6 พาสรถไฟแนะนำสำหรับเที่ยวโตเกียว
แนะนำข้อมูลพาสหลากหลายรูปแบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังโตเกียว ซึ่งมีทั้งพาสที่ใช้เดินทางในเขตโตเกียวได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดินหรือรถไฟสายอื่นๆ รวมถึงพาสที่ใช้เดินทางไปยังเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบโตเกียว ทั้งนิกโก้ ฮาโกเน่ ทะเลสาบคาวากูจิโกะ และลานสกีกาล่ายูซาว่า ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้เป็นอย่างดี
1. พาสรถไฟใต้ดินโตเกียวแบบ 24, 48 และ 72 ชั่วโมง (Tokyo Metro 24, 48, 72 hr Pass)
เป็นพาสสำหรับขึ้นรถไฟใต้ดินทั้งของบริษัท Tokyo Metro และบริษัท Toei รวม 14 สายรอบโตเกียวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งตามระยะเวลาที่กำหนด และจำหน่ายให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังญี่ปุ่นเท่านั้น โดยปกติค่าโดยสารรถไฟใต้ดินในโตเกียวนั้นเริ่มต้นที่ 170 เยน สูงสุดประมาณ 280 เยน เทียบกับราคาพาสแล้ว ใครที่ต้องขึ้นรถไฟใต้ดินเกิน 3 เที่ยวใน 1 วันก็ถือว่าคุ้มค่า และรถไฟใต้ดินในโตเกียวยังครอบคลุมถึงย่านสำคัญๆ แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นชินจูกุ ชิบูย่า กินซ่า อูเอโนะ อากิฮาบาระ หรืออิเคบุคุโระ ทำให้สามารถใช้เป็นพาสหลักในการเที่ยวโตเกียวได้เลย
การซื้อพาส : พาสรถไฟใต้ดินโตเกียวสามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟหลักๆ เช่นสถานี Tokyo, Ueno, Ginza, Shinjuku รวมถึงสามารถซื้อได้ที่สนามบินทั้งสองแห่งของโตเกียว โดยจำเป็นต้องนำพาสปอร์ตไปเพื่อยืนยันการเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวด้วย
อายุการใช้งาน : มีให้เลือกตั้งแต่ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง หรือ 72 ชั่วโมง
ราคา : 24 ชั่วโมง – 800 เยน, 48 ชั่วโมง-1,200 เยน และ 72 ชั่วโมง 1,500 เยน
2. Tokunai Pass
Tokunai Pass หรือ Tokyo Metropolitan District Pass เป็นพาสสำหรับโดยสารรถไฟขบวน Local และ Rapid ของบริษัท JR ในโตเกียวได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งใน 1 วัน ซึ่งครอบคลุมสายรถไฟหลักในโตเกียวอย่างสาย Yamanote รวมถึงสายต่อขยายอื่นๆ ในเขตโตเกียว (แต่ไม่รวมรถไฟใต้ดิน) ซึ่งปกติ ค่าโดยสารของรถไฟสาย Yamanote เริ่มต้นที่ 140 yen และสูงสุดที่ประมาณ 260 yen ต่อเที่ยว หากใครที่ต้องโดยสารรถไฟสายนี้มากกว่า 4 เที่ยวในหนึ่งวัน การใช้ Tokunai Pass จึงสามารถประหยัดค่าเดินทางได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้เพื่อเดินทางไปยังย่านหลักๆ ในโตเกียวได้ทั้งอูเอโนะ ชิบูย่า ชินจูกุ อิเคบุคุโระ ฮาราจูกุ และอากิฮาบาระ
การซื้อพาส : พาส Tokunai สามารถหาซื้อได้จากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามสถานีรถไฟหลักๆของบริษัท JR ในโตเกียว
อายุการใช้งาน : 1 วัน
ราคา : 750 เยน
3. Tokyo Free Kippu
พาสสองข้อแรกที่แนะนำไปนั้นแยกประเภทการใช้งานกันระหว่างรถไฟบนดินและรถไฟใต้ดินในโตเกียว แต่สำหรับใครต้องการพาสใบเดียวที่ใช้ขึ้นรถไฟได้ทั้งสองแบบ ขอแนะนำให้ใช้พาส Tokyo Free Kippu หรือ Tokyo 1-Day Ticket ที่สามารถขึ้นรถไฟของบริษัท JR สาย Yamanote และสายใกล้เคียงในเขตโตเกียว รวมถึงรถไฟใต้ดินของบริษัท Tokyo Metro และบริษัท Toei ทั้ง 14 สายในโตเกียวได้พร้อมกันทั้งหมด แต่ข้อสังเกตคือเมื่อเทียบกับราคาพาสแบบ 1 วันชนิดอื่น ราคาของพาส Tokyo Free Kippu จะมีราคาสูงกว่าประมาณเท่าตัว และถ้าจะใช้ให้คุ้มต้องขึ้นรถไฟทั้งบนดินและใต้ดินในหนึ่งวันไม่น้อยกว่า 6-8 เที่ยว แต่ถ้ามองในแง่ของความสะดวกสบายสำหรับใครที่ต้องเดินทางด้วยรถไฟทั้งบนดินและใต้ดิน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
การซื้อพาส : พาส Tokyo Free Kippu สามารถหาซื้อได้จากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติตามสถานีรถไฟหลักๆของบริษัท JR ในโตเกียว
อายุการใช้งาน : 1 วัน
ราคา : 1,590 เยน
4. JR Tokyo Wide Pass
พาสยอดฮิตสำหรับคนที่ต้องการปักหลักท่องเที่ยวในโตเกียวและแวะไปยังเมืองรอบๆ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อพาสใหญ่อย่าง JR Pass โดยสามารถใช้ได้ตั้งแต่การเดินทางจากสนามบินทั้งสองแห่งเข้ามาในโตเกียว รวมถึงสายรถไฟของบริษัท JR ในเขตโตเกียวทั้งสาย Yamanote และสายอื่นๆ และใช้เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ในภูมิภาคคันโตได้ทั้งโยโกฮาม่า อิซุ ไซตามะ กุนมะ คารุอิซาว่า และอิบารากิ
ไฮไลท์ของ JR Tokyo Wide Pass ก็คือสามารถใช้ขึ้นรถไฟชินคันเซนจากโตเกียวไปยังลานสกีกาล่า ยูซาว่า (Gala Yuzawa) หนึ่งในลานสกีชื่อดังของภูมิภาคคันโต และยังใช้เพื่อเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Lake) จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิอันดับหนึ่ง รวมถึงใช้เดินทางไปที่นิกโก้ (Nikko) เมืองแห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมเก่าแก่ ซึ่งถือเป็นสามจุดหมายปลายทางใกล้โตเกียวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
การซื้อพาส : ต้องมาซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โดยสามารถซื้อได้ที่สนามบินนาริตะและสนามบินฮาเนดะ รวมถึงสถานีรถไฟหลักเช่นสถานี Tokyo, Shinagawa, Ueno, Shinjuku, Shibuya, Ikebukuro, Yokohama และ Mito และต้องแสดงพาสปอร์ตเพื่อยืนยันการเดินทางเข้ามาในญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวด้วย
อายุการใช้งาน : 3 วัน
ราคา : 10,000 เยน
5. Tokyu Triangle Ticket
เป็นพาสสำหรับการท่องเที่ยวในโตเกียวซึ่งยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก โดยพาส Triangle Ticket นั้นเป็นพาสที่สามารถขึ้นรถไฟของบริษัท Tokyu ไปยังย่านท่องเที่ยว 3 แห่งหลักในโตเกียวคือชิบูย่า (Shibuya) หนึ่งในย่านช้อปปิ้งอันขึ้นชื่อ จิยูกาโอกะ (Jiyugaoka) ย่านวินเทจสุดฮิปที่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่น่ารักๆ และฟุทาโกะ ทามากาวะ (Futako-Tamagawa) ย่านเงียบสงบริมแแม่น้ำทามะที่สามารถสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ยังสามารถใช้พาสนี้แวะเที่ยวอีกสองย่านดังอย่างนาคาเมกุโระ (Naka-Meguro) และไดคังยามะ (Daikanyama) ได้อีกด้วย
ซึ่งแต่ละย่านที่เอ่ยชื่อมานั้นอาจไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวมากเท่าย่านดังๆ อย่างชินจูกุ หรืออากิฮาบาระ แต่ทุกย่านในพาสนี้คือย่านซึ่งเป็นที่นิยมของวัยรุ่นญี่ปุ่นอย่างมาก สำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวแนวใหม่ๆ ไม่ซ้ำใคร หรืออยากลองสัมผัสดูว่าคนญี่ปุ่นเค้านิยมช้อปปิ้งหรือท่องเที่ยวแบบไหน พาสนี้ถือเป็นพาสที่ตอบโจทย์อย่างมาก
การซื้อพาส : ซื้อได้จากตู้จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติของสถานีรถไฟสาย Tokyu
อายุการใช้งาน : 1 วัน
ราคา : 400 เยน
6. Hakone Kamakura Pass
อีกหนึ่งพาสที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเที่ยวเมืองรอบๆ โตเกียว โดย Hakone Kamakura pass นั้นสามารถใช้ขึ้นรถไฟของบริษัท Odakyu ไปยังสามเมืองหลักคือฮาโกเน่ (Hakone) หนึ่งในเมืองยอดนิยมในการชมภูเขาไฟฟูจิ เอโนะชิม่า (Enoshima) เมืองริมทะเลที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติก และคามาคุระ (Kamakura) เมืองแห่งศาลเจ้าและพระใหญ่คามาคุระ ซึ่งนอกจากจะใช้ขึ้นรถไฟได้ไม่จำกัดครั้งแล้ว พาสนี้ยังสามารถใช้เพื่อขึ้นกระเช้าฮาโกเน่ไปยังหุบเขาโอวาคุดานิ (Owakudani) เพื่อชิมไข่ดำอันขึ้นชื่อ และล่องเรือในทะเลสาบฮาโกเน่เพื่อชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การซื้อพาส : สามารถซื้อพาสได้ที่ Odakyu Sightseeing Service Center สถานี Shinjuku และต้องเริ่มออกเดินทางจากสถานีนี้เท่านั้น
อายุการใช้งาน : 3 วัน
ราคา : 6,500 เยน
ผู้เขียน: ชินพงศ์ มุ่งศิริ
เริ่มต้นทำงานเป็นช่างภาพอิสระหลังเรียนจบ เดินทางไปถ่ายภาพที่ประเทศญี่ปุ่นบ่อยครั้งจนครบทั้ง 4 ฤดูอันสวยงาม และเกือบครบทุกภูมิภาค มีผลงานภาพถ่ายตีพิมพ์ในไกด์บุ๊คระดับโลกอย่าง Lonely Planet ถึง 3 เล่ม คือ Discovery Japan, Japan และ Kyoto รวมถึงเว็บไซต์ท่องเที่ยวชั้นนำอย่าง National Geographic Traveler UK, BBC Travel, Travel+Leisure, TIME และอีกมาก
นอกจากการถ่ายทอดความสวยงามของประเทศญี่ปุ่นผ่านภาพถ่าย ปัจจุบันยังหันมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านทางตัวอักษรทั้งในฐานะนักเขียนและนักแปลควบคู่กันไปอีกด้วย