รู้รอบเรื่องอิเคะบุคุโระ
รู้จักกับอิเคะบุคุโระ
สิ่งแรกที่ควรรู้คือ อิเคะบุคุโระเป็นสถานีรถไฟชุมทางที่สำคัญสุดๆแห่งหนึ่งในโตเกียว โดยเป็นสถานีที่แต่ละวันมีคนขึ้นลงเยอะเป็นอันดับสามของโลก! แพ้แค่สถานีชินจูกุและชิบุย่าของญี่ปุ่นด้วยกันนั่นเอง แต่ชนะสถานีสำคัญๆ อย่างโตเกียวและอุเอโนะ (ซึ่งเป็นที่ขึ้นชินคังเซ็นด้วยนะ) ใหญ่ขนาดนี้แน่นอนว่ารอบๆมีทีี่เที่ยว ช้อป ชิม เยอะแน่นอน ไม่ทำความรู้จักไว้ไม่ได้แล้ว
ดองกี้ สาขาอิเคะบุคุโระ ประตูตะวันออก
ร้านดองกิโฮเต้ ในช่วงไม่กี่ปีนี้สร้างชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวไทยอย่างมาก ในฐานะร้านที่ถูกและมีทุกอย่าง
จริงๆแล้วดองกี้เป็นร้านแฟรนไชส์ มีสาขามากมายอยู่ทั่วญี่ปุ่น สถานีใหญ่ๆ ที่มีความสำคัญทั้งหลายและนักท่องเที่ยวไทยชอบไปเที่ยวนั้น หลายๆสถานีถ้าลองหาดูก็มีโอกาสเจอได้ไม่ยาก ไม่จำเป็นต้องมาที่นี่ก็ได้
แต่ว่า ไม่ใช่ดองกี้ทุกสาขาจะใหญ่ขนาดนี้ และมีน้อยสาขาที่จะเปิด24ชั่วโมง และน้อยยิ่งกว่าคือสาขาที่มีภาษาไทยและอังกฤษอยู่ทั่วไป เนื่องจากสาขานี้รู้ตัวดีว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ จึงเตรียมการรับมือไว้อย่างเต็มที่ ทั้งป้ายราคา ทั้งพนักงาน หากไปตามเมืองเล็กๆหรือต่างจังหวัดละก็ แม้จะเป็นร้านดองกี้เหมือนกัน แต่ก็อาจไม่ได้ประสบการณ์แบบเดียวกันก็ได้นะ
ย่านการ์ตูนของสาวๆ "โอโตเมะโร้ด"
โอโตเมะโร้ด เป็นชื่อของถนนสายสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยร้านการ์ตูนที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีอิเคะบุคุโระ มีจุดเด่นที่สำคัญที่ทำให้ที่นี่ต่างกับย่านการ์ตูนอื่นๆ อย่างอากิฮาบาระ ก็คือที่นี่มักจะเต็มไปด้วยแฟนการ์ตูนผู้หญิง ร้านต่างๆมักจะมีการ์ตูนและสินค้าที่เน้นเจาะตลาดผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
หากมองเข้าไปในร้าน จะเห็นว่าลูกค้าจะเป็นสาวๆมากกว่าผู้ชาย เป็นวิวที่แปลกตาดีสำหรับร้านการ์ตูนที่มักมีภาพลักษณ์ว่าเป็นร้านของผู้ชาย เต็มไปด้วยของที่เจาะตลาดหนุ่มๆ ทั้งการ์ตูนที่เต็มไปด้วยตัวละครสาวๆ หรือของที่เราไม่สามารถพูดถึงบนเว็บนี้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วต้องยอมรับว่าผู้หญิงก็อ่านการ์ตูน มีสินค้าที่อยากได้ เหมือนๆกับผู้ชายนี่แหละ แต่มีร้านค้าที่ตอบสนองความต้องการน้อยกว่า ย่านนี้จึงเป็นย่านยอดนิยมของสาวญี่ปุ่น ทั้งคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นสาววาย เป็นโอตาคุ หรือแม้แต่เป็นแค่คนชอบการ์ตูนธรรมดาๆ ก็ยังสามารถเดินเข้าได้
คุณผู้หญิงที่อ่านอยู่ละ คิดว่ายังไงบ้าง เดินเข้าง่ายกว่าร้านการ์ตูนที่เต็มไปด้วยผู้ชายยืนกันแน่นร้านหรือเปล่า
พิพิธภัณท์สัตว์น้ำลอยฟ้า Sunshine Aquarium อิเคะบุคุโระ
ห้ามพลาดสุดๆสำหรับคนรักสัตว์ ที่นี่คือพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะไม่ได้มีอาคารใหญ่ๆ แทงก์น้ำขนาดยักษ์ แต่ใช้บางส่วนของห้างสรรพสินค้า Sunshine มาเปิดจึงทำให้มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด และต้องพยายามใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้สระออกมาไม่เหมือนใคร มากกว่าจะแข่งเรื่องความใหญ่หรือจำนวนสัตว์ที่มีอยู่
ในภาพคือบ่อที่เป็นจุดขายเบอร์หนึ่งของที่นี่ เราสามารถชมเพนกวินได้ราวกับว่ามันกำลังบินอยู่บนฟ้า แถมมีอาคารใหญ่ใจกลางเมืองเป็นฉากหลัง วิวแบบนี้หาชมที่อื่นไม่ได้แน่นอน นอกจากที่อิเคะบุคุโระแห่งนี้
ไม่ใช่แค่ในอิเคะบุคุโระหรือใจกลางเมือง แม้จะเทียบกันทั้งประเทศ หรือเทียบกับพิพิธภัณท์สัตว์น้ำใหญ่ๆที่อื่นของญี่ปุ่น ที่นี่ก็ยังสามารถเทียบชั้นได้อย่างสบายในแง่ของจำนวนผู้เข้าชม เพราะบ่อที่ออกแบบมาอย่างน่าสนใจ และการเดินทางที่สุดสะดวกนี่แหละ
J-World สวนสนุกสำหรับคนรักการ์ตูนญี่ปุ่น ใจกลางอิเคะบุคุโระ
สวนสนุกที่ตั้งอยู่ภายในห้าง Sunshine ที่นี่เน้นการ์ตูนจากนิตยสารมังกะรายสัปดาห์ โชเนนจัมป์ เป็นหลัก โดยเรื่องที่คนไทยอย่างเราๆน่าจะรู้จักก็คือ คุโรโกะโนะบาสเกะ ไฮคิว ปรินซ์ออฟเทนนิส วันพีซ นารุโตะ กินทามะ และดราก้อนบอลเป็นต้น และมักจะมีการจัดกิจกรรมพิเศษเพื่อแฟนๆอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการแจกของลิมิเต็ดที่ไม่มีที่อื่น หรือแสตมป์แรลลี่เพื่อแลกสินค้าที่เกี่ยวกับตัวละครจากการ์ตูนจัมป์ที่เราชอบ เป็นต้น
ร้านราเมงที่แถวยาวที่สุดในอิเคบุคุโระ "มุเตกิยะ"
มาแนะนำร้านอาหารกันบ้าง ราเมงร้านมุเตกิยะแห่งนี้ไม่ได้ดังแค่เมนูเดียวเหมือนหลายๆร้านในญี่ปุ่นที่มักจะมีเมนูเด็ดอยู่หนึ่งเมนู แต่มีหลายเมนูที่อร่อย ซุปก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด แต่หนึ่งในสิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยว่าเด็ดสุดๆก็คือเนื้อหมูชาชูชิ้นโตๆ ที่ใส่อยู่ในหลายเมนู หรือจะสั่งเพิ่มมาเป็นท็อปปิ้งก็ได้
ร้านนี้หาไม่ยาก (เราปักหมุดไว้ในส่วนแผนที่ด้านบนของเพจแล้ว) เพียงเดินออกจากประตูใหญ่ทางตะวันออกของสถานีอิเคะบุคุโระ ตรงที่มีรูปปั้นนกฮูก แล้วพอออกมาระดับถนน ยังไม่ต้องข้าม ให้หันขวาแล้วเดินไปเรื่อยๆจนถึงห้าแยก แล้วไม่ต้องข้าม ร้านจะอยู่ทางขวามือของเราก่อนข้ามทางม้าลายพอดี จุดเด่นก็คือไม่ว่าจะไปตอนกี่โมงก็จะมีคนต่อแถวรออยู่เยอะแน่นอน
สวนสาธารณะอิเคะบุคุโระ ประตูตะวันตก
สวนสาธารณะใหญ่ที่ออกจากสถานีตะวันตกมาก็จะพบได้ไม่ยาก ที่อยากให้รู้จักไว้เพราะเป็นหนึ่งในสวนสาธารณะแบบชาวบ้านญี่ปุ่นๆ ที่แม้ไม่ใหญ่มาก แต่เนื่องจากคนเยอะเราจึงจะได้เห็นกิจกรรมแบบต่างๆมากมาย เหมาะกับการซึมซับบรรยากาศการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่น อาจจะได้เห็นคนเล่นดนตรี ซ้อมเต้น เล่นสเก็ตบอร์ด เป็นต้น สำหรับคนที่สนใจอยากจะเห็นประชาชนคนธรรมดาๆของญี่ปุ่น ว่าใช้ชีวิตกันยังไงกันนั้น ที่นี่ก็ใกล้และสะดวกดี
สถานีรถไฟอิเคะบุคุโระ
สุดท้ายนี้ สถานีรถไฟ Ikebukuro แม้ความดังจะเป็นรองชินจูกุ อุเอโนะ โตเกียว ชิบุย่า หรือแม้แต่โอซาก้า แต่แท้จริงแล้วเป็นสถานีใหญ่ระดับโลกที่แต่ละวันมีคนขึ้นลงเยอะที่สุดเป็นอันดับสามของโลก! เป็นรองแค่ชินจูกุและชิบุย่านั่นแหละ (แต่ชนะโตเกียวกับอุเอโนะได้สบายๆ) สาเหตุก็เพราะว่า แม้จะไม่ได้เป็นจุดขึ้นรถด่วนชินคันเซ็นสำหรับไปต่างจังหวัด แต่แท้จริงแล้วที่นี่เป็นเหมือน "สถานีกลับบ้าน" ของคนนับล้านๆ ที่กลางวันต้องเข้ามาทำงานใจกลางโตเกียว และกลางคืนก็นั่งรถไฟกลับบ้านที่อยู่ไกลออกไปในชานเมือง ทำให้ทุกๆวัน ต้องมีคนแวะมาใช้
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ มาดูกันดีกว่าว่าจากอิเคบุคุโระเรานั่งรถไปเที่ยวไหนได้บ้าง
รถไฟสาย JR
สามารถเดินทางไปสถานีสำคัญๆข้างต้นที่กล่าวมาได้ทั้งหมด ทั้ง Shinjuku, Tokyo, Ueno, Shibuya, Harajuku, Akihabara เป็นต้น โดยทั้งหมดสามารถนั่งรถไฟไปถึงได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายหากเลือกขึ้น Yamanote Line
รถไฟ Tokyo Metro
สาย Marunouchi สีแดงสามารถไปได้ทั้งสถานีโตเกียว (เร็วกว่านั่ง JR ด้วย) โตเกียวโดม สวนโคระคุเอ็น เป็นต้น ไปชินจูกุก็ได้แต่จะช้ากว่า JR
สาย Fukutoshin สีน้ำตาล ไปได้ทั้งชินจูกุ สวนโยโยกิ ฮาราจูกุ ชิบุย่า เหมือนๆกับ JR Yamanote นั่นแหละ แต่ว่ามักจะจอดในที่ๆดีกว่า ใกล้ที่เที่ยวกว่า เพราะเป็นรถใต้ดิน แค่ออกจากสถานีมาก็มักจะเป็นใจกลางของแต่ละย่านเลย
สาย Yurakucho สีเหลืิอง เป็นอีกสายที่น่าสนใจ เพราะผ่านทั้งตลาดปลาซึคิจิ (สถานี Shin-tomicho) ทางเข้าพระราชวัง (สถานี Sakuradamon) กินซ่า โตเกียว และทางเชื่อมต่อกับรถไฟลอยฟ้าที่ใช้เดินทางไปย่านโอไดบะ (สถานี Toyosu)
รถไฟเอกชน
Tobu Tojo Line คือรถไฟสายกลับบ้านที่ว่ามานั่นแหละ คนที่ขึ้นรถ 99% ก็คือคนที่มาทำงานในโตเกียว และจะกลับบ้านที่อยู่ชานเมือง แต่ว่าก็มีหนึ่งที่เที่ยวสำคัญที่ต้องนั่งรถไฟสายนี้ไป นั่นก็คือเมืองโบราณที่ได้ฉายาว่า Little Edo คาวาโกเอะนั่นเอง