All About Japan

ลองสัมผัสญี่ปุ่นแบบใหม่ๆ ที่ฟุคุชิมะและมิยางิ

ปราสาท วัด ศาลเจ้า พิพิธภัณฑ์ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ซามูไร เทศกาล การทำฟาร์ม ชายฝั่ง แผนการการเดินทาง ชายฝั่ั่ง Sanriku PR วัด และ ศาลเจ้า รู้ลึกเรื่องญี่ปุ่น เทศกาลฤดูร้อน ตะลุยฤดูร้อนญี่ปุ่นที่ "โทโฮคุ" ครั้งที่สองในญี่ปุ่น Sendai Fukushima Miyagi โทโฮคุ โทโฮคุฝั่งแปซิฟิค
ลองสัมผัสญี่ปุ่นแบบใหม่ๆ ที่ฟุคุชิมะและมิยางิ

ตัวอย่างแผนการเดินทางในจังหวัดฟุคุชิมะและจังหวัดมิยางิ สองเมืองชายฝั่งทะเลที่โดนผลกระทบจากแผ่นดินไหวและซึนามิเมื่อปี 2011 สองเมืองนั้นและบริเวณใกล้เคียงมีอะไรให้ดูให้ทำบ้าง แล้วตอนนี้ปลอดภัยหายห่วงแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบให้ครับ

วันที่หนึ่ง

เริ่มต้นการเดินทางที่เมืองอิวากิ

แวะชมตลาดสินค้าท้องถิ่น นอกจากจะสนุกและอร่อยแล้ว ที่นี่เป็นที่ๆเหมาะมากๆ สำหรับคนที่อยากเรียนรู้ ว่ารัฐบาลท้องถิ่นของญี่ปุ่นมีการช่วยเหลือชาวบ้านในท้องที่กันยังไง แล้วก็ต่อด้วยพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่อยู่ใกล้เคียงครับ

ตลาดปลาและแหล่งสินค้าชุมชน

ตลาดปลาและแหล่งสินค้าชุมชน

ผมได้เดินทางไปเมืองอิวากิ จังหวัดฟุคุชิมะ โดยเริ่มจากการนั่งรถบัสจากสนามบินนาริตะครับ โดยหลังจากนั่งรถประมาณสองชั่วโมงก็จะถึงจุดหมายแรกที่นี่

อิวากิลาล่ามิว (いわき・ら・ら・ミュウ) เป็นตลาดปลา แหล่งสินค้าท้องถิ่นที่ชาวประมงและเกษตรกรในเมืองอิวากินำสินค้าของตัวเองมาตั้งแผงขายกันครับ โดยนอกจากจะเป็นตลาดที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้คนในชุมชนมาขายเป็นหลักแล้ว ก็ยังเป็นตัวอย่างที่ดี ในด้านการช่วยชาวบ้านแบบให้เขาสามารถพึ่งตัวเองได้ ไม่ใช่ช่วยแล้วจบไปเป็นครั้งๆ เป็นอะไรที่ยั่งยืนแบบญี่ปุ่นแท้ๆเลยครับ

นอกจากตลาดแล้ว อีกหน้าที่สำคัญของที่แห่งนี้ก็คือเป็นลานจอดรถบวกกับจุดพักรถครับ ทำให้นักเดินทางที่ขับรถผ่านไปมาเอารถมาจอดกันได้ ซึ่งพอคนมาจอดกันเยอะๆ พ่อค้าแม่ค้าก็ได้ลูกค้าที่มาอุดหนุนเพิ่มครับ ถือว่าเป็นการช่วยเหลือคนในท้องที่แบบไม่ต้องเอาเงินมาแจก เพียงแค่ช่วยสร้างโอกาสที่ดีในการค้าขายให้ชาวเมืองทุกคนเท่านั้นครับ

ที่ยอดเยี่ยมไปกว่านั้นก็คือ ตอนนี้ลูกค้าไม่ได้มีแค่คนที่ขับรถผ่านไปมาหรือชาวเมืองเท่านั้นที่มาแวะซื้อ มีคนที่เดินทางมาฟุคุชิมะโดยที่มีที่นี่เป็นหนึ่งในเป้าหมายด้วย เรียกได้ว่าไม่ใช่แค่ตลาดโอท็อปธรรมดาๆ แต่ได้สถานะสถานที่ท่องเที่ยวไปเรียบร้อย

และหน้าที่ของที่นี่ นอกจากเป็นตลาดปลาและแหล่งซื้อขายของฝากแล้ว ก็ยังมีลานกว้างสำหรับงานเทศกาล และห้องจัดนิทรรศการอีกด้วย เป็นสถานที่ๆมีหลายอย่างและมีความพร้อมสูงมากๆ ทำอะไรก็ได้ จัดอะไรก็ได้ สำหรับคนไทยที่อยากเรียนรู้เรื่องการจัดการสถานที่ของญี่ปุ่นจะไปดูงานก็เหมาะ จะไปเที่ยวเฉยๆก็สนุกครับ

- www.lalamew.jp (อังกฤษ)

ป้ายด้านหน้าทางเข้าของ ตลาดปลาอิวากิลาล่ามิว

และอย่างที่บอกไปว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ตลาดปลานะครับ ด้านนอกเป็นลานกว้างสำหรับจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อชาวเมือง อย่างเช่นวันที่ผมไป มีการแข่งเจ็ตสกีกันพอดี คนเยอะกว่าที่คิดมากๆครับ คึกคักระดับเดียวกับย่านเล็กๆในโตเกียวเลยก็ว่าได้

อีกหนึ่งกิจกรรมที่จัดอยู่ด้านนอกในวันที่ไปก็คือ การเต้นระบำฮูล่า (ระบำฮูล่าของฮาวายนั่นแหละครับ) ซึ่งจริงๆแล้วนี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ชาวจังหวัดนำมาเพื่อสร้างจุดเด่นให้กับจังหวัดครับ ตอนนี้กลายเป็นขึ้นชื่อของจังหวัดฟุคุชิมะไปแล้ว เรียกว่าถ้าถามคนญี่ปุ่นว่า พูดถึงฟุคุชิมะแล้วนึกถึงอะไร หนึ่งในคำตอบคือการระบำฮูล่าแน่ๆครับ นี่ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีในการสร้างเอกลักษณ์ในท้องถิ่นนะ

และเมื่อกลับเข้าไปในตึก จะมีห้องจัดนิทรรศการโดยเฉพาะที่ผลัดเปลี่ยนไปเรืื่อยๆครับ
ในช่วงที่ผมไป มีการจำลองห้องของผู้อพยพหนีภัยซึนามิแบบนี้ครับ ซึ่งในช่วงภัยพิบัติ ผู้อพยพก็ใช้ลังกระดาษนอนกันแบบนี้จริงๆ เป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับภัยพิบัติในอดีตครับ

ชมพิพิธภัณท์สัตว์น้ำและแหล่งความรู้ Aquamarine Fukushima

ชมพิพิธภัณท์สัตว์น้ำและแหล่งความรู้ Aquamarine Fukushima

ที่ต่อไปก็คือพิพิธภัณท์สัตว์น้ำ Aquamarine Fukushima ที่ตั้งจุดยืนของตัวเองไว้เลยว่า "เราไม่เน้นการแสดงโชว์ที่ผาดโผนหรือตื่นตา แต่เน้นความรู้ที่ใช้ได้จริง" ตามนั้นเลยครับ

- www.aquamarine.or.jp (อังกฤษ)

ป้ายหน้า Aquamarine Fukushima เขียนว่าตัวเองคือพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่สนับสนุนให้คน"คิด"ครับ (Inspire: บันดาลใจ)

ที่นี่จะแบ่งตู้ปลาเป็นหลายสิบตู้ แต่ละตู้ก็จะมีหัวข้อที่แตกต่างกันไปครับ เช่นบ่อที่จำลองระบบนิเวศน์ของทะเลสาบเขตร้อน บ่อที่จำลองระบบของทะเลในเขตหนาว หรือระบบนิเวศน์ของทะเลที่อยู่ใกล้เคียง อะไรเช่นนี้เป็นต้น เพื่อเป็นการให้การศึกษากับเหล่าเด็กๆผู้มาเยือนครับ

แต่ก็ไม่ได้มีแต่ตู้ปลานะครับ
อย่างตรงโซนนี้ไม่ใช่แค่ตู้ แต่เป็นทุ่งหญ้าเล็กๆทุ่งนึงเลย โดยทั้งทุ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบภูมิทัศน์ของแม่น้ำในญี่ปุ่นจากยุคโจมง (ยุคหินใหม่) ครับ ทั้งนี้ที่ทำขนาดนี้หลักๆก็เพื่อการศึกษาของเหล่าเด็กๆ ที่มาเยี่ยมชมนั่นเองครับ ลงทุนจริงๆ

แน่นอนว่าในตึกหลัก ก็มีสระแบบใหญ่ยักษ์สมเป็นพิพิธภัณท์สัตว์น้ำครับ ใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้หาดูได้ง่ายๆทุกที่นะ

https://youtu.be/5OdIYVTAI5g

ตู้ปลาหลักจะหน้าตาแบบนี้ครับ ใหญ่มหาศาลเลย

บ่อสิงโตทะเลขนาดใหญ่ (ไม่ใช่แมวน้ำนะ) ร้องกันระงมครับ

พระเอกของที่นี่คือ ปลากระเบนตัวใหญ่ยักษ์ขวัญใจเด็กๆครับ

นอกจากบ่อแบบทั่วๆไป และแทงค์น้ำขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของพิพิธภัณท์แห่งนี้แล้ว ที่นี่ก็ยังมีบ่อน้ำเล็กๆ ที่ให้เด็กๆจับต้องเหล่าสัตว์น้ำได้ ออกแนวเพื่อการศึกษาอยู่หลายบ่อครับ อันนี้เจ้าหน้าที่อนุญาติให้จับเล่นได้หลายอย่าง ทั้งกุ้งตัวใหญ่ ปลาดาว หอย และอื่นๆ แต่อย่าทำรุนแรงกับพวกมันนะ

ทั้งนี้ จุดเด่นสุดๆของที่นี่ก็คือ การเป็นพิพิธภัณท์สัตว์น้ำที่อุทิศตนเพื่อ "การศึกษา" ของเด็กๆในจังหวัดครับ โดยที่ญี่ปุ่นนี้เค้าช่างกล้าสอนกันจริงๆ เด็กๆเองก็กล้าเรียนมากๆ อย่างในวิดิโอนี้ เจ้าหน้าที่มาแล่ฉลามกันให้ดูเลย แล้วสอนว่า "ทำไมปลาหมึกพอโดนฉลามงับแล้วถึงดิ้นไม่หลุด"

เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ หาอ่านเองในหนังสือก็คงได้ ผมเองไม่ได้เก่งญี่ปุ่นแต่ยืนฟังแล้วก็เข้าใจ ไม่ยากมาก แต่ที่สำคัญคือการปลูกฝังให้เด็กๆเหล่านี้รักในวิทยาศาสตร์ครับ

ทั้งหมดนี้คือที่ๆเราไปมาในวันแรกครับ พิพิธภัณท์สัตว์น้ำอความารีนฟุคุชิมะ และตลาดปลาอิวากิลาล่ามิว
ในวันที่สอง เราจะเริ่มเดินทางขึ้นเหนือโดยมุ่งไปยังทิศทางของเมืองเซนได เมืองใหญ่ที่สุดทางตอนเหนือของญี่ปุ่นที่มีที่เที่ยวมากมายไม่แพ้โตเกียว แล้วก็แวะระหว่างทางอีกหลายที่ พลิกไปหน้าถัดไปเลยครับ

know-before-you-go