จากโตเกียวไปลงสถานี Ichinoseki จากนั้นต่อสาย Ofunato Line ไปลงสถานี Geibikei แล้วเดินต่อไปอีกนิดก็ถึง

หาดโจโดงาฮามะในจังหวัดอิวาเตะเป็นหาดที่ได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูร้อน เป็นหนึ่งในสถานที่ชมความงามจากชายฝั่งทะเลซังริคุ (Sanriku) มีทัศนียภาพที่งดงามด้วยหาดทรายขาว ท้องฟ้าสีฟ้ากระจ่าง ต้นสนสีเขียวและผาหินสีขาวสะอาดตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลที่ใสสะอาด เราสามารถเลือกทำกิจกรรมที่หาดโจโดงาฮามะได้หลายอย่างเช่นว่ายน้ำ ดำน้ำชมความงามใต้ท้องทะเล ซึ่งช่วงที่มีการเปิดหาดให้ลงเล่นน้ำได้คือช่วงฤดูร้อนประมาณกลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม หรือจะนั่งเรือชมตามเกาะแก่งทั้งหลายก็สนุก มีคอร์สล่องเรือ Blue Cave Cruise ใช้เวลาชมวิว 20 นาที เขาจะพาไปชมเกาะหินต่างๆอย่างใกล้ชิด และพาไปลอดถ้ำสีฟ้า (Ao no Dokutsu) เป็นถ้ำขนาดเล็กที่มีน้ำทะเลสีฟ้าโคบอลต์สดใส และระหว่างทางก็สามารถให้อาหารนกนางนวลได้ด้วย

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่านั่งเรือชมวิวบนเรือ Blue Cave Cruise คนละ 1500 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Tohoku Shinkansen จากสถานีรถไฟ Tokyo ไปลงสถานี Morioka จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟสาย JR Yamada ไปลงสถานี Miyako ลงรถไฟต่อรถบัส Iwate Kenpoku Bus ไปลงป้าย Oku-Jodogahama

เทศกาลอาโอโมริเนบุตะ เป็น 1 ใน 3 เทศกาลหน้าร้อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคโทโฮกุ เนบุตะหมายถึงโคมไฟตุ๊กตาขนาดมหึมา อาจกว้างได้ถึง 9 เมตร ลึก 7 เมตร และสูง 5 เมตร มักสร้างเป็นรูปตัวละครคาบุกิ เรื่องราวในประวัติศาสตร์ของนักรบผู้กล้า ตำนานของสัตว์ในเทพนิยาย อสูร และเทพเจ้า ซึ่งจะทำแบบใหม่ทุกปี โดยโคมไฟยักษ์นี้มีโครงเป็นขดลวด แปะด้วยกระดาษญี่ปุ่น ด้านในมีไฟหลากสีสัน

ไฮไลท์ของงานเทศกาลก็คือขบวนพาเหรดแห่โคมไฟเนบุตะนี้ไปรอบๆ ใจกลางเมืองอาโอโมริ โดยข้างรถแห่จะมีนักดนตรี เป่าขลุ่ย ตีฉาบ ตีกลองไทโกะ และนักเต้นที่คอยส่งเสียง “รัซเซ่ รัสเซ่” ให้สอดคล้องกับเสียงดนตรีด้วย

วันที่จัด
2 - 7 สิงหาคม ขบวนแห่จะเริ่มเวลา 19.10 - 21.00 น.
ค่าเข้าชม
ฟรีสำหรับการยืนชมในเมือง
การเดินทาง
จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟ Tohoku Shinkansen ลงที่สถานี Shin-Aomori แล้วต่อรถไฟ JR สาย Ou Main Line ไปยังสถานี Aomori

สวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง (Monet’s Garden Marmottan) เป็นอีกแห่งที่เย็นสบายเหมาะกับการหลบร้อนในเดือนสิงหาคม สวนโมเน่ต์อยู่ในหมู่บ้านคิตางาวะ (Kitagawa Village) จังหวัดโคจิ เป็นสวนที่ถ่ายทอดแนวคิดทางศิลปะของโมเน่ต์ไว้ในรูปแบบสวนและธรรมชาติเขียวขจี สวนนี้จำลองจากบรรยากาศของสวนที่ฝรั่งเศสซึ่งโมเน่ต์ใช้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่มีชื่อเสียงมากมาย สวนโมเน่ต์ปลูกพืชพรรณและดอกไม้ไว้หลากหลายชนิดโดยแบ่งเป็น 3 สวน ได้แก่ สวนดอกไม้ (Flower Garden) สวนสระน้ำ (Water Garden) และสวนสไตล์เมดิเตอเรเนียน (Light Garden) ถ้ามาช่วงเดือนสิงหาคมนี้เราก็จะได้เห็นดอกบัวสีน้ำเงินที่กำลังบานสะพรั่งในสระน้ำด้วย

เวลาทำการ
09.00 - 17.00 น.
ค่าเข้าชม
อายุตั้งแต่ 15 ขึ้นไป 730 เยน
อายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน 14 ปี 310 เยน
อายุไม่เกิน 5 ปี ฟรี
การเดินทาง
จากสถานี JR Kochi นั่งรถบัสมาลงป้าย Monet no Niwa

ไปเที่ยวน้ำตกดับร้อนกันอีกที่น้ำตกฟุกิวาเระเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ที่แม่น้ำคาตาชินะ (Katashina) จังหวัดกุนมะ มีความกว้างราวๆ 30 เมตรและสูงราว 7 เมตร กระแสน้ำมีพลังไหลแรง ลักษณะคล้ายน้ำตกไนแอการา จึงไม่น่าแปลกใจถ้าน้ำตกฟุกิวาเระมีชื่อเสียงโด่งดัง และติดอันดับ 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยงามที่สุดของคนญี่ปุ่น เพราะทิวทัศน์โดยรอบของน้ำตกยามฤดูร้อนก็เขียวชอุ่มงดงามและน้ำตกก็แปลกตาน่าสนใจมาก

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ค่าเข้าชม
ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Joetsu มาลงสถานี Numata จากนั้นต่อรถบัส Kanetsu Bus มาลงที่น้ำตก

เทศกาลฟุคางาวะ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าเทศกาลรดน้ำ เป็นอีกหนึ่งเทศกาลประจำปีช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ยิ่งใหญ่ของโตเกียว จัดโดยโดยศาลเจ้าโทมิโอกะฮาจิมังงู (Tomioka Hachimangu) ศาลเจ้าชินโตที่ยิ่งใหญ่ โดยมีการเดินขบวนพาเหรดแห่ศาลเจ้าจำลองขนาดเล็กแบบเคลื่อนที่ได้ที่เรียกว่ามิโกชิ (mikoshi) มีนักเต้นรำ นักดนตรี เดินขนาบไป แล้วจะมีนักท่องเที่ยวที่มายืนดูงานสาดน้ำใส่มิโกชิและคนแบกให้เย็นชุ่มฉ่ำ เพราะมีความเชื่อว่าการสาดน้ำไปที่ผู้แบกจะเป็นการชำระล้างให้ผู้แบกศาลเจ้ามีความบริสุทธิ์ จะว่าไปก็คล้ายการเล่นสงกรานต์ของบ้านเราเหมือนกัน เป็นเทศกาลที่เหมาะกับหน้าร้อนมากๆ

เวลาจัดงาน
กลางเดือนสิงหาคม
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Oedo หรือ Tozai ไปลงสถานี Monzen-nakacho

สวนริตสึริน (Ritsurin Garden) ตั้งอยู่ที่เมืองทากามัตสึ (Takamatsu) จังหวัดคางาวะ (Kagawa) เป็นหนึ่งในสวนมรดกทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น พื้นที่ของสวนกว้างมากถึง 750,000 ตารางเมตร มีภูเขาชิอุน (Shiun Mountain) เป็นฉากหลัง ภายในบริเวณสวนประกอบด้วยสระน้ำ 6 สระ เนินเขาจำลอง 13 แห่ง ต้นสนเก่าแก่อายุเป็นร้อยปี องค์ประกอบการจัดสวนของที่นี่งดงามลงตัว จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ถ้าได้เข้ามาพักผ่อนในสวนตอนฤดูร้อนรับรองว่าเย็นชื่นใจ เขามีบริการนั่งเรือท้องแบนสไตล์ญี่ปุ่น ใช้ไม้ไผ่ในการพายเรือแบบโบราณ พาชมบรรยากาศธรรมชาติเขียวๆ ในสวนด้วย

เวลาทำการ
กันยายน 05.30 - 18.30 น.
ตุลาคม 06.00 - 17.30 น.
พฤศจิกายน 06.00 - 17.00 น.
ธันวาคม 07.00 - 17.00 น.
มกราคม 07.00 - 17.00 น.
กุมภาพันธ์ 07.00 - 17.30 น.
มีนาคม 06.30 - 18.00 น.
เมษายน - พฤษภาคม 05.30 - 18.30 น.
มิถุนายน - สิงหาคม 05.30 - 19.00 น.
ช่วงที่มีการเปิดไฟประดับใบสวนจะเปิดจนถึง 21.00 น.
ค่าเข้าชม
ตั้งแต่มัธยมปลายขึ้นไป 410 เยน
ประถม - มัธยมต้น 170 เยน
เด็กเล็ก ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟชินกังเซ็น JR Sanyo Shinkansen จากสถานี Shin-Osaka ไปลงสถานี Okayama จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟ JR Marine Liner ไปลงสถานี Takamatsu จากตรงนี้จะต่อรถบัส หรือรถไฟ JR Kotoku Line หรือรถไฟเอกชน Kotoden ก็ล้วนมีสถานีสวนริตสึรินให้ลงทั้งคู่

หมู่บ้านอะจิ เป็นหมู่บ้านชนบทเล็กๆ แวดล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขาที่สวยงาม อากาศก็บริสุทธิ์ ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาโนะ ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านแห่งดวงดาว และได้รับการรับรองจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมว่า สามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัดเจนในยามค่ำคืนได้ดีที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะ ปกติแล้วที่หมู่บ้านอะจิสามารถมาดูดาวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้มาดูช่วงกลางฤดูร้อนในเดือนสิงหาคมที่ท้องฟ้ากระจ่างที่สุด จะมองเห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าได้ชัดเจนที่สุดในรอบปีเลยละ สามารถดูดาวได้จากที่หมู่บ้านเลย แต่ถ้าใช้บริการ Night Tour ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปจนถึงความสูงที่ 1,400 เมตร ก็ได้บรรยากาศสนุกแปลกใหม่ในการดูดาวดีเหมือนกัน

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ถ้าใช้บริการ Night Tour จะขึ้นไปดูดาวได้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน – 25 ตุลาคม 2020 (ยกเว้นช่วงวันที่ 18 พฤษภาคม - 10 กรกฎาคม 2020 และ 23 กันยายน - 9 ตุลาคม 2020)
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่าเข้าชมสำหรับ Night Tour ผู้ใหญ่ 2,000 - 2,800 เยน เด็ก 1,000 - 1,400 เยน แล้วแต่ช่วงเวลา และต้องจองบัตรล่วงหน้า
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Limited Express Azusa จากสถานี Shinjuku ไปลงสถานี Kami-Suwa จากนั้นต่อรถบัส Suwa-Hirugami line bus ไปลงที่หมู่บ้าน

หมู่บ้านอะจิ เป็นหมู่บ้านชนบทเล็กๆ แวดล้อมด้วยธรรมชาติและภูเขาที่สวยงาม อากาศก็บริสุทธิ์ ตั้งอยู่ในจังหวัดนางาโนะ ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านแห่งดวงดาว และได้รับการรับรองจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมว่า สามารถมองเห็นดวงดาวได้ชัดเจนในยามค่ำคืนได้ดีที่สุดในญี่ปุ่นเลยนะ ปกติแล้วที่หมู่บ้านอะจิสามารถมาดูดาวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำให้มาดูช่วงกลางฤดูร้อนในเดือนสิงหาคมที่ท้องฟ้ากระจ่างที่สุด จะมองเห็นดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้าได้ชัดเจนที่สุดในรอบปีเลยละ สามารถดูดาวได้จากที่หมู่บ้านเลย แต่ถ้าใช้บริการ Night Tour ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าไปจนถึงความสูงที่ 1,400 เมตร ก็ได้บรรยากาศสนุกแปลกใหม่ในการดูดาวดีเหมือนกัน

เวลาทำการ
เปิดตลอด
ถ้าใช้บริการ Night Tour จะขึ้นไปดูดาวได้ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน – 25 ตุลาคม 2020 (ยกเว้นช่วงวันที่ 18 พฤษภาคม - 10 กรกฎาคม 2020 และ 23 กันยายน - 9 ตุลาคม 2020)
ค่าเข้าชม
ฟรี
ค่าเข้าชมสำหรับ Night Tour ผู้ใหญ่ 2,000 - 2,800 เยน เด็ก 1,000 - 1,400 เยน แล้วแต่ช่วงเวลา และต้องจองบัตรล่วงหน้า
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟ Limited Express Azusa จากสถานี Shinjuku ไปลงสถานี Kami-Suwa จากนั้นต่อรถบัส Suwa-Hirugami line bus ไปลงที่หมู่บ้าน

ชวนไปคลายร้อนกับการเล่นน้ำที่สวนน้ำ Spa Resort Hawaiians สวนน้ำแห่งนี้อยู่ในจังหวัดฟุกุชิมะ แบ่งเป็นหลายโซนเช่นโซนสวนน้ำ สระว่ายน้ำในร่ม สไลเดอร์ โซนสปาการ์เด้นกลางเเจ้ง สนามเด็กเล่น โซนสปริงพาร์คก็เป็นน้ำออนเซ็นจากแหล่งออนเซ็นจริงๆ สามารถลงไปแช่น้ำในสระว่ายน้ำอุ่นในร่มได้ทั้งชุดว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังมีออนเซ็นกลางแจ้งเอโดะ โจวะ โยอิจิ (Edo-Jowa Yoichi) ที่ตกแต่งเป็นธีมสมัยเอโดะสวยงาม นอกจากนี้ยังมีเกมเซ็นเตอร์ ร้านขายเสื้อผ้าและของที่ระลึก ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ และมีการแสดงระบำฮาวายให้ชมด้วย

เวลาทำการ
10.00 - 22.15 น. (วันหยุดเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดตั้งแต่ 09.00 น.)
ค่าบริการ
ทั้งวัน 3500 เยน
เข้าหลัง 15.00 น 3000 เยน
เข้าหลัง 18.00 น. 2800 เยน
การเดินทาง
- สำหรับแขกที่เข้าพัก ทางรีสอร์ตมีรถบัสให้บริการฟรีไปและกลับสถานี Yumoto และรถบัสฟรีไปกลับโตเกียว และไปกลับโยโกฮาม่า ต้องจองล่วงหน้า
- ถ้าเดินทางมาเองก็สามารถนั่งรถบัสท้องถิ่นจากสถานี Yumoto ไปรีสอร์ตได้

ผู้เขียน: hikawasa
หลังจากจบป.ตรีก็เริ่มงานในสายล่ามที่บริษัทญี่ปุ่นเช่น Satake Thailand, Hitachi Engineering & Services และรับงานล่ามให้นิตยสาร Custom Car ไปล่ามให้ตามงาน Motor Expo สักพักออกไปเรียนป.โทต่อที่ธรรมศาสตร์ ตอนทำวิทยานิพนธ์ ทาง Japan Foundation ให้ทุนนักศึกษาไปเก็บข้อมูลวิจัย ได้เห็นญี่ปุ่นในหลายมุม ปัจจุบันเป็นนักแปลฟรีแลนซ์ให้ Bongkoch Publishing, Siam Inter Multimedia Publishing, MEB Corporation ที่ทำสื่อดิจิทัลอีบุ๊คชั้นแนวหน้าของไทย และอีกมากมาย ได้โอกาสมาเป็นนักเขียนบทความท่องเที่ยวให้ AAJ ด้วย