ขื้นชื้อว่าน้องหมาญี่ปุ่นใครๆ ก็คงนึกถึงหน้าตาที่กวนประสาทแต่น่ารักสุดๆ อย่างเจ้าหมาชิบะกันใช่มั๊ย แต่รู้มั้ย หมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นของญี่ปุ่นจริงๆแล้วมีกี่พันธุ์

ที่ญี่ปุ่นมีองค์กรสำหรับดูแลน้องหมาสายพันธุ์ญี่ปุ่นโดยเฉพาะ มีชื่อเรียกว่า Nihon Ken Hozonkai เป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ที่มีหน้าที่ดูแลมาตรฐานพันธุ์สุนัขญี่ปุ่น โดยองค์กรนี้ได้กำหนดไว้ว่าหมาของญี่ปุ่นแท้ๆนั้น มีด้วยกัน 6 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์อากิตะ พันธุ์ชิบะ พันธุ์ไค พันธุ์คิชู พันธุ์ชิโกกุ และพันธุ์ฮอกไกโด

โดยลักษณะสำคัญของหมาญี่ปุ่น คือ เป็นหมาที่ทนต่อสภาพอากาศอบอุ่นและชื้น(แบบญี่ปุ่น)ได้เป็นอย่างดี เป็นหมาสายพันธุ์นักล่า ในอดีตให้การช่วยเหลือมนุษย์ในการล่าสัตว์ และมีความสามารถในการป้องกันตนเองได้ดี เป็นหมาที่จงรักภักดี กล้าหาญ และไม่คิดร้าย

น้องหมาหน้าตากวนโอ๊ยที่เห็นได้บ่อยๆ เรียกว่าเป็นตัวแทนน้องหมาญี่ปุ่นที่คนไทยเรารู้จักกันเลยก็ว่าได้ หลายคนตกหลุมรักแก้มย้วยๆ ของน้องหมาพันธุ์นี้ ทำให้เราได้เห็นหมาสายพันธุ์ชิบะในไทยเพิ่มขึ้นในหลายปีที่ผ่านมา

หมาพันธุ์ชิบะเป็นหมาสายพันธุ์ขนาดเล็กสายพันธุ์เดียวจากทั้งหมด 6ชนิด ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะมีความสูงอยู่ที่ 38-41เซนติเมตร และตัวเมียจะสูงที่สุดที่ 35-38เซนติเมตรเท่่านั้น จากการสำรวจขององค์กร Nihon Ken Hozonkai พบว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมถูกเลี้ยงมากที่สุด โดยมีมากถึง 80%จากทั้งหมด ซึ่งความนิยมนี้ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่นแต่ยังโด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้คือ ทนต่ออากาศอุ่นและชื้นแบบญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี มีความจงรักภักดีต่อผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก และยังฉลาด มีจิตใจกล้าหาญ เลี้ยงเป็นหมาเฝ้าบ้านได้ ในส่วนของลักษณะนิสัย เป็นน้องหมาที่ค่อนข้างกล้าบ้าบิ่น รักสันโดษ และค่อนข้างหัวรั้นทำให้ยากต่อการฝึกฝน คนที่อยากจะเลี้ยงน้องหมาสายพันธุ์นี้อาจจะต้องเว้นระยะห่างระหว่างคุณกับน้องหมาไว้บ้าง เพราะบางทีเขาก็จะหวงความเป็นส่วนตัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น โดยหมาพันธุ์ชิบะมีทั้งสีน้ำตาล สีดำ และสีขาว

ถ้าหมาสายพันธุ์ชิบะเป็นหมาสายพันธุ์เล็กที่สุดในตระกูลหมาญี่ปุ่น หมาพันธุ์อากิตะ ก็จะเป็นหมาสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุด โดยตัวผู้เมื่อโตเต็มวัยจะสูงสุดที่ 67เซนติเมตร หนักถึง 50-59กิโลกรัมเลยทีเดียว ส่วนตัวเมียจะสูงสุดที่ 61เซนติเมตร และหนัก 40-50กิโลกรัม

ในสมัยก่อนที่จังหวัดอากิตะซึ่งตั้งอยู่ที่ภาคเหนือของญี่ปุ่นมีฟาร์มเพาะพันธุ์น้องหมาพันธุ์นี้ไว้ขายเพื่อการต่อสู้ และการล่าสัตว์ ในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะเลี้ยงไว้เป็นหมาบ้านธรรมดา

ลักษณะเด่นคือสีน้ำตาลแดง แต่บริเวณหน้าส่วนปลายจมูก คิ้ว ท้อง ขาหน้าและหลังจะมีสีขาว แต่ว่าหมาพันธุ์อากิตะสีดำ หรือสีขาวล้วนก็มี หูของน้องหมาจะตั้งตรงเป็นสามเหลี่ยมแบบเห็นได้ชัด พร้อมกับมีหางที่ม้วนขดเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่ง

ด้วยความที่อดีตเป็นหมาที่ถูกฝึกมาเพื่อการต่อสู้และล่าสัตว์ ทำให้มีพละกำลังมาก แข็งแรง จงรักภักดีต่อเจ้านาย หมาอากิตะจึงเหมาะกับเป็นน้องหมาเฝ้ายามเช่นกัน เห็นหน้าตาน่ารักๆอย่างนี้ หมาพันธุ์อากิตะเป็นหมาที่เมื่อเจอกับคนแปลกหน้าหรือหมาสายพันธุ์อื่นจะมีการจู่โจมที่รุนแรงมาก จากสถิติเกี่ยวกับการจ่ายค่ารับผิดชอบต่อกรณีอุบัติเหตุที่เกิดโดยสุนัขแล้ว หมาพันธุ์อากิตะเป็นหมาที่ก่อเหตุมากที่สุดถึง 3.7% แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว หมาพันธุ์อากิตะก็เป็นหมาที่ง่ายต่อการฝึกฝน รักษาระเบียบอย่างเคร่่งครัด และจะไม่เห่าพร่ำเพรื่อ ใครที่เลี้ยงหมาพันธุ์นี้ก็ต้องพาเขาไปเดินเล่นบ่อยๆ ด้วยนะ เพราะเขารักการเดินเล่นเป็นชีวิตจิตใจจริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยไปหรือไม่เคยไปญี่ปุ่นก็คงรู้จักอนุสาวรีย์หมาฮาจิโกะ หรือฮาชิ ที่มักใช้เป็นจุดนัดพบของคนที่นัดเจอกันที่สถานีรถไฟชิบูยะกันอย่างแน่นอน

เจ้าฮาจิโกะหรือฮาชิ เป็นหมาสายพันธุ์อากิตะ เกิดเมื่อปี 1923 เป็นหมาของศาสตราจารย์ท่านหนึ่งที่เคยสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโตเกียว โดยเขาซื้อเจ้าฮาชิมาจากคนคนหนึ่งในราคา 30เยน ณ เวลานั้น โดยเจ้าฮาชิได้รับความรักและการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ทุกวันฮาชิจะเดินไปรับไปส่งเจ้านายของตัวเองที่สถานีรถไฟชิบูยะ แต่หลังจากศาสตราจารย์นำฮาชิมาเลี้ยงได้เพียงปีกว่า เขาก็เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันด้วยภาวะเลือดออกในสมอง แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าฮาชิก็ยังคงไปรอรับเจ้านายของมันทุกวันที่สถานีชิบูยะเหมือนเดิม

หลังจากศาสตราจารย์เสียชีวิตไป 2ปี เจ้าฮาชิก็ถูกนำไปฝากเลี้ยงไว้ที่บ้านของอดีตคนสวนของศาสตราจารย์ ทุกวันเจ้าฮาชิจะทานข้าวที่บ้านของคนสวน และเดินออกไปรอศาสตราจารย์ที่เดิม เจ้าฮาชิที่ไปรอเจ้านายที่สถานีทุกวันถูกกลั่นแกล้งจากคนที่เดินผ่านไปมา รวมถึงคนในร้านค้าละแวกนั้น

Hirokichi Saito ผู้ก่อตั้งและเป็นประธานองค์กรคนแรกขององค์กรดูแลสุนัข Nihon Ken Hozonkai ได้เห็นเจ้าฮาชิทุกวันจนเกิดความสงสาร เขาได้ตามเจ้าฮาชิกลับไปถึงบ้านของอดีตคนสวน สอบถามเรื่องราวต่างๆ และนำเรื่องของเจ้าฮาชิมาเขียนตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ Tokyo Asahi

หลังจากเรื่องราวของเจ้าฮาชิถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มันกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น หลายคนนำของกินมาให้ด้วย นอกจากนี้จากที่เคยโดยพนักงานสถานีรถไฟไล่อยู่บ่อยๆ เจ้าฮาชิก็ได้รับอนุญาตให้นอนค้างคืนที่สถานีได้ ความโด่งดังในเรื่องความกตัญญูของฮาชิทำให้มันได้รับรางวัลจากมูลนิธิรักสุนัขระดับโลก แถมยังได้ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Alps Taisho ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องเดียวที่จะได้เห็นภาพตอนยังมีชีวิตอยู่ของเจ้าฮาชิ

หลังจากเจ้านายที่รักเสียชีวิตจากไปได้เกือบ10ปี ในที่สุดเมื่อปี1935มีคนพบศพเจ้าฮาชิ นอนตายอยู่ใกล้สะพานอินาริในย่านชิบูยะ โดยสาเหตุการตายคือพยาธิที่พบที่ตับและหัวใจ และมีน้ำขังในช่องท้อง นอกจากนี้ยังพบไม้เสียบลูกชิ้นในกระเพาะอีก 3-4ไม้

หลังจากเจ้าฮาชิตายได้มีการจัดพิธีอำลาให้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ โดยร่างของเจ้าฮาชิถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science) เขตอุเอโนะ จังหวัดโตเกียว และมีการตั้งอนุสาวรีย์ของเจ้าฮาชิ สุนัขยอดกตัญญู ไว้ที่หน้าสถานีชิบูยะ จุดที่เจ้าฮาชิรอเจ้านายอยู่ทุกวัน และกลายเป็นจุดนัดพบที่สำคัญของคนญี่ปุ่นมาจนถึงบัดนี้

เอ็นจอยสังคมคนรักน้องหมาได้ที่นี่ บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน บริการเป็นกันเอง
ค่อยๆ นั่งจิบชาหรือกาแฟ ทานอาหารหรือของว่างเล็กๆ น้อยๆ นอกจากคุณจะได้อิ่มท้องแล้ว ที่นี่เขาก็เตรียมอาหารสำหรับน้องหมาไว้ให้บริการเช่นกัน เห็นรูปในเวปไซต์ของทางร้านแล้วต้องบอกเลยว่าหน้าตาน่าทานไม่แพ้ของคนอย่างเราๆ เลย โดยที่นี่คุณจะทานไปพร้อมกับน้องหมาเลยก็ได้ หรือหากจะนำอาหารกลับบ้านที่นี่ก็มีให้บริการห่อกลับบ้านด้วยนะ

นอกเหนือจากส่วนคาเฟ่แล้วที่ร้านยังมีบริการซาลอนสำหรับน้องหมา และพื้นที่เปล่าให้เช่าสำหรับนัดรวมพลคนรักหมามาจอยกัน นอกจากจะได้คนรักน้องหมาเช่นกันแล้ว ยังเปิดโอกาสให้น้องหมาได้ทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่มากมายที่นี่ด้วย

หลายครั้งที่คนรักสุนัขต้องเหนื่อยกับการมองหาร้านอาหารที่พาสัตว์เลี้ยงเข้าไปด้วยได้ ที่คาเฟ่แห่งนี้นอกจากคุณจะพาน้องหมา น้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงแสนรักเข้าไปในร้านได้แล้ว ยังเหมาะกับแก๊งเพื่อนคอเดียวกัน เพราะเขามีห้องส่วนตัวให้บริการอีกด้วย

ในส่วนบริการ Pet Hotel เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องไปต่างประเทศเป็นเวลานาน หรือต้องจากบ้านไปไหนไกลๆ แต่ไม่สามารถพาน้องหมาไปด้วยได้ ที่นี่เขารับฝากน้องหมาไว้โดยเป็นเครือเดียวกันกับโรงพยาบาลสัตว์ ทำให้คุณอุ่นใจได้ว่าน้องหมาที่คุณฝากไว้จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีอย่างแน่นอน

Shiroinu Café
1-15-7 Minaminagareyama, Nagareyama, Chiba 270-0163
เวลาทำการ 11.00-18.00 น.
เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด

การเดินทาง
รถไฟ JR Joban Line สถานี Minami-Nagareyama
รถไฟ JR Musashino Line สถานี Minami-Nagareyama
รถไฟ Tsukuba Express Line สถานี Minami-Nagareyama

อีกหนึ่งเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับหมาญี่ปุ่นก็คือ คาเฟ่หมา สถานที่ๆเราจะสามารถเล่นกับน้องหมาได้ คล้ายๆกับคาเฟ่น้องแมวที่มีอยู่เต็มญี่ปุ่น

คาเฟ่ DOG HEART ไม่ใช่แค่คาเฟ่ที่คุณจะมานั่งดื่มกาแฟ แล้วก็เล่นกับน้องหมาแป๊ปๆ ก็กลับบ้าน แต่ที่นี่คุณสามารถเช่าน้องหมาออกไปเดินเล่นทำกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย! คาเฟ่ที่นี่มีน้องหมาด้วยกัน 3สายพันธุ์ คือ ทอยพุดเดิ้ล บีเกิล โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ จะถ่ายรูปเล่นกี่ช็อตก็ได้ จะพาเด็กๆ หนูๆ มาเล่นด้วยกันได้ เรียกว่าเป็นคาเฟ่ตามใจลูกค้าโดยแท้จริง เจ้าของที่นี่เปิดคาเฟ่แห่งนี้ด้วยแนวคิดที่ว่ามีหลายคนที่อยากเลี้ยงน้องหมาแต่ก็ไม่สามารถเลี้ยงได้ คาเฟ่แห่งนี้จึงจะช่วยเติมเต็มความต้องการของทุกคนให้ได้สนุกและรู้สึกผ่อนคลายไปกับน้องหมาทุกตัว

ค่าเช่าน้องหมา
ชั่วโมงละ 3,600เยน (ทุกสายพันธุ์)
ในกรณีที่เกินเวลา...
15นาที 500เยน
30นาที 1,000เยน
1ชั่วโมง 2,000เยน

ค่าบริการเล่นกับน้องหมา
30นาที คนละ 950เยน
1ชั่วโมง คนละ 1,550เยน
ในกรณีที่เกินเวลา...
คิดทุกๆ 15นาที ครั้งละ 300เยน

Dog Heart from Aquamarine
Y's Park Building ชั้น 2 45-2 Tomigaya 1 Chome, Shibuya-ku, Tokyo 151-0063
เวลาทำการ 11.00-19.00 น.
เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด

การเดินทาง
รถไฟใต้ดิน Chiyoda Line ลงสถานี Yoyogikoen ทางออกหมายเลข 2 เดินต่ออีกประมาณ 2นาที
รถไฟ Odakyu Line ลงสถานี Yoyogi-Hachiman เมื่อเดินพ้นย่านร้านค้าแล้วเดินต่ออีกประมาณ 4นาที

เลือกไม่ได้จริงๆ น้องหมาก็รัก น้องแมวก็ชอบ Neo Neo ที่คาเฟ่แห่งนี้คุณไม่ต้องเลือกอะไรเลยก็ได้ เพราะชั้น 1 เขามีคาเฟ่หมา ส่วนชั้น 2 เป็นคาเฟ่แมว ถูกใจคนรักสัตว์ทั้ง 2ประเภทนี้อย่างแน่นอน

ที่คาเฟ่แห่งนี้มีทั้งน้องหมาและน้องแมวคอยรอท่านอยู่ เช่น น้องหมาพันธุ์คาวาเลียร์คิงชาร์ลส์สแปเนียล พันธุ์ชิวาว่า และน้องแมวอีกเกือบ 10ตัว หรือใครจะพาน้องหมาตัวเองไปทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ก็ได้ไม่ว่ากัน ทั้ง 2 ส่วนนี้คุณสามารถสั่งกาแฟคั่วสดรสชาติอร่อย หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ได้ นอกจากบริการเหล่านี้แล้วที่นี่ก็รับฝากน้องหมาเช่นเดียวกัน

ในเรื่องข้อบังคับต่างๆ นั้น ในส่วนของคาเฟ่น้องหมาจะไม่เข้มงวดเท่ากับน้องแมว แต่อย่างไรก็ตามควรจะปฏิบัติตามกฏข้อระเบียบต่างๆ อย่างเคร่งครัดกันนะ

Wannyan Cafe & Pet Hotel NeoNeo
3-25-4 Maeno-cho, Itabashi-ku, Tokyo 174-0063
เวลาทำการ
วันธรรมดา 11.00-19.00 น.
วันเสาร์และอาทิตย์ 10.00-18.00 น.
หยุดทุกวันอังคารและวันพุธ
(เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของหมาและแมว)

การเดินทาง
รถไฟ Toei Mita Line สถานี Shimura-sakaue ทางออก A2 เดินต่ออีกประมาณ 10นาที