Cosmo Clock 21 เป็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่อีกแห่งของญี่ปุ่นที่คนนิยมแวะมาเที่ยวกันเยอะ ตั้งอยู่ในสวนสนุก Cosmo World ได้ชื่อนี้เพราะมีนาฬิกาขนาดยักษ์อยู่ตรงกลาง เลื่องชื่อว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ติดนาฬิกาที่ใหญ่ยักษ์ที่สุดในโลก

Cosmo Clock 21 นี้เป็นสัญลักษณ์ของโยโกฮาม่าที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองเลยก็ว่าได้ กลางคืนมีจัดแสดงไฟหลากแสงสีสวยงามมาก วิวท่าเรือเมื่อมองลงมาจากชิงช้าสวรรค์ก็ดีงามอย่างบอกไม่ถูก ระยะเวลาขึ้นไปนั่งรอบละประมาณ 15 นาที

เวลาทำการ
โปรดตรวจสอบที่นี่
ความหมายของสีบนปฏิธิน
สีชมพู 11.00 - 22.00 น.
สีเหลือง 11.00 - 21.00 น.
สีฟ้า 11.00 - 20.00 น.
สีเทา วันหยุด
ค่าเข้าชม
อายุ 3 ปีขึ้นไป 800 เยน
การเดินทาง
- ขึ้นรถไฟสาย JR Negishi หรือรถไฟใต้ดิน Yokohama Municipal Subway ลงสถานี Sakuragicho แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
- ขึ้นรถไฟสาย Minatomirai ลงสถานี Minatomirai แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 2 นาที

ชิงช้าสวรรค์แห่งประกายเพชรและดอกไม้ Diamond and Flower Ferris Wheel ในโตเกียวมีความสูงเป็นอันดับที่ 2 ของญี่ปุ่นโดยสูง 117 เมตร อยู่ในสวนสาธารณะ Kasai Rinkai Koen เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2001 คุณสามารถมองเห็นวิวสวยๆ จากบนชิงช้าสวรรค์ อย่างเช่น วิวของ Disneyland วิวอ่าวโตเกียว และอย่างวันไหนที่ฟ้าเปิด อากาศแจ่มใสก็สามารถมองเห็นวิวภูเขาฟูจิได้ด้วย

กลางคืนมีเปิดไฟประดับมองเห็นเหมือนดอกไม้มีกลีบขนาดใหญ่และดูส่องประกายเหมือนเพชร สมชื่อ Diamond and Flower ถ้านั่งชมวิวใช้เวลารอบละประมาณ 17 นาที

เวลาทำการ
10.00 - 20.00 น.
ค่าเข้าชม
บุคคลทั่วไป (อายุ 3 ปีขึ้นไป) 700 เยน
ซิลเวอร์ (อายุ 70 ปีขึ้นไป) 400 เยน
บุคคลพิการ 350 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Keiyo ลงสถานี Kasai Rinkai Koen

ชิงช้าสวรรค์ Daikanransha เป็นจุดเด่นของ Odaiba ตั้งอยู่ที่ Palette Town มีความสูง 115 เมตรและเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 เมตร ขนาดใหญ่เป็นรองแค่ชิงช้าสวรรค์ Redhorse ที่โอซาก้ากับ Diamond and Flower Ferris Wheel ในโตเกียวเท่านั้น

เป็นตัวช่วยชมวิวกลางคืนของโตเกียวที่ดีที่สุดที่นึง จากข้างบนเราจะเห็นวิวหอคอย Tokyo Tower และ Tokyo Sky Tree ที่สวยเตะตา รวมถึงสะพานอย่าง Rainbow Bridge และ Tokyo Gate Bridge วิวแสงสียามค่ำคืนของโตเกียวที่มองจากบนชิงช้าสวรรค์จะทำให้คุณหลงใหลแน่นอน

เวลาทำการ
10.00 - 22.00 น.
วันศุกร์ เสาร์ และวันหยุดราชการเปิดถึง 23.00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (อายุ 12 ปีขึ้นไป) 1000 เยน
เด็ก (4-11 ปี) 500 เยน
ตั้งแต่ 3 ขวบลงไป ฟรี
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Rinkai ลงสถานี Tokyo Teleport แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 3 นาที

ชิงช้าสวรรค์ที่ Yomiuri Land เป็นสัญลักษณ์ของสวนสนุกแห่งนี้เลย มีความสูง 61.4 เมตร นั่งได้รอบละประมาณ 13 นาที วันไหนอากาศดีเราจะได้กินลมชมวิวภูเขาไฟฟูจิ แล้วยังมีวิว Tokyo Tower กับ Tokyo Sky Tree ให้ดูด้วยนะ

กลางคืนก็มีไฟประดับอีกด้วย ทีเด็ดสุดๆของที่นี่คืองานประดับไฟยิ่งใหญ่อลังการ Yomiuri Land Jewellumination ซึ่งจะจัดยาวๆประมาณ 5 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาถึงกุมภา ทุกโซนของสวนจะเล่นสีเล่นแสงไฟเจิดจ้าเหมือนอัญมณีเลย งดงามสุดจะบรรยาย ถ้าขึ้นไปชมวิวจากบนชิงช้าสวรรค์รับรองว่าคุณจะตะลึงกับวิวไฟประดับนี้จนละสายตาไม่ได้เลยขอบอก

เวลาทำการ
09.00 - 20.30 น.
งาน Yomiuri Land Jewellumination
11 ตุลาคม 2018 - 17 กุมภาพันธ์ 2019
เริ่มช่วงเย็น 16.00 - 20.30 น.
ค่าบริการ
600 เยน
ค่าเข้าชมงาน Yomiuri Land Jewellumination
ผู้ใหญ่ 1400 เยน
เด็กมัธยม 600 เยน
เด็ก 3 ขวบ - ประถม 300 เยน
ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 600 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย Keio จากสถานี Shinjuku มาลงสถานี Keio Yomiuriland จากนั้นต่อ Odakyu Bus ประมาณ 5 นาทีก็ถึง Yomiuri Land

ชิงช้าสวรรค์ Big O มีความเป็นเอกลักษณ์ที่สุดที่ไม่เหมือนชิงช้าสวรรค์ที่ไหนในญี่ปุ่น เพราะไม่มีแกนกลางและซี่วงล้อ ตรงช่องว่างของแกนกลางนั้นยิ่งพิเศษ เพราะรถไฟเหาะ Thunder Dolphin จะแล่นผ่านช่องนั้นด้วย น่าตื่นใจไหมล่ะ แถมยังถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊คปี 2006 ว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ไร้แกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย

ลองขึ้นไปนั่งชมวิว พร้อมชมรถไฟเหาะ Thunder Dolphin ที่แล่นผ่านใจกลางด้วยความเร็ว 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมงดู เป็นประสบการณ์ชมวิวที่หาได้ยากอีกแบบหนึ่งเลย ห้ามพลาดนะ

เวลาทำการ
10.00 - 21.00 น.
ค่าบริการ
820 เยน
การเดินทาง
ขึ้นรถไฟสาย JR Chuo หรือสาย Sobu มาลงสถานี Suidobashi