ชินจูกุ (Shinjuku) ย่านธุรกิจที่มีความเจริญเติบโตต่อเนื่องในโตเกียวและเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะแลนมาร์คสำคัญอย่างที่ทำการรัฐบาลโตเกียว (The Tokyo Metropolitan Government) หรือโตเกียวโทโช (Tokyo Tocho) และสถานีรถไฟชินจูกุซึ่งเป็นสถานีศูนย์กลางขนาดใหญ่ของรถไฟหลายสายมีปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ราวๆ 3.5 ล้านคน/วัน อีกทั้งรอบๆย่านนี้ก็มีสถานที่ท่องเที่ยว ศูนย์การค้าขนาดใหญ่หลายแห่ง แหล่งช้อปปิ้งอย่างเช่น ดงกิโฮเต้ สวนสาธารณะ และอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น

สวนชินจูกุเกียวเอน (Shinjuku Gyoen National Garden) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงโตเกียวที่ได้รับสมญานามว่าเป็นโอเอซิสของเมือง และยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีต้นซากุระบานสะพรั่งทั่งทั้งสวนนับร้อยต้น

ย่านชินจูกุ สกายแครปเปอร์ (Shinjuku Skyscraper) เป็นย่านที่มีอาคารสำนักงาน ตึกสูงระฟ้าตั้งเรียงจำนวนมา ถ้ามาเดินเที่ยวตอนกลางคืนก็จะได้ชมแสงสีสวยๆของย่านนี้

ย่านคาบูกิโจ (Kabukicho) แหล่งบันเทิงที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียวและเป็นย่านที่มีความคึกแทบจะทั้งคืน อีกทั้งยังมีโรงละครคาบูกิที่จัดแสดงตลอดปีด้วย

ชินจูกุโกลเด้นไก (Shinjuku Golden Gai) ย่านของสถานบันเทิงยามราตรี ที่มีร้านกินดื่มประเภทบาร์ ที่ตกแต่งร้านในสไตล์แปลกใหม่น่าสนใจหลายร้าน

ตรอกโอโมอิเดะ โยโกโช (Omoide Yokocho) เป็นถนนสายเล็กๆ ที่เชื่อมต่อกับสถานีชินจูกุทางด้านเหนือ ซึ่งสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านของกินอร่อยๆ ราคาไม่แพ เช่น ราเมง, โซบะ, ยากิโทริ

การเดินทาง : การเดินทางไปชินจูกุมีเส้นทางรถไฟให้บริการทั้งรถไฟ JR และ Tokyo Metro รวมทั้งสาย JR Yamanote Line ซึ่งเป็นสายหลักที่ใช้เดินทางในโตเกียวด้วย

ถ้าเริ่มต้นที่สถานี Tokyo ให้ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo Line ไปลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
หรือถ้ามาจากสถานี Ueno ก็ให้ขึ้นรถไฟสาย JR Yamanote Line ไปลงที่สถานี Shinjuku ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

ย่านอาซาคุสะ (Asakusa) เป็นย่านเก่าแก่ที่มีมาแต่โบราณและที่เจริญรุ่งเรืองมากเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ในปัจจุบันก็ยังคงบรรยากาศของอาคารสถานที่และและร้านอาหารกับร้านขนมเก่าแก่หลายแห่ง เรียกว่าเป็นย่านที่เต็มไปด้วยของอร่อยสไตล์ญี่ปุ่นให้เลือกชิมเลือกซื้อได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่เที่ยวยอดนิยมในโตเกียวอย่างวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple) หรือเรียกกันว่าวัดอาซาคุสะ, วัดโคมแดง แลนด์มาร์คของย่านนี้ ตลอดจนสถานที่เที่ยวแนะนำรอบๆย่านนี้ที่สามารถเดินเท้าถึงกันได้ เช่น

วัดเซ็นโซจิหรือวัดอาซาคุสะ (Sensoji Temple) วัดที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆในโตเกียวและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว พื้นที่บริเวณวัดที่จุดที่น่าสนใจหลายแห่งเช่น ประตูคามินาริ ที่โคมไฟสีแดงอันใหญ่น้ำหนักราว 700 กรัม ที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของวัดนี้

ถนนนากามิเสะ (Nakamise Avenue) แหล่งช้อปปิ้งในอาซาคุสะที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหาร เครื่องดื่มและขนมอร่อยๆมากมาย ถ้าใครที่ตั้งใจมาหาของอร่อยๆกินโดยเฉพาะขนมและอาหารสไตล์ญี่ปุ่นต้องมาเดินที่ถนนนี้เลย แล้วก็ยังมีร้านของฝากของที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อกันด้วย

สวนสุมิดะ (Sumida Park) สวนสาธารณะริมแม่น้ำสุมิตะ ที่เหมาะกับการไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจและยังเป็นสถานที่สำหรับชมงานเทศกาลดอกไม้ไฟฤดูริมแม่น้ำสุมิดะในฤดูร้อน หรือถ้าช่วงฤดูใบไม้ผลิก็เป็นจุดชมซากุระที่สวยงามมากแห่งหนึ่งของโตเกียว

ถนนช้อปปิ้งนิชิซันโด (Nishi-Sando Shopping Street) อีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งในอาซาคุสะที่มีความน่าสนใจอยู่ที่ตรงพื้นทางเดินที่ปูด้วยไม้ตลอดทาง ท่ามกลางบรรยากาศของร้านค้าหลากหลายสไตล์ที่ตั้งอยู่สองข้างทางให้ได้เดินชมกันเพลินๆ

พิพิธภัณฑ์งานเทศกาล (Omatsuri Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงและรวบรวมเรื่องราวทางวัฒนธรรมของงานเทศกาลที่จัดขึ้นในอาซาคุสะที่มีมายาวนาน เช่น การจัดแสดงอุปกรณ์งานเทศกาล แบบจำลองขนาดจิ๋ว และโมเดลของเกี้ยวที่ใช้แห่ เป็นต้น

การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดินสาย Tokyo Metro Ginza Line ไปลงที่สถานี Asakusa จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย

อุเอโนะ (Ueno) เป็นย่านที่ผสมผสานบรรยากาศความเรียบง่ายของย่านการค้าที่เข้ากับกลิ่นอายแห่งวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัวทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็นย่านแห่งวัฒนธรรม โดยเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ ตลาดสไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังสามารถพบเสน่ห์แห่งรสชาติอาหารญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยมของร้านอาหารในย่านนี้ เช่น ทงคัตสึ ข้าวปลาไหล รวมทั้งร้านอาหารสไตล์ตะวันตกที่เก่าแก่มีชื่อเสียงกับคาเฟ่บรรยากาศน่ารักๆ ด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในย่านอุเอโนะที่จะแนะนำ ก็ได้แก่

สวนสาธารณะอุเอโนะ (Ueno Park) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ของโตเกียวและเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ภายในสวนนอกจากจะเต็มไปด้วยต้นไม้ดอกไม้ ก็ยังมีบริการร้านน้ำชา กาแฟ อีกด้วย

ตลาดอาเมโยโกะ (Ameyoko) ตลาดที่มีของกินอร่อยๆมากมายในแบบสตรีทฟู๊ดและซีฟู๊ดนับร้อยร้านค้า ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของตลาดแห่งนี้ นอกจากอาหารญี่ปุ่นแล้วก็ยังมีอาหารนานาชาติด้วย

ห้างทาเคย่า (Takeya) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ ตึกม่วง เพราะตัวตึกทาสีม่วงทั้งหมด เป็นห้างที่เต็มไปด้วยสินค้าและของฝากจากญี่ปุ่นมากมายจึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) เป็นสวนสัตว์เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น บนพื้นที่ประมาณ 90 ไร่ ภายในมีสัตว์หลากหลายชนิดมากกว่า 3,000 ตัว และมีศูนย์การเรียนรู้เรื่องสัตว์ต่างๆ เรียกว่าเป็นอีกสถานที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยก็ว่าได้

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum) เป็นสถานที่ที่ได้รวบรวม สะสม และจัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเอกตลอดจนผลงานศิลปะพระพุทธศาสนา วัตถุโบราณทรงคุณค่าของญี่ปุ่นและประเทศในเอเชียไว้นับแสนชิ้น

การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yamanote ไปลงที่สถานี Ueno หรือ นั่งรถไฟ Tokyo Metro สาย Ginza line ไปลงที่สถานี Ueno จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย

ย่านทามะ (Tama) เป็นพื้นที่ทางฝั่งตะวันตกของโตเกียว ที่สามารถวางแผนเดินทางไปเที่ยวแบบเดย์ทริปจากย่านใจกลางเมืองได้โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยย่านนี้สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เช่น ภูเขา แม่น้ำ อีกทั้งยังมีสถานที่อื่นๆ อย่างศูนย์การค้า สวนสัตว์ สวนสนุก และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ตามที่จะแนะนำดังต่อไปนี้

ภูเขามิตาเกะ (Mitake) สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากในญี่ปุ่น และมีเคเบิ้ลคาร์ให้บริการชมทิวทัศน์ตลอดทั้งปี นอกจากนี้พื้นที่ด้านล่างภูเขายังมีธรรมชาติที่สวยงามอย่างเช่นหุบเขามิตาเกะ (Mitake Gorge) ด้วย

ภูเขาทาคาโอะ (Takao) ภูเขาที่มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นจุดฟื้นพลังชีวิต (Power Spot) เป็นแหล่งธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง จึงเหมาะกับการเดินทางมาพักผ่อนสบายๆ อีกทั้งยังมีบรรยากาศสวยงามทุกฤดูกาล

พิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมกลางแจ้ง เอโดะ-โตเกียว (Edo-Tokyo Open Air Architectural Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งสำหรับจัดแสดงสถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ของโตเกียวในรูปแบบ บ้านเรือน บ้านไร่ และร้านขายของ เป็นต้น

สวนสนุกซานริโอ พูโรแลนด์ (Sanrio Puroland) สวนสนุกในธีมคาแรคเตอร์จากซานริโอ (Sanrio) และในแต่ละวันก็จะมีกิจกรรม การแสดงโชว์และขบวนพาเหรดของเหล่าคาแรคเตอร์ยอดนิยมเช่น Hello Kitty และ My Melody

การเดินทาง : จากสถานี Tokyo โดยสารรถไฟสาย JR Chuo Special Rapid ไปลงที่สถานี Tachikawa ใช้เวลา 40 นาที แล้วเดินทางท่องเที่ยวต่อในย่านนี้ด้วยรถบัสประจำทางหรือรถไฟท้องถิ่นที่จอดตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ

คิชิโจจิ (Kichijoji) เป็นย่านที่มีแหล่งพักผ่อนหย่อนใจหลายแห่งและยังได้ชื่อว่าเป็นย่านของหนุ่มสาว ซึ่งได้รับความนิยมติดอันดับต้น ๆ ของการจัดอันดับเมืองที่น่าอยู่ในโตเกียว ด้วย เพราะย่านนี้ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติกับบรรยากาศที่สงบร่มรื่นของสวนสาธารณะที่มีผู้คนมาเดิน วิ่ง ออกกำลังกาย หรือปิกนิกในวันหยุด นอกจากนี้ก็ยังมีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ย่านช้อปปิ้งของกินอร่อยๆ พิพิธภัณฑ์ตลอดจนร้านค้า ร้านอาหารมากมาย

ถนนนาคามิชิ (Nakamichi) เป็นถนนสายที่เต็มไปด้วยร้านขายของแนวน่ารักๆ เช่น กิฟท์ช็อป เสื้อผ้าแฟชั่นและของใช้ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ กับร้านกาแฟเก๋ๆ มากมายสำหรับนั่งเล่นเพลินๆ

สวนสาธารณะอิโนะคาชิรา-อนชิ (Inokashira Onshi Park) สวนที่อุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้และบรรยากาศธรรมชาติ รวมทั้งยังมีบริการพายเรือบดเล่นในสระและในฤดูใบไม้ผลิก็เป็นจุดชมดอกซากุระที่ได้รับความนิยมมากอีกแห่ง

ตรอกฮาร์โมนิกา โยโคโจ (Harmonica Yokocho Alley) ถนนเล็กๆ ที่มีร้านค้าตั้งเรียงรายอยู่ประมาณ 100 ร้านค้า และมีร้านอาหารประเภทอิซากายะที่เปิดดึกหลายร้าน บรรยากาศตอนกลางคืนจึงคึกคักอยู่เสมอ

มิทากะ (Mitaka) เป็นทั้งสวนดอกไม้และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์จิบลิ (Ghibli Museum, Mitaka) สตูดิโอผลิตอนิเมะชื่อดังซึ่งมีผลงานเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกหลายเรื่อง เช่น Spirited Away และ Tonari no Totoro เป็นต้น

การเดินทาง : จากสถานี Tokyo ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo Line ไปลงที่สถานี Kichijoji ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นเดินต่ออีกเล็กน้อย
แต่สำหรับพิพิธภัณฑ์จิบลิและย่านการค้า Harmonica Yokocho สถานี Mitaka ซึ่งอยู่ติดกันจะไปสะดวกกว่า

ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)