เมืองหลวงอย่างโตเกียวเป็นสถานที่แรกที่คนส่วนใหญ่มักเลือกไปลงก่อนที่อื่น ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายท่านที่มาเที่ยวญี่ปุ่นอาจไม่ได้ทราบว่ามีย่านใดบ้าง และตัวเองควรไปเยี่ยมชมที่ไหนแบบใด หรืออาจทราบเพียงแค่ชื่อของย่านนั้นเท่านั้น

บทความนี้จะเป็นเหมือนกุญแจไขข้อสงสัยภายในใจสำหรับผู้ที่ยังสับสนว่าเลือกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี พักแถวไหนดี เราชอบช็อปปิ้งควรไปช็อปที่ไหนดี ไลฟสไตล์เราเป็นแบบนี้ควรไปที่ไหนดี เป็นบทความตั้งต้นสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งมือเก่าและมือใหม่หลายๆท่าน ให้รู้จักโตเกียวและย่านดังทั้ง5แห่งให้มากขึ้นกว่าเดิม

ย่านอาซากุสะอยู่ทางฝั่งตะวันออกของโตเกียว เป็นที่รู้จักกันในเรื่องของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีวัดและศาลเจ้าอยู่มากมาย เรียกได้ว่าหากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายบุญหรือสายเรียนรู้วัฒนธรรมนั้น อาซากุสะเหมาะสมมากในการเข้ามาท่องเที่ยว วัดยอดนิยมที่หากพลาดเรียกได้ว่ามาไม่ถึงอาซากุสะและโตเกียวก็คือ วัดเซ็นโซจิ ซึ่งมีประวัติยาวนานคู่กับโตเกียวและญี่ปุ่นถึง1,000กว่าปี นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่ยังคงอนุรักษ์บ้านเรือน ศาลเจ้า และสถานที่โดยรอบให้ยังคงมีสภาพบรรยากาศเหมือนสมัยก่อนในยุคเอโดะ เหมาะแก่การนั่งรถลากหรือใส่ชุดกิโมโนหรือยูกาตะเยี่ยมชมรอบเมือง

อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมคือสวนสาธารณะสุมิดะ ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งจากชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเองเพราะวิวทิวทัศน์สวยมากและอยู่ติดริมแม่น้ำสุมิดะ เหมาะแก่การเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะในช่วงดอกซากุระบานและช่วงเทศกาลดอกไม้ไฟมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาเยี่ยมชมสวนแห่งนี้

สำหรับการเดินทางในโตเกียวนั้น หากต้องการระบุว่าที่ไหนเดินทางสะดวกหรือไม่สะดวกนั้นอาจจะต้องวัดจากในย่านนั้นมีรถไฟฟ้าผ่านมากน้อยแค่ไหน มีสายใดบ้าง หรือมีรถบัสผ่านหลายสายหรือไม่ และอีกอย่างที่อาจจะต้องคำนึงถึงก็คือ ระยะเวลาเดินทางจากสนามบินนานาชาตินาริตะ (ที่แท้จริงแล้วอยู่จังหวัดชิบะ ทางตะวันออกของโตเกียว)

อย่างที่ได้กล่าวไว้ว่าอาซากุสะเป็นย่านที่อยู่ทางตะวันออกของโตเกียว การเดินทางย่อมสะดวกทั้งทางรถไฟและรถส่วนตัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อพิจารณารวมกับสายรถไฟที่สามารถมาถึงอาซากุสะได้นั้น และที่พักที่อาจอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟอาซากุสะ ย่านอาซากุสะอาจใช้เวลาไม่นานในการมาถึงจากสนามบินนานาชาตินาริตะแต่มีช่องทางการเดินทางที่เรียกได้ว่าจำกัดพอสมควร(ขบวนรถไฟตรงจากสนามบินใช้เวลาเฉลี่ย1ชม.โดยประมาณ) ข้อดีหากคุณเดินทางท่องเที่ยวย่านอาซากุสะคือ รถบัสและรถเมย์สาธารณะเยอะ คุณสามารถไปสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งได้เพียงแค่นั่งรถบัสหรือรถเมย์สาธารณะ รวมถึงมีบริการรถเช่าหลากหลายแห่ง
“อาซากุสะ เน้นการเดินทางโดยรถบัสและรสเช่าไปยังสถานที่ท่องเที่ยว”

หากจุดเริ่มต้นเป็นสนามบินนานาชาตินาริตะมาลงที่สถานีอาซากุสะ
แบบทางตรง - การเดินทางโดยรถไฟมีเพียงรถไฟด่วนพิเศษ Keisei Narita Sky Access ที่สามารถตรงจากสนามบินมาลงที่อาซากุสะได้
แบบต่อขบวน - นั่งรถไฟฟ้าเคเซสายอุเอะโนะแล้วเปลี่ยนขบวนเป็นสาย Oshiage line หรือเปลี่ยนขบวนมาขึ้นรถไฟของโตเกียวเมโทรสาย Ginza Line ไปยังอาซาคุสะ

ที่พักในย่านอาซากุสะจะโดนเด่นเรื่องสไตล์ที่พักที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมทั้งบรรยากาศโดยรอบที่ได้เปรียบกว่าที่พักในย่านอื่น ทำให้ผู้ที่มาพักรู้สึกถึงประสบการณ์ที่แปลกใหม่กว่าที่แห่งอื่น รู้สึกถึงบรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นมากกว่าที่แห่งอื่น หากพักเพียงระดับโฮสเทลห้องพักแบบรวมหรือแบบเรียวกังญี่ปุ่นจะมีราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 2,000กว่าเยน/ท่าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามความเหมาะสม ช่วง Low season ราคาบางที่พักอาจลดเหลือเพียง 1,000 กว่าเยน

ย่านอุเอะโนะเป็นย่านที่อยู่ทางตะวันออกของโตเกียวเช่นกัน อยู่เกือบจะติดกับย่านอาซากุสะ เป็นย่านที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ที่ให้ความรู้ด้านต่างๆของโตเกียว อาทิ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติโตเกียว รอบๆบริเวณมีตลาดช็อปปิ้งราคาย่อมเยาว์ที่ครบเครื่องด้วยเสื้อผ้าและอาหารที่อร่อยอย่างตลาดอะเมโยโกะ อาหารขึ้นชื่อย่านนี้คือโมจิกับข้าวหน้าปลาไหล ซึ่งถ้าเปรียบเทียบจากทั้ง 5 ย่านดังในโตเกียวแล้วนั้น ย่านอุเอะโนะอาจเรียกได้ว่าเป็นย่านที่มีอาหารการกินราคาสบายกระเป๋าที่สุด นอกจากนี้ยังเป็นย่านที่คนญี่ปุ่นมักมาชมสวนดอกไม้ ใบไม้ปลี่ยนสี หรือมาชมดอกซากุระเพราะมีสวนสาธารณะและสวนดอกไม้เปิดให้ชมมากมายอาทิ สวนอุเอะโนะ สวนริคุกิเอน เป็นต้น

ย่านอุเอะโนะเป็นอีกย่านที่อยู่ทางทิศตะวันออกของโตเกียวเช่นกัน การเดินทางจากสนามบินนาริตะมาถึงอุเอะโนะก็มีความสะดวกมากกว่าที่อื่น โดยพิจารณาจากรอบรถไฟและขบวนรถไฟที่ผ่านหรือต่อมายังสถานีอุเอะโนะได้ นอกจากนี้การจะเดินทางเข้าไปที่เที่ยวอื่นๆ ในใจกลางโตเกียวนั้นก็สามารถเข้าไปโดยง่ายผ่านหลากหลายสายรถไฟที่ผ่านเช่นกัน สำหรับระยะเวลาหากนั่งรถไฟตรงจากสนามบินนานาชาตินาริตะใช้เวลาเฉลี่ยราวๆ 50 นาทีโดยประมาณ เนื่องจากย่านอุเอะโนะกับย่านอาซากุสะอยู่ใกล้กันทำให้เวลาไม่ต่างกันมากนั้น แต่รอบรถโดยสารที่ตัดผ่านและไปถึงนั้นแตกต่างกัน มีบริการรถบัสสาธารณะและรถเช่าที่หลากหลายเช่นกัน นอกจากนี้ การเดินทางไปต่างจังหวัดก็สะดวกกว่าย่านอื่นๆ เพราะเป็นย่านเดียวในห้าย่านที่แนะนำวันนี้ ที่มีรถด่วน Shinkansen ให้ขึ้น

“อุเอะโนะ เน้นการเดินทางโดยรถไฟ เหมาะกับเดินทางทั้งเข้า-ออกนอกเมือง”

หากจุดเริ่มต้นเป็นสนามบินนานาชาตินาริตะมาลงที่สถานีอุเอะโนะ
แบบทางตรง - การเดินทางโดยรถไฟที่เร็วที่สุดคือรถไฟด่วนพิเศษ (Skyliner) สาย Keisei ที่สามารถตรงจากสนามบินมาลงที่อุเอะโนะได้ในต่อเดียว

ที่พักย่านอุเอะโนะเป็นที่พักเน้นความคล่องตัวและสะดวกสบายในการเดินทาง ไม่ได้เน้นบรรยากาศมากนัก เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวเพียงไม่กี่วันหรือไปเพียงไม่กี่คน มีรูปแบบห้องพักแบบโฮสเทลและโรงแรมโดยส่วนใหญ่พื้นที่น้อยและค่อนข้างคับแคบ ราคาที่พักขั้นต่ำที่สุดอยู่ที่ 1,400เยน/ท่าน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามความเหมาะสมของช่วงราคาและรูปแบบห้องที่เลือก ช่วง Low seasons ราคาบางที่พักอาจลดเหลือเพียง1,000เยนนิดๆโดยประมาณ เรียกได้ว่าถ้าตาดีจองที่พักทันก็ถือว่าโชคดีมากๆเลย แต่ถ้าหากต้องการที่พักสะดวกสบายมีพื้นที่เยอะๆอาจต้องยอมจ่ายในราคาสูงกว่าหลายเท่าพอสมควร

ย่านชินจูกุเป็นย่านศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ของโตเกียวที่ผู้คนพลุกพล่านมากที่สุด เป็นย่านเศรษฐกิจสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เปรียบลักษณะทางกายภาพย่านนี้จะเหมือนสุขุมวิทหรือสีลมเมืองไทย แต่มีห้างสรรสินค้าเยอะแบบบริเวณชิดลมหรือสยาม เที่ยวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน จุดเด่นของที่นี่คือมีเป็นแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ทั้งมือหนึ่งและมือสองที่สายช็อปไม่ควรพลาดอย่าง ร้านKomehyo (สาขาชินจูกุ) , Don Quijoteสาขาใหญ่ชินจูกุ, ห้าง Keio, Odakyu เป็นต้น อาหารการกินอร่อยๆก็เยอะมากแต่ราคาอาจสูงสักนิด และตกกลางคืน ที่คาบุกิโจจะกลายเป็นย่านแห่งแสงสีและเปิดบริการสถานที่บันเทิงมากมาย

เรียกได้ว่าหากเดินทางจากสนามบินเข้ามาสู่เขตใจกลางเมืองโตเกียวนี้อาจต้องใช้เวลาในการเดินทางมากเสียหน่อย ต้องยอมต่อขบวนรถไฟอย่างน้อย2ขบวนจากสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งอาจใช้เวลา 1ชม.ครึ่งโดยประมาณ ส่วนการเดินทางไปแต่ละที่ในเมืองนั้นสะดวกสบาย เพราะมีสายรถไฟให้บริการผ่านเส้นทางนี้เยอะมากๆ มีบริการรถบัสสาธารณะทั่วไปและรถบัสด่วน ซึ่งอาจมีผู้ใช้บริการเยอะ ฉะนั้นควรเผื่อเวลาในการเดินทางด้วย
“ชินจูกุ เดินทางรถไฟในเมืองสะดวกสบาย ไปนอกเมืองหลายต่อควรเผื่อเวลา”

หากจุดเริ่มต้นเป็นสนามบินนานาชาตินาริตะมาลงที่สถานีชินจูกุ
แบบต่อขบวนเพียง2ขบวน - การเดินทางโดยรถไฟด่วนพิเศษ (Skyliner) สาย Keisei Ueno มาลงสถานี Ueno หรือ Nippori แล้วต่อขบวนรถไฟ JR สาย Yamanote Line ตรงมาที่ชินจูกุ
แบบขบวนเดียว - JR Narita Express ซึ่งอาจจะมีรถน้อยและราคาที่แพงกว่า Keisei จึไงม่เป็นที่นิยม

สำหรับชินจูกุ ย่านในกลางเมืองแบบนี้ที่พักจะเป็นที่พักที่เน้นความรวดเร็ว เน้นการเดินทางที่สะดวกสบาย บางที่พักอาจมีความหรูหราด้วยเพราะโดยมากย่านนี้บุคคลที่มาพักนอกจากนักท่องเที่ยวแล้วนั้นยังมีนักธุรกิจที่มาประชุมงานต่างๆเข้ามาพักที่พักเช่นกัน ราคาที่พักแบบโฮสเทลแบบรวมและโรงแรมขั้นต่ำราคาอยู่ 2,200เยน/ท่าน ซึ่งราคานี้มักพบได้หากคุณจองออนไลน์ หากติดต่อกับเว็บไซต์โรงแรมโดยตรงราคาที่พบจะอยู่ที่ 3,000เยน/ท่านขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบที่พักที่จองว่าเป็นแบบใด ที่พักย่านนี้ราคาไม่ค่อยลดมากนักแม้อยู่ในช่วงLow seasons ก็ตาม แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย