ชิบามาตะ (Shibamata) เป็นย่านเมืองเก่าย่านหนึ่งของโตเกียวที่อยู่ห่างจากย่านอุเอโนะ (Ueno) ราวๆ 10 กิโลเมตรเท่านั้น เมื่อมาถึงย่านนี้ สิ่งแรกที่จะพบก็คือรูปปั้นโทระซังกับน้องสาว ตัวเอกจากละครและภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง Otoko wa tsurai yo (เป็นผู้ชายมันลำบาก) ซึ่งเคยโด่งดังถึงขนาดสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 48 ภาค ถ้าถามคนญี่ปุ่นจะต้องรู้จักแน่นอน

บรรยากาศของย่านนี้ รายล้อมไปด้วยสิ่งปลูกสร้างจากไม้แบบย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร อาคารบ้านเรือน และจะมีถนนสายที่ชื่อว่า ไทชาคุเต็นซันโดะ (Taishakuten-sando) ถนนสายช้อปปิ้งเก่าแก่ ซึ่งสองฝั่งถนนระยะทางประมาณ 200 เมตร มีร้านค้าขายอาหาร ขนม และของใช้ของฝากที่ยังคงมีบรรยากาศแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมอายุยาวนานร่วมร้อยปีตั้งอยู่เรียงราย

ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ร้านขนมญี่ปุ่นโบราณชื่อ ไฮคาระ โยโกะโจ (Haikara Yokocho) ที่มีขนมสมัยโบราณหารับประทานยากของญี่ปุ่นมากมายในร้านนี้ และบนชั้นสองก็เป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นชิบามาตะ (Shibamata Toy Museum) ที่จัดแสดงของเล่น ของสะสมหายากไว้ให้ผู้ที่สนใจได้ชมกัน

การเดินทาง : รถไฟสาย Keisei Kanamachi Line ลงที่สถานี Shibamata

ยาเนะเซน (Yanesen) คือย่านวัฒนธรรมและการค้าเก่าแก่ใจกลางกรุงโตเกียว โดยชื่อยาเนะเซนก็มาจากชื่อ 3 พื้นที่ใกล้เคียงของย่านนี้ ได้แก่ ยานากะ (Yanaka) เนซุ (Nezu) และเซนดางิ (Sendagi) ทั้งสามพื้นที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้หมด ผู้คนที่มาเดินเที่ยวเล่นก็มักจะเดินเพลินๆ จนครบสามพื้นที่ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ และสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ ร้านอาหาร ย่านร้านค้า ถนนสายช้อปปิ้ง รวมถึงวัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ศิลปะ สถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างเก่าๆ ด้วย

สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษของย่านนี้ก็คือ ร้านค้าและสินค้าเกี่ยวกับแมว เนื่องจากในอดีตย่านนี้มีแมวจำนวนมาก จนถึงปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นตามถนนหนทางอยู่บ้าง ซึ่งร้านที่มักจะพบเห็นบ่อยๆ ก็จะเป็น ร้านแมวกวักนำโชค (Maneki-neko) หรือถ้าเดินไปถึงถนนสายช้อปปิ้งยานากะกินซ่า (Yanaka Ginza) ก็จะมีร้านข้าวแกงกะหรี่แมวเหมียว ร้านขายขนมโดนัทรูปหางแมว ที่ได้รับความนิยมมาก รวมถึงคาเฟ่ขนมหวานโบราณญี่ปุ่น ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นย้อนยุคก็มีให้เลือกเข้าไปใช้บริการในย่านนี้

การเดินทาง :
รถไฟ JR Yamanote Line ลงที่สถานี Nippori
หรือรถไฟ Tokyo Metro สาย Chiyoda Line ลงที่สถานี Sendagi หรือ Nezu

คิโยสุมิ-ชิราคาวะ (Kiyosumi-Shirakawa) คือย่านที่ผสมผสานสวนความเป็นศิลปะสมัยใหม่และสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะได้เข้ากันอย่างลงตัว และย่านมงเซน-นากะโช ก็คือย่านบรรยากาศเมืองเก่าในบริเวณใกล้กันที่สามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้

เอกลักษณ์ของย่านคิโยสุมิคือ ศิลปะวัฒนธรรม กลิ่นอายสมัยเอโดะท่ามกลางบรรยากาศแบบร่วมสมัย ซึ่งปัจจุบันเสน่ห์ของร้านกาแฟจำนวนมากและสวนสาธารณะริมแม่น้ำเก่าแก่ขื่อสวนคิโยสุมิ (Kiyosumi Garden) ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากในย่านนี้

สำหรับย่านย่านมงเซน-นากะโช (Monzen-Nakacho) ที่อยู่ใกล้กัน เป็นย่านที่มีชื่อเสียงในด้านการอนุรักษ์ความเป็นเมืองยุคโชวะแบบดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี มีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น ย่านการค้าฟุคากาวะ (Fukagawa Shotengai) ที่มีร้านค้าบรรยากาศย้อนยุคกับร้านอาหารเก่าแก่และอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ตลอดจนร้านประเภทอิซากายะ ร้านเหล้าเก่าๆ และบาร์เล็กๆ ที่เหมาะกับการนั่งเล่นสังสรรค์อย่างอบอุ่นในพื้นที่แห่งนี้

การเดินทาง :
รถไฟ Tokyo Metro สาย Hanzomon Line ลงที่สถานี Kiyosumi-Shirakawa
หรือ รถไฟ Tokyo Metro สาย Tozai Line ลงที่สถานี Monzen-Nakacho

ย่านซูกาโมะ (Sugamo) ได้รับสมญานามว่าเป็นฮาราจูกุของคุณยาย เนื่องจากว่าบรรยากาศย่านร้านค้าที่นี่ผู้คนที่มาเดินช้อปปิ้งส่วนใหญ่มักจะอยู่ในวัยคุณตาคุณยาย แต่จริงๆแล้ว คนทุกเพศทุกวัยก็สามารถมาเดินได้สนุกเช่นกัน ซึ่งบรรยากาศของย่านนี้ก็จะมีกลิ่นอายความเรโทรและแฝงไปด้วยความอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับการมาเดินเล่นเพลินๆและชมบรรยากาศที่แตกต่างจากย่านดังที่คนไทยคุ้นเคย เช่นอะเมโยโกะ

ที่นี่มีถนนสายช้อปปิ้งสายหลักที่เป็นศูนย์กลางชื่อว่าถนนซูกาโมจิโซ (Sugamo Jizo Dori) อาคารบ้านเรือนและร้านค้าสองฝั่งถนนเส้นนี้หลายๆหลังก็จะมีบรรยากาศเก่าๆแบบชวนให้นึกถึงอดีต สินค้าต่างๆที่นำมาขายก็มีหลากหลาย มีร้านของเก่าหรือของสะสมหายาก มีร้านอาหารหรือขนมญี่ปุ่นโบราณ จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เหล่าคุณตาคุณยาย นิยมมาเดินช้อปปิ้งที่ย่านนี้ ซึ่งถือเป็นย่านวัฒนธรรมเก่าแก่อีกแห่งในโตเกียว แต่ความพิเศษก็คือร้านค้าสมัยใหม่ ร้านอาหารทั่วไป ก็มีเปิดอยู่ที่นี่เยอะเช่นกัน จึงเหมาะกับทุกคนแม้คนที่ไม่ได้เจาะจงมาดูของเก่าๆ

นอกจากนี้ในบริเวณถนนซูกาโมจิโซ ก็ยังมีวัดโบราณชื่อวัดโคกันจิ (Koganji Temple) ที่มีสถาปัตยกรรมประตูทางเข้าอันโดดเด่น อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการสักการะขอพรให้หายเจ็บป่วย หายปวดเมื่อย เครื่องรางของวัดนี้จึงได้รับความสนใจจากผู้สูงอายุที่มาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก


การเดินทาง :
รถไฟ JR Yamanote Line ลงที่สถานี Sugamo
หรือรถไฟใต้ดิน Toei Mita Line ลงที่สถานี Sugamo

ในสมัยเอโดะย่านนี้เรียกว่าเป็นย่านดาวน์ทาวน์ของโตเกียว และในปัจจุบันนี้บรรยากาศของความเป็นเมืองเก่าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ยังคงพอมีให้พบเห็น เช่นหอนาฬิกาทำจากไม้ ข้างในมีตุ๊กตาโบราณ เป็นสิ่งที่เมื่อเดินออกมาจากสถานีรถไฟนิงเกียวโชก็จะเห็นเป็นอย่างแรก เนื่องจากในอดีตย่านนี้เคยเป็นสถานบันเทิงเริงรมย์ รวมถึงการละเล่น เช่นละครคาบูกิ ละครตุ๊กตาหุ่นเชิด เป็นต้น

ความน่าสนใจของย่านนี้คือ ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุยาวนานเกิน 100 ปี โดยมีขนมขึ้นชื่อ เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของย่านนี้ ชื่อว่าขนมนิงเกียวยากิ (Ningyoyaki) มีลักษณะคล้ายขนมไทยากิ ที่เป็นรูปปลา แต่นิงเกียวยากิจะทำเป็นรูปเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้ง 7 องค์ ข้างในเป็นไส้ถั่วแดง

และอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจเป็นถนนชื่อว่า อะมาซาเกะโยโกโช (Amazake Yokocho) ที่นี่ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งร้านเหล้ามากมาย ตามชื่ออะมาซาเกะซึ่งแปลว่าเหล้าหวาน แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นถนนสายร้านขนมหวานญี่ปุ่นยุคโบราณให้ได้เดินชมและลองชิม รวมถึงมีร้านค้าเก่าแก่อื่นๆ เช่นร้านเครื่องดนตรีโบราณ รวมเป็นระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร จากนิงเกียวโชไปถึงย่านซุยเท็นงู (Suitengu) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าชื่อเดียวกัน แนะนำว่าถ้าไปเดินอย่างน้อยๆต้องเดินให้ถึงศาลเจ้า

การเดินทาง :
รถไฟ Tokyo Metro สาย Hibiya Line ลงที่สถานี Ningyocho
หรือรถไฟใต้ดิน Toei Asakusa Line ลงที่สถานี Ningyocho

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)