รวมที่เที่ยวเด่นของคนไป "อิชิคาวะ" ครั้งแรก
ชินพงศ์ มุ่งศิริ
1. สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden)
https://pixta.jp/
สวนเค็นโรคุเอ็น ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองคานาซาว่าและจังหวัดอิชิคาวะ ทั้งจากความเก่าแก่และความสวยงามของภูมิทัศน์จนได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น (ร่วมกับสวนโคราคุในเมืองโอคายาม่า และสวนไคราคุในเมืองมิโตะ) สวนแห่งนี้ถูกออกแบบให้มีสระน้ำขนาดใหญ่ตรงกลาง และมีการขุดลำคลองสายเล็กๆ กระจายออกไปทั่วทั้งสวน บวกกับการปลูกพรรณไม้หลากหลายชนิดที่มีความสวยงามในทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นต้นบ๊วยและซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้นานาชนิดที่ผลิบานในฤดูร้อน ต้นเมเปิ้ลในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี และต้นสนที่มีการขึงเชือกป้องกันไว้ด้านบนป้องกันไม่ให้กิ่งหักโค่นจากหิมะที่ทับถมในฤดูหนาวด้วย หรือที่เรียกว่า “ยุคิซุริ” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งภาพจำของสวนแห่งนี้
นอกจากการถ่ายรูปสวยๆ ภายในสวนแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะชิมขนมและชาอร่อยๆ ได้ในบริเวณร้านค้าเก่าแก่จำนวนมากที่ตั้งอยู่ด้านหน้าของสวนเค็นโรคุ รวมถึงแวะไปเยือนปราสาทคานาซาว่าที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเพียงคนละฝั่งถนนเท่านั้น
ค่าเข้าชม : 310 เยน
เวลาเปิดทำการ :
เดือนมีนาคม – กลางเดือนตุลาคม 07.00 – 18.00 น.
เดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ 08.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสมาลงที่ที่ป้าย Kenrokuen Garden
2. ย่านฮิกาชิชายะ (Higashi Chaya District)
https://www.flickr.com/photos/aschaf/3810720612/
ย่านเก่าแก่ของเมืองคานาซาว่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคจากอาคารบ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นโบราณอายุกว่า 200 ปีที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งหากใครที่รู้จักย่านกิออน ย่านเกอิชาชื่อดังแห่งเมืองเกียวโต ก็ต้องบอกว่าย่านฮิกาชิชายะแห่งนี้ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน โดยนอกจากการถ่ายรูปสวยๆ แล้ว ก็ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมายสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนย่านแห่งนี้ ทั้งการแวะชิมชาในโรงชา 2 แห่งคือโรงน้ำชาชิมะและโรงน้ำชาคาอิคาโระ หรือแวะชมงานฝีมือขึ้นชื่อของเมืองคานาซาว่าคือทองคำเปลวที่ร้านฮาคุซะ ซึ่งมีการนำทองคำเปลวมาใช้กับสิ่งของต่างๆ ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นจานชามหรือเครื่องประดับ ไปจนถึงการชิมไอศกรีมห่อทองคำเปลวที่ไม่เหมือนใครในญี่ปุ่นที่ร้าน Haku-ichi
ค่าเข้าชม : บริเวณภายนอกของย่านไม่มีการเก็บค่าเข้าชม ส่วนโรงน้ำชาชิมะมีค่าเข้าชม 400 เยน โรงน้ำชาอิคาโระมีค่าเข้าชม 750 เยน
เวลาเปิดทำการ : โรงน้ำชาชิมะ 09.00 – 18.00 น. โรงน้ำชาคาอิคาโระ 09.00 – 17.00 น. ร้านทองคำเปลวฮาคุซะ 09.30 – 18.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Hashibacho(Koban-mae)
3. ตลาดสดโอมิโช (Omicho Market)
https://www.flickr.com/photos/ladyous/26550798431/
หนึ่งกิจกรรมยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ว่าจะแวะไปเยือนเมืองไหนในประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ควรพลาด นั่นก็คือการแวะไปที่ตลาดประจำเมืองที่เป็นศูนย์รวมของอาหาร ขนม และของขึ้นชื่ออีกมากมายของเมืองนั้นๆ โดยตลาดโอมิโชถือเป็นตลาดประจำเมืองคานาซาว่าที่เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 1721 หรือเกือบ 300 ปีมาแล้ว ภายในตลาดประกอบไปด้วยร้านค้ามากกว่า 150 ร้าน ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายมีตั้งแต่อาหารทะเลที่เป็นของขึ้นชื่อของเมือง พืชผักผลไม้ อาหารแห้ง ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และขนมหลากหลายชนิด และมีร้านอาหารอร่อยๆ อีกมากมายที่สามารถแวะมาชิมได้ตั้งแต่ช่วงสายๆ ไปจนถึงตอนค่ำ แถมยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีคานาซาว่าอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ฟรี
เวลาเปิดทำการ : ขึ้นอยู่กับร้านแต่ละแห่ง
การเดินทาง : เดินจากสถานี Kanazawa ประมาณ 15 นาที หรือขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Musashigatsuji Omi-cho Market
4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งศตวรรษที่ 21คานาซาว่า (21st Century Museum of Contemporary Art)
https://www.flickr.com/photos/kawamura-shin/10497557005/
นอกจากที่เที่ยวเก่าแก่อายุหลายร้อยปีแล้ว ในเมืองคานาซาว่ายังมีสถานที่ท่องเที่ยวสมัยใหม่ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีความโดดเด่นตั้งแต่การออกแบบอาคารเป็นทรงกลมและใช้กระจกเป็นผนังทั้งหมด ซึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่นี่นอกจากการชมผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินทั้งในญี่ปุ่นและต่างชาติแล้ว ยังมีห้องสมุด และคาเฟ่สำหรับเอาไว้นั่งพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ อีกด้วย แต่ที่พลาดไม่ได้คือการถ่ายรูปในจุดยอดฮิตของพิพิธภัณฑ์คืองานศิลปะที่มีชื่อว่า “Swimming Pool” ของ Leandro Erlich ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบลวงตา ที่หากคนที่อยู่ข้างบนมองลงมาที่สระน้ำแห่งนี้ ก็จะเห็นเหมือนกับคนที่อยู่ข้างล่างยืนอยู่ใต้น้ำจริงๆ
ค่าเข้าชม : พื้นที่ด้านนอกเข้าชมฟรี พื้นที่โซนนิทรรศการมีค่าเข้าต่างกันไปแล้วแต่นิทรรศการที่มาจัดแต่ละช่วง
เวลาเปิดทำการ : ภายในอาคาร 10.00 – 18.00 น. พื้นที่ด้านนอก 09.00 – 22.00 น.
การเดินทาง : ขึ้นรถบัสมาลงที่ป้าย Hirosaka-21st Century Museum
5. คากะออนเซน (Kaga Onsen)
https://pixta.jp
คากะออนเซนเป็นย่านออนเซ็นเก่าแก่ พื้นที่นี้มีการค้นพบแหล่งน้ำพุร้อนตั้งแต่เมื่อ 1,300 ปีก่อน จนทำให้ได้รับการพัฒนามาเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงประจำจังหวัดอิชิคาวะจนถึงปัจจุบัน ภายในเมืองประกอบไปด้วยเรียวกังและรีสอร์ทที่ให้บริการบ่อน้ำพุร้อนหลากหลายรูปแบบทั้งสำหรับแขกที่เข้าพักและบุคคลทั่วไปที่ไม่ค้างคืน จุดเด่นของน้ำพุร้อนที่นี่คือคุณสมบัติที่ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า รักษาโรคข้อเข่าและโรคผิวหนังต่างๆ บรรยากาศของเมืองยังมีความเงียบสงบและใกล้ชิดกับธรรมชาติ เนื่องจากตั้งอยู่ในหุบเขา และยังถือเป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดอิชิคาวะอีกด้วย
ค่าเข้าชม : ค่าเข้าไปแช่ออนเซนในที่พักแต่ละแห่งสำหรับคนที่ไม่ใช่แขกเข้าพักอยู่ที่ครั้งละประมาณ 400 – 700 เยน
เวลาเปิดทำการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ละแห่ง
การเดินทาง : สถานี Kagaonsen
