1. การจองที่นั่ง หลายโรงเรียนผู้ปกครองมาต่อแถวกันตั้งแต่เช้ามืด และหลายโรงเรียนได้มีการห้ามมาต่อแถวกันก่อนเพราะอยู่ในเขตชุมชน จะเป็นการรบกวนบ้านเรือนบริเวณนั้นได้ค่ะ ประตูโรงเรียนเปิดเวลา 8 นาฬิกา ผู้ปกครองต่างพากันไปปูเสื่อจองที่ เลือกที่หน้าสุดหรือหลังสุด ไม่ใช่ทางที่คนเดินผ่านเพราะเศษฝุ่นจะเข้ามาบนเสื่อได้ค่ะ สำหรับคนที่เลือกด้านหลังสุด สามารถนำเก้าอี้แค้มปิ้งมาได้ หรือถ้าอยู่ด้านติดรั้วโรงเรียนก็สามารถกางเต็นท์แค้มปิ้งเล็กๆได้ค่ะ แต่คนที่นำเต็นท์มามีไม่มาก แค่ 2-3 ครอบครัวค่ะ

2. การเชียร์ ระหว่างการแข่งขันจะไม่มีการเต้นเชียร์ลีดเดอร์เหมือนของไทยนะคะ มีเพียงร้องเพลงเชียร์ เป็นเพลงง่ายๆมีแต่ท่อนนำเป็นสีของทีมและร้องตามว่าสู้ๆค่ะ ผู้นำร้องคือพี่ป.5 น้องๆป.1-ป.4ร้องรับ และป.6ช่วยดูแลความเรียบร้อยน้องๆทั้งหมดค่ะ ส่วนด้านหลังที่นั่งเด็กๆจะมีเชือกกันห้ามเข้า บริเวณนี้ผู้ปกครองสามารถยืนเชียร์หรือถ่ายรูปได้ค่ะ คนจะมุงกันเยอะหน่อย หลายคนก็มีบันไดส่วนตัวมาเอง เพื่อที่จะมองเห็นได้ชัดค่ะ

3. การถ่ายรูป
สามารถถ่ายจากมุมไหนก็ได้ตลอดงานค่ะ และทางโรงเรียนได้แบ่งเขตถ่ายรูปไว้อยู่มุมด้านที่เด็กวิ่งเข้าเส้นชัยไว้ด้วยค่ะ ในบริเวณนี้ผู้ปกครองสามารถต่อบันไดสูงแค่ไหนก็ได้ แต่ก็ไม่ควรสูงเกินจนรบกวนคนรอบข้างค่ะ เมื่อถ่ายรูปลูกของตัวเองเสร็จแล้วควรหลบเพื่อให้ท่านอื่นเข้ามาถ่ายรูปลูกๆของตนในโปรแกรมถัดไปค่ะ ไม่สามารถยืนจองที่ตลอดงานได้นะคะ

4. มื้อกลางวันระหว่างพักเที่ยง
เมื่อมีประกาศพักกลางวัน เด็กๆจะพากันกลับห้องเรียนเพื่อกินข้าวกลางวัน ส่วนผู้ปกครองและญาติๆที่มาดูต่างนำเบนโตะที่เตรียมไว้มาทาน บ้างก็เดินกลับไปกินข้าวที่บ้านสำหรับคนที่บ้านอยู่ใกล้มากๆค่ะ จากการสอบถามคนไทยในญี่ปุ่นนะคะ บางคนก็ทำข้าวกล่องไทยๆอย่างข้าวผัดกระเพราไข่ดาวค่ะ ส่วนคนญี่ปุ่นก็มีข้าวปั้น ไก่คาราอาเกะ ผักสลัด ผลไม้ตามฤดูกาลที่นิยมกันมากค่ะ

5. เสบียงสำหรับทานเล่น
บ้านไหนที่มีเด็กเล็กมาด้วยก็ควรเตรียมขนมมาเผื่อเด็กๆเบื่อ และในช่วงโปรแกรมที่ลูกไม่ได้ลงสนามผู้ใหญ่เองก็สามารถกินฆ่าเวลาได้ค่ะ

1. ดูกำหนดการวันกีฬาสี และขอวันลาหยุดงานกับทางบริษัท สำหรับคนที่ต้องทำงานในวันนั้นๆค่ะ (เสาร์อาทิตย์)

2. เมื่อใกล้วันงาน ตรวจพยากรณ์อากาศ หากมีฝนตก งานอาจถูกเลื่อนเป็นวันถัดไป ให้เตรียมลางานเพิ่ม และซื้อเสบียงมาเพิ่มสำหรับวันถัดไปค่ะ

3. อุปกรณ์ปิกนิก
- เสื่อปิกนิก หรือเก้าอี้แค้มปิ้งและโต๊ะปิกนิก (ตามชอบ)
- กระติกน้ำแข็ง หรือ กระเป๋าเก็บความเย็น
- กล่องเบนโตะ จาน ตะเกียบ ช้อนส้อม และแก้วน้ำ
- ถุงใส่ขยะ
- ทิชชู่เปียก

4. อุปกรณ์กันแดด ร่มกันแดด และ หมวก เพราะในฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นส่วนใหญ่ฟ้าโปร่ง หากอุณหภูมิไม่ต่ำมาก กลางวันแดดจะร้อนมากค่ะ

5. การแต่งกาย ควรใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดให้เกียรติสถานที่ อย่างกางเกงขายาว เสื้อที่เรียบร้อย โดยคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใส่เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนส์ขายาว และรองเท้าผ้าใบค่ะ

6. เบนโตะ โดยเตรียมกับข้าวที่สามารถเก็บค้างคืนได้ เมื่อถึงเช้าวันกีฬาสีจะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามากมาทำกับข้าวค่ะ อย่างไก่คาราอาเกะ เราสามารถทอดไว้ตอนเย็นให้พอสุกไม่ต้องเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้หรือจะแช่เย็นก็ได้ แล้วตอนเช้าก็นำมาทอดให้กรอบอีกที ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ

7. ขนมและของทานเล่น

8. น้ำชาและเครื่องดื่มตามชอบคนญี่ปุ่นนิยมดื่มน้ำชามากกว่าน้ำเปล่าค่ะ ก่อนวันงาน นำน้ำชาขนาด 2 ลิตร แช่แข็งไว้เลยค่ะ แล้วเช้าวันงานนำออกมาตั้งไว้ข้างนอกให้ละลายนิดหน่อยก่อนเก็บใส่กระเป๋าเก็บความเย็นค่ะ

9. เตรียมอุปกรณ์ถ่ายรูป กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ บันไดพับได้ 2-3 ขั้น

10. สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ต้องเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงลูกให้พร้อมค่ะ อย่างรถเข็น เป้อุ้มเด็ก นม หมอนหนุน เป็นต้น

งานกีฬาโรงเรียนจะขับรถหรือปั่นจักรยานมาไม่ได้นะคะ เพราะที่โรงเรียนไม่มีที่จอดค่ะ บ้านใครอยู่ไกลเตรียมของให้พร้อมเพื่อที่จะไม่พลาดโปรแกรมของลูกๆนะคะ ถ้าบ้านใกล้จะมาตัวเปล่าก็ได้ค่ะ

หากใครมีโอกาส มีญาติหรือเพื่อนอยู่ญี่ปุ่น ลองมาเที่ยวที่นี่ช่วงปลายเดือน 9 ถึงต้นเดือน 10 ดูนะคะ ไม่แน่คุณอาจมีประสบการณ์ได้ชมงานกีฬาสีอุนโดไกของญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ