รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "มิเอะ" ครั้งแรก
ในครั้งนี้เราได้รวมที่เที่ยวเด่นไว้เป็นลายแทงสำหรับมือใหม่เที่ยวมิเอะครั้งแรก ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนว่าที่นี่น่าจะถูกใจนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งหากคุณเป็นสายลุยหรือสายล่าของอร่อยที่นี่คงเป็นอีกแห่งที่สร้างประทับใจให้คุณเช่นกัน ถ้าพร้อมกันแล้วไปลุยกันเลย
ศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine)
ศาลเจ้าอิเสะเป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าเก่าแก่ขนาดใหญ่ประจำเมืองมิเอะ และหนึ่งในศาลเจ้าที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น มีอายุเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าก่อตั้งมามากกว่า 2,000 ปีมาแล้ว ตั้งอยู่ภายในป่าสนกลางเมืองอิเสะ ตัวของศาลเจ้าสร้างจากไม้เปลือยสไตล์ญี่ปุ่นเก่าแก่ ได้มุมมองที่แตกต่างจากที่แห่งอื่น เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนคนญี่ปุ่นทั่วไปที่ต่างก็เข้ามาสักการะกันตลอดปี แบ่งออกเป็นโซนชั้นในสุด (Kotaai Jingu หรือ Naiku) หรือศาลเจ้าซึ่งเป็นอาคารไม้เปลือยที่ถือได้ว่าเป็นอาคารศักดิสิทธิ์ที่สุดในบริเวณนี้ ที่คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงตัวอาคารได้ และโซนชั้นนอก (Toyouke Daijingu หรือ Geku) ซึ่งจะเป็นอาคารที่รองรับผู้เข้ามาเยี่ยมชมรวมถึงสำหรับจัดงานพิธีกรรมและงานเทศกาลต่างๆ รวมถึงอาคารอื่นๆภายในศาลเจ้าซึ่งอนุญาติให้เข้าชมได้
ข้อควรประฏิบัติ :
- ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในบริเวณศาลเจ้า
- ห้ามสูบบุหรี่ภายในบริเวณโดยเด็ดขาด
- ห้ามถ่ายรูปบริเวณพื้นที่สักการะของศาลเจ้า
เวลาทำการ : ทุกวัน ดังนี้
เดือนตุลาคม-ธันวาคม 5:00-17:00น.
เดือนมกราคม-เมษายน และเดือนกันยายน 5:00-18:00น.
เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 5:00-19:00น.
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Iseshi ของรถไฟสาย Kintetsu Railway เดินต่อมาขึ้นรถบัสที่ป้าย Iseshi-eki mae มาลงที่ป้าย Shrine Kaikanzen จากนั้นเดินเท้าต่อถึงศาลเจ้าอิเสะ
ตลาดโอคาเกะโยโกะโจ (Okage Yokocho Ancient Street)
ตลาดที่รวบรวมอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดมิเอะและร้านอาหารอร่อยเมืองอิเสะเอาไว้มากมายและอยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าอิเสะมากนัก เรียกได้ว่ามาอิ่มบุญพร้อมอิ่มท้องต่อกันที่นี่เลย ซึ่งตลาดแห่งนี้นอกจากจะมีอาหารอร่อยอยู่มากมายแล้วยังมีบรรยากาศร้านขายของ2ข้างทางก็สวยงามไม่แพ้กันทำให้อดถ่ายรูปเช็คอินสถานที่ไม่ได้กันเลยทีเดียว และแน่นอนว่าที่แห่งนี้เป็นที่นิยมของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นในเข้ามาเยี่ยมชมอีกด้วย
ในเมนูแนะนำของที่นี่แน่นอนว่าต้องเป็นอิเสะอุด้งซึ่งมีจุดเด่นตรงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และเส้นอันหนานุ่มที่ไม่มีใครเหมือน เทโกเนะซูชิ (ข้าวหน้าปลาโอแล่ชิ้นใหญ่ผสมโชยุ เสิร์ฟกับใบงาและขิง) ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง อาคาฟุกุ (มันจูแป้งข้าวเหนียวผสมถั่วแดง) ที่สามารถรับประทานได้หลากหลายทั้งแบบสดกับน้ำชา เสิร์ฟขนมแบบร้อนหรือเย็น แล้วยังสามารถซื้อเป็นของฝากกลับบ้านได้ด้วย รวมของอร่อยไว้เยอะขนาดนี้อย่าลืมมาเที่ยวที่นี่นะคะ
เวลาทำการ : ทุกวัน 9:30-17:30น. เฉพาะเดือนสิงหาคม-กันยายน 9:30 to 18:00น. และเดือนธันวาคม-มกราคม 9:30-17:00น.
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Iseshi ของรถไฟสายKintetsu Railway เดินต่อมาขึ้นรถบัสที่ป้าย Iseshieki mae มาลงที่ป้าย Shrine Kaikanzen เดินเท้าต่อมาเล็กน้อยถึงตลาดโอคาเกะโยโกะโจ
จุดชมวิวของยอดเขาโยโคยามะ (Yokoyama Observatory)
จากด้านบนภูเขาโยโคยามะซึ่งสามารถเห็นหมู่เกาะน้อยใหญ่ของอิเสะชิมะได้อย่างเต็มที่ โดยบนยอดเขาจะมีทั้งจุดชมวิวทั่วไปและคาเฟ่ให้นั่งดื่มด้วย
หนึ่งในจุดชมวิวเด่นคือบริเวณคาเฟ่มิราดอร์ชิมะ บนยอดเขาโยโคยามะภายในอุทยานแห่งชาติอิเสะชิมะ คาเฟ่แห่งนี้นอกจากเมนูราคาจะย่อมเยาว์หลักร้อยเยนต้นๆ มีเมนูเด่นคือชิมะซอฟครีมกับน้ำผลไม้ต่างๆให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีวิวเลอค่าของอุทยานอิเสะชิมะให้ชม ในคาเฟ่มีระเบียงยื่นออกไปทำให้สามารถชมวิวโดยรอบของโยโคยามะได้ 180 องศา ซึ่งวิวที่เห็นจะเป็นเกาะน้อยใหญ่มากมายที่มีน้ำทะเลรายล้อมโดยรอบอย่างสวยงาม อยากสูดโอโซนธรรมชาติพร้อมวิวสวยๆที่แห่งนี้เป็นอีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
เวลาทำการ : ทุกวัน 9:00-16:30น.
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Shima-Yokoyama นั่งแท็กซี่ต่อมายังคาเฟ่หรือสามารถเดินทางอีกเส้นทางจากสถานี Ugata มาขึ้นรถบัสที่ป้ายรถประจำทาง Ugata Ekimae ไปยังป้าย Yokoyama
- mirador.puebloamigo.jp (อังกฤษ)
เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ (Mikimoto Pearl Island)
เกาะมิกิโมโตะเป็นเกาะที่เรียกได้ว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่เลี้ยงชาวบ้านที่แห่งนี้ เนื่องจากเป็นเกาะที่ผลิตไข่มุกเกรดดีของญี่ปุ่น (แบรนด์ไข่มุกมิกิโมโตะ) ซึ่งมีชื่อเสีียงมานานจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
ความน่าสนใจของที่นี่คือคุณสามารถเที่ยวได้หลากหลายจุดทั่วบริเวณ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ไข่มุกมิกิโมโตะ ซึ่งในส่วนนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม (ผู้ใหญ่1,500เยน/ท่าน เด็ก750เยน/ท่าน) รูปปั้นKokichi Mikimoto Statueประจำเกาะไข่มุก บรรยากาศทะเลล้อมรอบ พร้อมกับสามารถชมวิถีชิวิตของอามะ (Ama) หญิงนักดำน้ำงมไข่มุกของเกาะ มีโซนพลาซ่าสำหรับรับประทานอาหารและซื้อของฝากกลับ ซึ่งคุณสามารถเลือกเยี่ยมชมได้หลากหลายอย่างในที่่แห่งเดียว
เวลาทำการ : ทุกวันในเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 8:30~17:00น. และเดือนธันวาคม 9:00~16:30น. (เดือนธันวามีวันหยุดเยอะ โปรดตรวจสอบก่อนเดือนทางมาเยี่ยมชม)
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Toba เดินต่อมาทางชายฝั่งอีกเล็กน้อยเพื่อข้ามสะพานเข้าสู่เกาะไข่มุกมิกิโมโตะ
หินเมะโอโตะอิวะ (Meoto-Iwa)
มาถึงหินบ่าวสาวคู่แต่งงานในตำนานหนึ่งในสัญลักษณ์ทางฟก่ีท่องเที่ยวของญี่ปุ่น หินเมะโอโตอิวะเป็นหินที่คล้องด้วยเชือกชิเมะนาวะที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และความบริสุทธิ์ที่นิยมนำมาใช้ในงานพิธีกรรม ตั้งอยู่บริเวณศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ (Futamiokitama Shrine) ที่พึ่งทั้งของหนุ่มสาวที่ไร้คู่ขอพรจะได้พบกับรักแท้ และหากมาขอพรเป็นคู่ว่ากันว่าชีวิตคู่จะมีความสุข ในส่วนของหินแต่งงานเมะโอโตะอิวะนั้น หากอยากมาเยี่ยมชมพร้อมวิวพระอาทิตย์ขึ้น เดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมซึ่งเป็นฤดูร้อนของญี่ปุ่นจะเหมาะมาก และจากที่นี่ในวันที่อากาศดีมากๆ อาจจะสามารถเห็นภูเขาฟูจิที่อยู่ไกลได้
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Futaminoura เดินต่อ 15 นาทีถึงที่หมาย หรือจากสถานีดังกล่าวสามารถมาขึ้นรถบัสที่จากป้าย Matsushita จากนั้นไปลงที่ป้าย Meotoiwahigashiguchi เดินต่ออีกเล็กน้อยถึงศาลเจ้าฟุตามิโอคิทามะ ซึ่งสามารถชมหินแต่งงานได้จากภายในบริเวณศาลเจ้า
กระท่อมอามะฮาจิมังคามาโดะ (Ama Hut Hachimankamado)
ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึงอามะ (Ama) ไปเล็กน้อยว่าเป็นนักดำน้ำหญิงที่งมเก็บไข่มุก แต่แท้จริงแล้วนอกจากนั้นเธอยังงมเก็บอาหารทะเลอีกมากมาย กระท่อมของอามะแห่งนี้ที่จริงเป็นร้านอาหารแนวที่สร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้นักท่องเที่ยว โดยอามะวัยกลางคน40+ แต่ยังคงแข็งแรงมากๆ จะนำอาหารทะเลที่จับมาเองสดๆ อาทิกุ้งอิเสะ หอยอาวาบิ แล้วนำมาประกอบอาหารให้เรารับประทาน ซึ่งราคาแต่ละเซ็ทจะแตกต่างกันไปโดยเริ่มต้นที่ 2,000-7,000 เยนโดยประมาณ และต้องทำการจองล่วงหน้าก่อนเข้าไปรับประทานอาหาร
หลังจากเรารับประทานเสร็จก็จะชวนเราคุย สันทนาการละลายพฤติกรรมอย่างเฮฮาเป็นกันเองมากๆ อามะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้แต่ก็ดูแลเราเป็นอย่างดีแน่นอน (นักท่องเที่ยวท่านใดชอบร้านอาหารบรรยากาศส่วนที่นี่อาจไม่เหมาะนัก) หากต้องการของที่ระลึกจากกระท่อมอามะฮาจิมังก็สามารถซื้อไปได้เช่นกัน
ที่นี่มีบริการรถรับส่งจากสถานี Toba ในเวลา 11:30, 13:00, 14:30น. และขากลับไปสถานี Toba ในเวลา 12:10, 13:40, 15:10, 16:40น.โดยต้องแจ้งก่อนล่วงหน้าขณะจองเพื่อเข้ารับประทานอาหารที่ร้าน แล้วต้องมารอก่อนเวลานัดหมาย 15 นาที
เวลาทำการ : ทุกวัน10:00-17:00 น.(ต้องจองก่อนเข้าไปรับประทานอาหารเท่านั้น)
วิธีการเดินทาง : จากสถานีMatsuo นั่งแท็คซี่ต่อ15นาทีถึงกระท่อมอามะฮาจิมัง
- amakoya.com (อังกฤษ)
พิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริว (Ninja Museum of Igaryu)
เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชอบวิถีนินจากันบ้างกับพิพิธภัณฑ์นินจาอิกะริว มีจัดแสดงทั้งบ้านของนินจาโซนNinja Tradition Hall แสดงประวัติความเป็นมาของนินจาอิกะ โซนNinja Experience Hall แสดงเครื่องแต่งกาย อาวุธ หรืออุปกรณ์การต่อสู้ รวมถึงมีการแสดงสดจากคนของทางพิพิธภัณฑ์อย่างโชว์นินจา ที่ใช้วิชานินจาในการป้องกันตัว หรือการใช้อาวุธประจำตัวอย่างดาวกระจาย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม200เยน/ท่าน รับรองประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งนี้นั้นตื่นเต้นและไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (อายุ16ปีขึ้นไป) 756เยน/ท่าน เด็ก (อายุต่ำกว่า15ปี) 432 เยน/ท่าน
เวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 09:00 น. -17:00 น. (สามารถเข้ารอบสุดท้ายได้ถึง 16:30 น.)
วิธีการเดินทาง : จากสถานี Uenoshi เดินเท้าต่ออีก8นาทีถึงพิพิธภัณฑ์นินจาอิการิว