มรดกโลก 10 แห่งที่น่าเที่ยวในญี่ปุ่น
6. เหมืองเงินอิวามิ กินซัน จังหวัดชิมาเนะ (Iwami Ginzan Silver Mine, Shimane)
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ. 2007 เป็นเหมืองเงินเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้อย่างดี ปัจจุบันที่นี่ไม่ได้มีการทำเหมืองแล้วแต่เปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมภายในเหมืองแบบโบราณซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่การการขุดเหมืองลึกลงไปในทิศทางต่างๆคล้ายกับรังมด ถือเป็นภูมิปัญญาที่น่าทึ่งไม่น้อยเลยทีเดียว
เวลาทำการ : 09.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : 410 เยน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR San'in Main Lineไปลงที่สถานี Odashi จากนั้นต่อรถบัสท้องถิ่นสาย Kawamoto ไปลงที่ป้าย Omori bus stop ซึ่งอยู่ใกล้จุดที่เป็นเหมืองเงินมากที่สุดแล้วเดินต่ออีก 2 กิโลเมตร
7. เกาะโอกาซาวาระ จังหวัดโตเกียว (Ogasawara Islands, Tokyo)
มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี ค.ศ. 2011 ได้ชื่อว่าเป็นเกาะกาลาปากอสแห่งญี่ปุ่นประกอบด้วยหมู่เกาะน้อยใหญ่ราวๆ 30 เกาะและมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าเกาะโบนิน ตั้งอยู่ห่างจากกรุงโตเกียวประมาณ 1,000 กิโลเมตร เกาะที่เป็นจุดท่องเที่ยวทางทะเลเช่น ชายหาด กิจกรรมดำน้ำดูปะการังและมีประชากรอาศัยอยู่คือเกาะฮาฮาจิมะ (Hahajima Island) และเกาะชิชิจิมะ (Chichijima Island)
เวลาทำการ : 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ
การเดินทาง : จากโตเกียวมีบริการเรือโดยสารเป็นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากในรูปแบบเรือสำราญ ใช้เวลาเดินทา 25.5 ชั่วโมง โดยเรือจะออกทุกๆ 6 วัน (ยกเว้นช่วงวันหยุด Golden Week และวันหยุดเทศกาลโอบ้งในเดือนสิงหาคม จะมีเรือออกทุกๆ 3 วัน) และเรือเฟอร์รี่จะมีช่วงที่หยุดให้บริการคือ 2 สัปดาห์กลางเดือนมกราคม
ส่วนการเดินทางภายในเกาะจะมีรถบัสประจำทางให้บริการบนถนนสายหลักที่เชื่อมระหว่างท่าเรือฟุตามิ (Futami Port) และชายหาดโคมินาโตะ( Kominato Beach) นอกจากนี้ยังมีบริการเช่ารถยนต์ จักรยานและสกูตเตอร์ด้วย
8. เกาะยาคุชิมะ จังหวัดคาโกชิมะ (Yakushima Island, Kagoshima)
มรดกโลกทางธรรมชาติ ปี ค.ศ. 1993 เกาะที่เต็มไปด้วยป่าและภูเขากับธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ได้ชื่อว่าเป็นเกาะพิศวงที่จะทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในป่ายุคดึกดำบรรพ์ซึ่งจะได้พบกับพืชพันธุ์หลากหลายชนิดทั้งพืชเขตร้อน พืชเขตหนาวหรือแม้กระทั่งปะการัง แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือต้นสนขนาดใหญ่อายุกว่า 7,000 ปี ที่ชื่อว่า โจมงสุกิ (Jomonsugi)
เวลาทำการ : ตลอดทั้งวัน
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ
การเดินทาง : ไม่มีรถไฟหรือรถบัสไปถึงเกาะ ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศจากสนามบินอิตามิ (โอซาก้า), สนามบินฟุกุโอกะหรือคาโกชิมาไปลงที่เกาะยาคุชิมะและอีกวิธีหนึ่งคือบริการเรือเฟอร์รี่และเรือด่วนจากท่าเรือคาโกชิมะไปยังเกาะยาคุชิมะ
ส่วนการเดินทางภายในเกาะยาคุชิมะจะมีรถบัสประจำทางโดย 2 บริษัท คือ Matsubanda Kotsu และ Tanegashima Yakushima Kotsu เริ่มวิ่งตั้งแต่เวลา 04.10 น. จนถึงเที่ยวสุดท้าย 19.30 น. ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง
9. พื้นที่ฮิราอิซุมิ จังหวัดอิวาเตะ (Hiraizumi, Iwate)
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ. 2011 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนาที่มีความรุ่งเรืองมากเมื่อประมาณ 1,000 ปีก่อน ฮิราอิซุมิ และในปัจจุบันก็ยังคงมีทั้งวัดวาอารามกับสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ทรงคุณค่าทางที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี เช่นวัดโมทสึจิ (Motsuji) วัดของนิกายเทนไดขนาดใหญ่ที่มีจุดน่าสนใจคือสวนโจโดะเทเอ็นซึ่งมีรูปแบบการจัดสวนจากยุคเฮอันและวัดชูซอนจิ (Chusonji) สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในพื้นที่ฮิราอิซูมิ
เวลาทำการ : 09.00-16.30 น.
ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย JR Tohoku Main Line ไปลงที่สถานี Hiraizumi แล้วเดินต่อประมาณ 8 นาที
10. โรงงานทอผ้าโทมิโอกะ จังหวัดกุนมะ (Tomioka Silk Mill, Gunma)
มรดกโลกทางวัฒนธรรม ปี ค.ศ. 2014 โรงงานผ้าไหมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกับชื่อเสียงในเรื่องการผลิตสินค้าคุณภาพเยี่ยมและยังเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นการค้าขายระหว่างญี่ปุ่นและฝรั่งเศส เปิดทำการในปีค.ศ. 1872 มีจุดเด่นคือสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นการผสมผสานกันของหลังคาสไตล์ญี่ปุ่นกับผนังและประตูสไตล์ตะวันตกรวมทั้งการก่ออิฐที่เสาไม้และกำแพงฉาบปูนด้วย ปัจจุบันแม้ว่าจะปิดตัวลงไปแล้ว แต่ก็ได้รับการดูแลอย่างดีจนได้รับเลือกเป็นมรดกโลก
เวลาทำการ : 09.00-16.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 เยน, นักศึกษามหาวิทยาลัย และนักเรียนมัธยมปลาย 250 เยน, นักเรียนมัธยมต้นและนักเรียนประถม 150 เยน
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย Joshin Railway ไปลงที่สถานี Joshu-Tomioka แล้วเดินต่ออีกประมาณ 10-15 นาที