วันนี้อยากให้ทุกคนได้รู้จักกับเบียร์ไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcohol) ซึ่งต่อไปขอเรียกว่า เบียร์โนแอล อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อเพิ่มอรรถรสในการกิน โดยไม่สร้างอันตรายให้กับตัวเองและผู้อื่น

เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นเคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะว่าตู้ที่แช่เบียร์ทั้งตู้ทำไมราคาเบียร์ถึงต่างกันค่อนข้างมาก ทั้ง ๆ ที่เป็นเบียร์เมดอินญี่ปุ่นเหมือนกัน คำตอบคือนั่นเพราะลำดับขั้นภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในญี่ปุ่นมีความแตกต่างกันค่ะ ซึ่งถูกแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้

• เบียร์ที่มีปริมาณมอลต์ 0 - 25% (発泡性) ภาษีสุราต่อกระป๋อง 28 เยน / 350 มิลลิลิตร
• เบียร์ที่มีมอลต์ 25 - 66% (発泡酒) ภาษีสุราต่อกระป๋อง 47 เยน / 350 มิลลิลิตร
• และเบียร์ที่มีมอลต์เกิน 67% (ビール) ภาษีสุราต่อกระป๋อง 77 เยน / 350 มิลลิลิตร

จะเห็นได้ว่าที่ราคาของเบียร์แตกต่างกันนั้น ปัจจัยหลักส่วนหนึ่งมาจากภาษีที่รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกเก็บแตกต่างกัน แล้วแต่ปริมาณมอลต์นั่นเอง เบียร์โนแอลนั้นไม่มีแอลกอฮอล์และราคาก็ถูกกว่าเบียร์ปกติ ก็เป็นอะไรที่แฟร์ๆดีค่ะ

คำตอบของคำถามแรกนั้นง่ายนิดเดียว "ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบเบียร์ไร้แอลกอฮอล์" นั่่นก็เพราะว่าโทษเมาแล้วขับหนักมากนั่นเอง

อย่างที่คนไทยทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมาก (ถึงมากที่สุด!) หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ผู้ขับรถเลือกที่จะดื่มเบียร์โนแอลเพราะบทลงโทษที่รุนแรงจากการเมาแล้วขับ ในกฎหมายพรบ.การจราจรของญี่ปุ่น มาตราที่ 65 ระบุว่าห้ามขับขี่ยานพาหนะเมื่อมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย รวมถึงห้ามให้ยืมหรือให้ใช้ยานพาหนะกับผู้ที่เมาสุรา ห้ามให้สุราหรือสนับสนุนการดื่มสุรากับผู้ที่เมาสุรา รวมถึงห้ามร่วมโดยสารไปในยานพาหนะที่ขับขี่โดยบุคคลที่เมาสุรา

ในส่วนของบทลงโทษก็แสนจะรุนแรง ถ้าเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่าเมาแล้วขับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 เยน เพิกถอนใบขับขี่ 3 ปี และผู้ให้ยืมยานพาหนะมีโทษเท่ากับผู้ขับขี่ ส่วนผู้จำหน่าย ผู้สนับสนุนให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะดื่ม รวมถึงผู้โดยสารไปด้วย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 เยน

หากเมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี เป็นโทษที่หนักกว่าการขับขี่โดยประมาทอันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี นั่นหมายถึงเมาแล้วขับที่ญี่ปุ่นไม่ถือว่าประมาท แต่ใกล้เคียงกับการจงใจ แถมยังมีความผิดเทียบเท่าฆ่าคนตายเลยนะจ๊ะ! แถมเมาแล้วขับคนเดียวแต่โดนลงโทษกันเป็นทอด ๆ กฎหมายแรงแบบนี้ใครจะกล้าเสี่ยงเนอะ

เป็นแคมเปญที่ถูกตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2005 โดย 5 บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ คือ Kirin, Sapporo, Suntory, Asahi และ Orion เพื่อรณรงค์ให้นักดื่มมีความรู้ความเข้าใจและการรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ทุกการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะทางโทรทัศน์จะต้องมีเครื่องหมาย หยุด! นักดื่มที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์「STOP！未成年者飲酒」โดยนอกจากการโปรโมตกับบุคคลทั่วไปแล้ว แคมเปญนี้ยังรวมการให้ความรู้ทางด้านกฎหมายแก่ร้านสะดวกซื้อและร้านค้าปลีกเป็นต้น (เช่น การขายให้กับผู้มีอายุต่ำกว่าเกณท์นั้น คนขายก็มีความผิด! ใครที่เคยทำงานร้านสะดวกซื้อพวกเซเว่นที่ญี่ปุ่นละก็ ต้องเคยเรียนรู้มาแน่ๆ)

ตอนย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นช่วงแรก ๆ เคยไปซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วหยิบสาเกใส่ตะกร้ามาด้วย เมื่อต่อแถวจ่ายเงินพนักงานแคชเชียร์มองหน้าและกล่าวด้วยคำสุภาพว่า “ขออนุญาตดูบัตรได้มั้ยคะ?“ บอกพนักงานทำตาปริบ ๆ ว่าลืมไว้ที่บ้าน ไม่ได้เอามาค่ะ พนักงานจึงไม่สามารถขายให้ได้ เดินกลับบ้านคอตก ไม่รู้จะดีใจที่เค้าเห็นว่าเราหน้าเด็ก หรือเสียใจที่วันนั้นไม่ได้ดื่มสาเกอร่อย ๆ ดี (‘∀`)ゝ”

เบียร์โนแอลนั้นมีคุณอนันต์มหาศาล (ขนาดนั้น?) เพราะนอกจากจะไม่มีแอลกอฮอล์ตัวร้ายที่คอยทำลายตับแล้ว ส่วนใหญ่ยังไม่มีแคลอรี่อีกต่างหาก! v(°∇^*)⌒☆ นับเป็นสิ่งดีสำหรับหญิงสาวและชายหนุ่มที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก ยัง... ยังไม่พอ เบียร์โนแอลบางตัว ยังใส่คอลลาเจนหรือสารอาหารวิตามินอื่นเข้าไปอีกด้วย! (อะไรมันจะสุดยอดขนาดนั้นซาร่า)

จากที่อ่านมาเราอาจจะเห็นข้อดีอันมากมายหลากหลายของเบียร์โนแอลที่ญี่ปุ่น แต่สิ่งที่สำคัญที่ยังทำให้เบียร์ยังไม่เป็นที่นิยมในเวลาที่ไม่ต้องขับรถนั้นเพราะหลายคนบอกว่าเบียร์โนแอล "ไม่อร่อย" (ↀДↀ)✧ ถามว่าจริงมั้ย? ในฐานะคนท้องอดีตสายดริ้งค์ขอตอบเลยว่า “ใช่!” ก็แหม...จะเอาไปเทียบกันได้อย่างไรล่ะ ของปลอมมันก็เป็นของปลอมอยู่วันยังค่ำ ( ･ᴗ･̥̥̥ ) แต่รสชาติก็ใกล้เคียงนะ มีย่อมดีกว่าไม่มี บางครั้งก็อยากดื่มอะไรที่สดชื่นแบบไม่หวาน ก็มีเบียร์โนแอลนี่แหละที่เยียวยาจิตใจ

นอกจากแม่บ้านท้องกลมผู้มีลาภมีสัตว์สองเท้าแล้ว เคยได้ยินเหล่าบรรดาพ่อบ้านญี่ปุ่นมาบ่นให้ฟังกระปอดกระแปดบ้างว่าเหล่าบรรดาแม่บ้านชอบซื้อเบียร์โนแอลมาไว้ในตู้เย็นเพราะเห็นว่าไม่มีอันตรายต่อร่างกายอย่างเบียร์แท้ ๆ แต่เนื่องจากรสสัมผัสที่ไม่เหมือนเบียร์จริงทำให้เหล่าพ่อบ้านอยากชูป้ายประท้วงบ่อย ๆ (ที่ทำไปก็เพราะรัก ได้โปรดเห็นใจ) ต่างจากแม่บ้านคนนี้ที่เวลาเห็นพ่อบ้านนั่งซดเบียร์ญี่ปุ่นนุ่ม ๆ เย็นเจี๊ยบล่ะอิจฉาทุกครั้งไป

มีวิธีการสังเกตเบียร์ปกติและเบียร์โนแอลง่าย ๆ ดังนี้ค่ะ

• ตราสัญลักษณ์
ด้านข้างมุมล่างของกระป๋องจะมีสัญลักษณ์ “โอสาเก” (お酒) ที่แปลว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ไม่ใช่แค่เหล้าสาเกนะ) ส่วนเบียร์โนแอลที่มีแอลกอฮอล์น้อยกว่า 1% จะไม่มีสัญลักษณ์ お酒 แต่สำหรับผู้ที่แพ้แอลกอฮอล์และกินไม่ได้เลย ควรเลือกเบียร์โนแอลที่เขียนว่า Alc 0.0% นั่นหมายถึงไม่มีแอลกอฮอล์เลย

• อักษรเบรลล์
ด้านบนของกระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะมีอักษรเบลล์ใกล้กับที่เปิด แต่เบียร์โนแอลไม่มี

นอกจากเบียร์โนแอลแล้ว ญี่ปุ่นยังชอบสร้างสรรค์นวัฒกรรมใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มสุนทรียภาพของการบริโภคเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ออกมากันหลากหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น

• เหล้าบ๊วย (梅酒) รสชาติเหมือนเหล้าบ๊วยปกติเป๊ะ หวานเปรี้ยว แต่แค่ไม่มีแอลกอฮอล์มาทำให้มึน มีทั้งแบบพร้อมดื่มเป็นกระป๋อง หรือแบบเข้มข้น ผสมน้ำผสมโซดาก็ฟินกันไป
• ชูไฮ (酎ハイ) เป็นเหล้าญี่ปุ่นที่มาจากคำว่าโชจู (焼酎) และไฮบอล (ハイボール) รวมกัน นิยมนำมาผสมกับน้ำผลไม้ ทำให้ออกรสหวาน ดื่มง่าย เป็นที่นิยมของสาว ๆ ปัจจุบันชูไฮปลอดแอลกอฮอล์มีขายทั่วไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต มีตั้งแต่รสส้ม รสลิ้นจี่ รสสัปปะรด รสองุ่น และอื่น ๆ อีกมากมาย
• ไวน์ มีมันซะทุกอย่างแล้ว ทำไมไวน์โนแอลจะมีไม่ได้! แต่สารภาพว่าไม่เคยซื้อมาดื่มเพราะส่วนตัวไม่ใช่คอไวน์ ใครมีประสบการณ์มาแชร์กันบ้างนะคะว่ารสชาติเป็นยังไงบ้าง
• อามะสาเก (甘酒) หรือเหล้าหวานแบบญี่ปุ่น เป็นเครื่องดื่มรสหวานทำมาจากข้าวที่นิยมดื่มกันแบบร้อนๆในช่วงหน้าหนาว ตัวเหล้าเป็นตะกอนที่เกิดจากกระบวนการทำสาเก โดยอามะสาเกปกติเป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์อยู่แล้ว ดังนั้นเจอที่ไหนก็สามารถซื้อดื่มได้โดยที่ไม่ต้องกลัวเมา แถมยังเป็นเครื่องดื่มดังในด้านการเพิ่มความสวยและผิวขาวเป็นออร่าของสาวญี่ปุ่นด้วยนะคะ เพราะเต็มไปด้วยวิตามินและกรดอะมิโน