ชมบ้านโบราณจากทั่วญี่ปุ่นที่ "ซานเคย์เอ็น"
สวนรวมสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นจากทุกมุมประเทศ
สวนซานเคย์เอ็น คือสวนที่ตั้งของอาคารโบราณมากมายที่ถูก "ย้าย" จากสถานที่ดั้งเดิมมาตั้งเอาไว้ที่นี่ เพื่อประโยชน์ในการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ ภายในสวนมีอาคารเก่า 17 หลังที่ได้รับการรับรองว่ามีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ โดยอาคารส่วนใหญ่ถูกย้ายมาจากเมืองเกียวโต วากายามะ กิฟุ และคามาคุระ
เมื่อยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมเกิดในสวนเกิดความเสียหายอย่างมาก แต่ภายหลังได้รับการบูรณะและซ่อมแซมให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด
รู้จักกับซานเคย์เอ็น
ซานเคย์เอ็นเป็นสวนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ได้รับการออกแบบภูมิทัศน์โดย Sankei Hara (หรือชื่อจริงคือ Tomitaro Hara) นักธุรกิจทำผ้าไหมที่ร่ำรวย
ซานเคย์เอ็นเปิดให้คนทั่วไปเข้าชมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1906 เป็นต้นมา และในปีค.ศ. 1953 สวนซานเคย์เอ็นถูกย้ายทรัพย์สินจากตระกูล Hara ไปยังมูลนิธิ Sankeien Hoshokai เพื่อดูแลรักษาและอนุรักษณ์สืบไป เช่นเดียวกับโบราณสถานในญี่ปุ่นหลายๆที่ ที่มักถูกย้ายการครอบครองจากครอบครัวหรือบุคคลมายังองค์กรที่สร้างขึ้นมาเพื่ออนุรักษ์สถานที่นั้นๆโดยเฉพาะ
พื้นที่ใหญ่โตมโหฬาร
พื้นที่ทั้งหมดของสวนซานเคย์เอ็นมีพื้นที่มากกว่า 175,000 ตารางเมตร แนะนำให้มาตั้งแต่บ่ายโมง เพราะเมื่อเดินครบรอบสวน สวนก็ปิดพอดี แนะนำให้ใส่รองเท้ากีฬาหรือรองเท้ารัดส้น เพราะนอกจากที่ราบแล้ว ยังมีเนินและภูเขาน้อย ๆ ให้เราได้สำรวจโดยรอบ (เดินกันเมื่อยตุ้ม)
ต่างฤดูกาล ต่างสีสัน
นอกจากสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่แตกต่างกันแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีความน่าสนใจตรงที่มีพืชและดอกไม้ของแต่ละฤดูอยู่ครบ เมื่อฤดูเปลี่ยน วิวทิวทัศน์ที่เห็นได้ก็จะเปลี่ยนไปตามฤดู แม้จะมาเที่ยวซ้ำหลายครั้งก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปทุกครั้งที่ได้มา
ไม่ต้องไปถึงชิราคาว่าโกก็มีบ้านฟาง
บ้าน Yanohora เป็นบ้านของตระกูลที่ร่ำรวยในอดีต มีรูปทรงเดียวกับที่เห็นได้ที่ ชิราคาว่าโก มรดกโลกที่เรารู้จักกันดี เพราะบ้านหลังนี้ถูกย้ายมายังสวนซานเคย์เอ็นจากที่ชิราคาว่าโกนั่นเอง
จากสถาปัตยกรรมทั้งหมดที่มีในสวนนี้ มีบ้านหลังนี้เพียงหลังเดียวที่เปิดให้ชมภายในอาคารตลอดทั้งปี มีห้องรับแขกและหน้าต่างที่มีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ภายในบ้านจัดแสดงเครื่องมือทำการเกษตรที่ใช้ในภูมิภาคฮิดะ (บริเวณใกล้เคียงกับทากายาม่าและชิราคาว่าโก)
อ่านบทความเต็ม: www.sankeien.or.jp (อังกฤษ)
มีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงขนาดย่อม
ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติของครอบครัว Hara รวมถึงของใช้และเฟอร์นิเจอร์บางส่วนภายในบ้านมาจัดแสดง
พิธีชงชา
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์มีพิธีชงชาราคา 500 เยนต่อคน ซึ่งถือว่าไม่แพงเลย ซึ่งเราจะได้ดื่มมัชฉะและทานขนมราคุกัน 落雁 (ขนมทำจากแป้ง แห้งๆร่วนๆ มีรสหวาน กินกับชาเข้ากันมากๆ) กินแล้วหายคิดถึงขนมโก๋บ้านเรากันเลยทีเดียว คล้ายกันมากๆ
ที่นี่พิเศษตรงที่ขนมราคุกันและถ้วยชาที่เป็นรูปเจดีย์ 3 ชั้น ที่เป็นเอกลักษณ์ของสวนซานเคย์เอ็น ถ้ากินแล้วชอบ ขนมราคุกันมีขายราคา 600 เยนต่อแพ็ค มีทั้งหมด 9 ชิ้น ให้ซื้อกลับบ้านกัน
นิยมถ่ายพรีเวดดิ้ง
วันที่ไปเจอว่าที่คู่บ่าวสาว 2 คู่มาถ่ายพรีเวดดิ้ง เลยลองสอบถามพนักงานเห็นว่าบางวันมีคู่บ่าวสาวมาถ่ายพรีเวดดิ้งมากกว่า 10 คู่กันเลยทีเดียว อะไรจะเป็นที่นิยมขนาดนั้น บางคู่มาถ่ายภาพทั้ง 4 ฤดูให้ครบด้วย สุดยอดจริง ๆ
ที่จริงมันคือหมู่บ้านแมวล่ะ
นอกจากนี้ เท่าที่เดินดูเองจนจบ พบว่าสวนซานเคย์เอ็นมีประชากรแมวมากมายทีเดียว รวม ๆ แล้วนับได้หลายสิบตัว คนที่เป็นทาสแมวก็ไม่ควรพลาดค่ะ
คำอธิบายภาษาอังกฤษ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก ที่นี่มีคำอธิบายภาษาอังกฤษทุกป้าย รวมถึงแผ่นพับภาษาอังกฤษด้วยค่ะ
อ่านบทความเต็ม: www.sankeien.or.jp (อังกฤษ)
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (14 ปีขึ้นไป) : 700 เยนต่อคน
เด็ก (ต่ำกว่า14 ปี) : 200 เยนต่อคน
ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) : 200 เยนต่อคน
กรณีมาเป็นหมู่คณะเกิน 10 คนจะได้ราคาพิเศษ
ตั๋วทั้งหมดสามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ในรูปด้านบน
การเดินทางมายังสวนซานเคย์เอ็น
1 ) นั่งรถไฟสาย JR Negishi Line ไปลงที่สถานี Negishi (ชื่อสถานีกับชื่อสายเหมือนกัน) ขึ้นรถบัสหมายเลข 58 99 หรือ 101 จากจุดขึ้นรถเบอร์ 1 ไปลงที่ป้าย Honmoku ใช้เวลา 10 นาที และเดินต่ออีกเล็กน้อย
รถไฟสาย JR Negishi Line สามารถขึ้นได้จากสถานีโยโกฮาม่า
2 ) จากสถานีโยโกฮาม่า สามารถขึ้นรถบัสหมายเลข 8 หรือ 148 จากจุดขึ้นรถบัสเบอร์ 2 ไปลงที่ป้าย Sankeien-iriguchi ใช้เวลา 35 นาที และเดินต่ออีกเล็กน้อย
อ่านบทความเต็ม: www.sankeien.or.jp (อังกฤษ)