วันเดียวเที่ยวได้กับ 10 ที่เด็ดเมือง คามาคุระ

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังคามาคุระ

ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากโตเกียวมากนักคามาคุระจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวต่อจากโตเกียว ซึ่งวิธีการเดินทางไปก็ไม่ยากเพราะในเมืองนี้มีเครือข่ายรถไฟให้เราใช้บริการเพียง 2 สายหลักคือ รถไฟสาย JR EAST และรถรางสาย Enoden จึงไม่ต้องกลัวว่าจะสับสน

-จากสถานีรถไฟ Tokyo นั่งรถไฟสาย JR Yokosuka ไปลงที่สถานี Kita-Kamakura และ Kamakura ในเมืองคามาคุระได้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

-จากสถานีรถไฟ Shinjuku สามารถเลือกนั่งได้ 2 แบบคือรถไฟ JR สาย Shonan Shinjuku วิ่งตรงไปที่สถานี Kamakura ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีรถวิ่งประมาณ 2 เที่ยว/วัน

-นั่งรถไฟของ Odakyu จากชินจุกุไปลงที่สถานี Fujisawa แล้วจึงต่อรถราง Enoden เข้าเมืองคามาคุระ ใช้เวลา 90 นาที จึงจะถึงสถานี Kamakura เป็นวิธีที่ต้องเปลี่ยนรถมากที่สุดแต่จะประหยัดที่สุด เพราะมีบัตรที่สามารถใช้เดินทางแบบไป-กลับได้ในราคา 1,470 เยน (และเป็นวิธีที่เหมาะกับคนที่จะไปเที่ยวยังเกาะ Enoshima ด้วย)

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

ตั๋วและบัตรลดสำหรับใช้ในเมืองคามาคุระ

Kamakura Enoshima Pass
เป็นตั๋วของ JR East สามารถใช้โดยสารได้ทั้งรถไฟของ JR และรถราง Enoden และ Shonan Monorail ได้โดยไม่จำกัดครั้งภายใน 1 วัน
ราคา ผู้ใหญ่ 700 เยน เด็ก 350 เยน
สถานที่จำหน่าย เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติภายในสถานีรถไฟในเมืองคามาคุระ (ตั๋วรูปแบบภาษาอังกฤษจะจำหน่ายเฉพาะที่เคาน์เตอร์เท่านั้น)

Enoshima Kamakura Free Pass
เป็นตั๋วรถไฟ Odakyu ของบริษัทรถไฟ Odakyu Railways และรถไฟ Enoden ใช้ได้ไม่จำกัดเที่ยวภายใน 1 วัน (รวมค่าใช้จ่ายรถไฟไปกลับระหว่าง Tokyo และ Fujisawa)
ราคา จากสถานี Shinjuku : ผู้ใหญ่ 1,470 เยน เด็ก (6-11 ปี) 740 เยน
จากสถานี Machida : ผู้ใหญ่ 1,020 เยน เด็ก (6-11 ปี) 510 เยน
จากสถานี Fujisawa : ผู้ใหญ่ 610 เยน เด็ก (6-11 ปี) 320 เยน
สถานที่จำหน่าย สถานีรถไฟฟ้าของ Odakyu railway ทุกแห่ง (สามารถซื้อในโตเกียวได้ที่สถานี Shinjuku)

ด้วยความที่เคยเป็นอดีตเมืองหลวงบรรยากาศของคามาคุระจึงมีความเก่าแก่และเต็มไปด้วยวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม พร้อมด้วยศาลเจ้าและวัดมากมายรายล้อมเมืองให้คนในเมืองและนักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาสักการะ อย่างไรก็ตามสถานที่เที่ยวของเมืองนี้ก็ไม่ได้มีแค่วัดและศาลเจ้าเท่านั้นนะ จะมีอะไรบ้างก็ลองเลื่อนไปอ่านกันเลย

- chillchilljapan.com

1. Kotokuin Temple : วัดพระใหญ่ไดบุทสึ

วัดแห่งนี้คือสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับหนึ่งของเมืองคามาคุระชนิดที่ว่าหากนักท่องเที่ยวคนไหนไม่ได้แวะมาก็เหมือนยังมาไม่ถึงแลนด์มาร์คของเมืองนี้ ไฮไลท์ของวัดนี้คือภายในบริเวณวัดจะมีสิ่งมหัศจรรย์ตั้งตระหง่านกลางแจ้งอย่าง พระพุทธรูปขนาดใหญ่ให้เราได้เห็น นามว่า Daibutsu (ไดบุทสึ) ซึ่งมีชื่อเต็ม ๆ ว่า พระอมิตตาพุทธ นิโอยุราอิ (Amida Nyoyurai)

พระพุทธรูปใหญ่ไดบุทสึสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ. 1243 ความสูงขององค์พระมีขนาด 11.312 เมตร น้ำหนักราว 122 ตัน ประดิษฐานอยู่ในวัด Kotokuin แห่งนี้มาอย่างยาวนาน โดยองค์พระจะมีลักษณะเป็นสีเขียวเนื่องจากถูกสร้างขึ้นด้วยสำริดและทองแดง ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับสภาพอากาศอย่างเช่น ฝนและหิมะจนกลายเป็นสีเขียวนั่นเอง

การชมองค์พระแนะนำให้ยืนห่างจากองค์พระประมาณ 5 เมตร จะทำให้เห็นองค์พระสมส่วนได้รูป และบริเวณด้านหลังขององค์พระยังมีประตูทางเข้าเล็ก ๆ ที่เราสามารถเดินเข้าไปชมภายในองค์พระได้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียง 20 เยน

ทางวัดจะเปิดให้เข้าชมองค์พระพุทธรูปทุกวัน แต่หากเลือกมาชมในช่วงฤดูใบไม้ผลิเราก็จะได้เห็นความงามขององค์พระใหญ่ไดบุทสึไปพร้อม ๆ กับต้นซากุระที่ผลิดอกบานสะพรั่ง


ที่อยู่ 4-2-28, Hase, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-0016, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Enoshima Dentetsu Line ลงที่สถานี Hase จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 9 นาที
เวลาทำการ ช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน 8.00-17.30 น. ช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม 8.00-17.00 น.
ราคา ผู้ใหญ่ 170 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 13-18 ปี 150 เยน นักเรียนมัธยมต้น 100 เยน
โทรศัพท์ 04-6722－0703
Website Kotokuin Temple

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

2. Kenchoji Temple : วัดใหญ่แห่งคามาคุระ

วัดแห่งที่สองนี้มีชื่อเสียงไม่แพ้วัดพระใหญ่ไดบุทสึ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในห้าของวัดเซนที่ยิ่งใหญ่แห่งเมืองคามาคุระ โดยมีพื้นที่ภายในบริเวณวัดกว้างขวางมากตั้งแต่ที่ราบไปจนถึงเนินเขา ประกอบด้วยอาคารและวิหารมากมาย สามารถเดินชมอย่างเพลิดเพลินได้เป็นชั่วโมง

แน่นอนว่าสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ภายในวัดล้วนสวยงามและมีดีกรีเป็นถึงสมบัติของชาติ ที่สำคัญที่นี่ยังถือว่าเป็นสถานที่ชมดอกซากุระที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง เพราะทางเดินเข้ามาในตัววัดมีอุโมงค์ซากุระอันสวยงามที่จะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนให้ชมด้วย

หากเดินขึ้นบันไดเนินเขาขึ้นไปประมาณ 15-20 นาทีก็จะได้พบกับศาลเจ้า Hansobo ที่ตั้งอยู่เคียงข้างกับจุดชมวิวที่เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส


ที่อยู่ Yubinbango247-8525 Kamakura, Kanagawa Prefecture Yamanouchi 8
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yokosuka Line จากนั้นลงที่สถานี Kita-Kamakura แล้วเดินต่ออีกประมาณ 16 นาที
เวลาทำการ 8.30-16.30 น.
ราคา ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน
โทรศัพท์ 04-6722-0981
Website Kenchoji Temple

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

3. Zeniarai Benten Shrine : แวะล้างเงินเพิ่มโชค

Zeniarai Benten คือศาลเจ้าชินโตที่ผสมผสานระหว่างพุทธศาสนาและศาสนาชินโต ออกมาในรูปแบบที่มีทั้งประตูโทริอิของศาลเจ้าแบบชินโต และมีการจุดธูปแบบวัดพุทธ

แต่ทีเด็ดของที่นี่คือเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องโชคลาภและเงินทอง โดยมีความเชื่อว่าหากได้นำเงินมาล้างกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ของวัดแล้วนำเงิน (เหรียญหรือธนบัตร) ไปใช้ให้หมดแล้วเงินนั้นจะนำโชคให้เรามีเงินเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

ใครอยากรู้ว่าล้างเงินแล้วจะช่วยเพิ่มโชคเรื่องการเงินให้เราได้จริงหรือเปล่าก็ต้องลองมาพิสูจน์กันดูนะจ๊ะ ทางศาลเจ้าเขามีอุปกรณ์สำหรับล้างเงินเตรียมไว้ให้พร้อม


ที่อยู่ 2 Chome-25-16 Sasuke, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-0017, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yokosuka Line จากนั้นลงที่สถานี Kamakura แล้วเดินต่ออีกประมาณ 21 นาที
เวลาทำการ 8.00-16.30 น.
ราคา ไม่เสียค่าเข้า
โทรศัพท์ 04-6725-1081
Website Zeniarai Benten Shrine

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

4. Tsurugaoka Hachimangu : ศาลเจ้าประจำเมือง

ศาลเจ้าชินโตแห่งนี้มีความเก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองคามาคุระ ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1063 โดยมีจุดเด่นที่เสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่บริเวณหน้าทางเข้า

สองข้างทางยังมีต้นแปะก๊วย อายุนับพันปีปลูกเอาไว้ด้วย ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงต้นแปะก๊วยเหล่านี้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสวยงามให้เราได้ชมกัน

นอกจากนั้นศาลเจ้าแห่งนี้ยังถือเป็นศาลเจ้าสำคัญที่ผู้คนในเมืองให้ความสำคัญ จึงมักมีการจัดพิธีกรรมอย่างงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย ถ้าโชคดีมาในวันงานก็อาจจะได้ยืนดูพิธีการแต่งงานแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ก็ได้นะ

และเนื่องจากศาลเจ้าแห่งนี้มีวัตถุประสงค์สร้างขึ้นเพื่ออุทิศตนให้กับเทพเจ้าแห่งการสู้รบ ในศาลเจ้าจึงมีพิพิธภัณฑ์แสดงอาวุธอย่างมืดดาบ หน้ากากและเอกสารของเก่าเอาไว้ด้วย มาแวะเยี่ยมชมกันได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะ


ที่อยู่ 2 Chome-1-31 Yukinoshita, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-8588, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yokosuka Line ลงที่สถานี Kamakura จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 13 นาที
เวลาทำการ ช่วงเมษายน-กันยายน 5.00-8.30 น. ช่วงตุลาคม-มีนาคม 6.00-8.30 น.
ราคา ไม่เสียค่าเข้า
โทรศัพท์ 04-6722-0315
Website Tsurugaoka Hachimangu

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

5. Hokokuji Temple : วัดเก่าแก่และสวนไผ่แห่งคามาคุระ

เมืองคามาคุระเองก็มีสวนไผ่สวย ๆ ให้เดินชมด้วยเหมือนกัน สวนไผ่ที่ว่านี้ตั้งอยู่ในบริเวณวัด Hokokuji วัดเก่าแก่ขนาดเล็กนิกายรินไซ ที่ถูกสร้างขึ้นอยู่ภายในเนินเขา

ตัววัดค่อนข้างเก่าแก่เนื่องจากถูกสร้างขึ้นมานานหลายปีแล้ว ส่วนที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้ก็คือหอระฆังของวัดที่มีรูปทรงของหลังคาเป็นแบบหลังคาบ้านโบราณของญี่ปุ่น

สำหรับใครที่อยากจะเข้าไปเดินเล่นในสวนไผ่สวย ๆ สามารถเดินตามทางเดินที่ตัดผ่านจากหลังวัดเข้าไปในสวนไผ่ได้ โดยจะมีทางเดินให้เราได้เดินชมต้นไผ่ขนาดใหญ่ที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ให้บรรยากาศร่มรื่นและสวยงาม

นอกจากนั้นระหว่างทางยังมีอาคารให้เราได้แวะพักนั่งจิบชาเขียวและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของสวนแห่งนี้ โดยเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเพียง 500 เยนเท่านั้น


ที่อยู่ 2-7-4 Jomyoji, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-0003, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Yokosuka Line ลงที่สถานี Kamakura จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 28 นาที
เวลาทำการ 9.00-16.00 น.
ราคา 200 เยน (หากอยากเข้าชมพร้อมชาเขียวราคา 500 เยน)
โทรศัพท์ 04-6722-0762
Website Hokokuji Temple

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

6. Meigetsuin Temple : ไหว้พระชมดอกไฮเดรนเยีย

นอกจากวัดที่มีสวนไผ่สวย ๆ แล้ว ยังมีวัดที่น่าสนใจอย่าง Meigetsuin Temple อันเป็นวัดอีกแห่งที่มีความสวยงามรอบบริเวณวัด คือทิวสวนดอกไฮเดรนเยียที่อวดโฉมสีฟ้าบานสะพรั่งสวยงามรายรอบ

ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายนจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกไฮเดรนเยียหลายพันดอกในสวนแห่งนี้เริ่มเบ่งบาน เพราะฉะนั้นในช่วงนี้ก็จะมีผู้คนแวะเวียนมาที่วัดแห่งนี้หนาแน่นขึ้นกว่าปกติเพื่อชมดอกไม้

เรียกได้ว่าวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยพื้นที่เขียวชอุ่มบริเวณรอบ ๆ วัด นอกจากที่นี่จะมีสวนดอกไฮเดรนเยียให้ชมในช่วงหน้าฝนแล้ว บริเวณด้านหลังของวัดยังเป็นที่ตั้งของห้องโถง Hojo อาคารซึ่งมีหน้าต่างเป็นรูปทรงกลมที่จะมองเห็นทิวทัศน์ของสวนหย่อมด้านหลังได้อย่างชัดเจน สวยงามราวภาพฝัน

ซึ่งเป็นสวนดอกไอริสที่เปิดให้ชมในช่วงเดือนมิถุนายนและปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคมด้วย (บริเวณสวนดอกไอริสอาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะจ๊ะ)


ที่อยู่ Japan, 247-0062 Kanagawa Prefecture, Kamakura, Yamanouchi, 189
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Kita-Kamakura จากนั้นเดินประมาณ 9 นาทีไปวัด
เวลาทำการ 9.00-16.00 น. (เดือนมิถุนายน 8.30-17.00 น.)
ราคา 300 เยน (เดือนมิถุนายน 500 เยน) เพิ่มอีก 500 เยน หากสวนด้านในเปิดให้ชม
โทรศัพท์ 04-6724-3437
Website Meigetsuin Temple

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

7. Hasedera temple : วัดเจ้าแม่กวนอิม

ที่ญี่ปุ่นเขาก็นับถือเจ้าแม่กวนอิมเหมือนกันนะขอบอก เพราะวัด Hasedera of Kamakura แห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น วัดเจ้าแม่กวนอิม อันเป็นวัดในพระพุทธศาสนานิกายโจโดที่นับถือเจ้าแม่กวนอิมนั่นเอง

ภายใน Kannon-do Hall ของวัดมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม 11 เศียรอันมีชื่อเสียง มีขนาดสูงประมาณ 9.18 เมตร สร้างขึ้นและแกะสลักจากไม้ทั้งหมดมีความสวยงามและมีความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์มาก บริเวณวัดยังมีรูปปั้นเล็ก ๆ ของพระ Jizo Bodhisattva ที่เชื่อกันว่าจะเป็นผู้ส่งดวงวิญญาณของเด็ก ๆ ขึ้นสู่สวรรค์หลังจากเสียชีวิต

และเนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่บริเวณเขาทำให้เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองคามาคุระและทะเลได้ด้วย ยิ่งในช่วงที่ใบไม้ผลิและใบไม้เปลี่ยนสีก็ยิ่งมีความสวยงาม ภายในบริเวณวัดยังมีสวนญี่ปุ่นพร้อมบ่อปลาคาร์ฟสวย ๆ ให้เราได้ชมอีกด้วย


ที่อยู่ 3 Chome-11-2 Hase, Kamakura, Kanagawa Prefecture 248-0016, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Enoshima Dentetsu Line ลงที่สถานี Hase จากนั้นเดินต่อประมาณ 4 นาที
เวลาทำการ ช่วงมีนาคม-กันยายน 8.00-17.00 น. ช่วงตุลาคม-กุมภาพันธ์ 8.00-16.30 น.
ราคา ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 100 เยน
โทรศัพท์ 04-6722-6300
Website Hasedera temple

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

8. Yuigahama Beach : นั่งเล่นริมทะเล

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่อไปอย่างที่เกริ่นกันไว้ตั้งแต่ต้นว่าคามาคุระเป็นเมืองที่อยู่ติดทะเล ดังนั้นเมืองนี้จึงมีชายหาดสวย ๆ ให้เราได้แวะไปเที่ยวเล่นกัน ชายหาดที่ว่านี้มีชื่อว่า Yuigahama

ชายหาด Yuigahama นั้นเป็นหาดทรายขาวสะอาด ชาวเมืองคามาคุระเองยังนิยมแวะมานั่งเล่นปิกนิกกันในช่วงวันหยุด นอกจากนั้นยังเป็นหาดที่นิยมเล่น Surf Board กันอีกด้วย หรือใครอยากจะเล่นว่าวก็ย่อมได้ กิจกรรมริมทะเลที่ญี่ปุ่นก็คล้ายบ้านเราอยู่เหมือนกันเนอะ

แต่สำหรับคนที่ชอบวิวสวย ๆ เราขอแนะนำให้นั่งรถรางสาย Enoden เลียบชายหาดกินลมชมบรรยากาศ หรือถ่ายรูปวิวสวย ๆ เก็บไว้เป็นภาพประทับใจก็ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด


ที่อยู่ 4 Chome-4 Yuigahama, Kamakura-shi, Kanagawa-ken 248-0014, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Enoshima Dentetsu Line ลงที่สถานี Yuigahama จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 6 นาที
โทรศัพท์ 04-6723-3000
Website Yuigahama Beach

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

9. Enoshima Aquarium : ความสวยงามแห่งโลกท้องทะเล

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบนเกาะกลางทะเลแห่งนี้คือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคคันโต แต่ถึงจะอยู่กลางทะเลการเดินทางไปไม่ยากอย่างที่คิดหรอกนะเพราะเขามีสะพานสำหรับข้ามไปยังเกาะ Enoshima ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ด้วย

ตู้ปลาภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีขนาดใหญ่โตและจัดแสดงสัตว์น้ำเอาไว้มากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำจากอ่าว Sagami สัตว์น้ำจากใต้ทะเลลึก หรือแม้แต่ปลาหายากจากมหาสมุทรแปซิฟิกก็มีมาโชว์ให้เราดูกัน

แต่ใครตามหาสัตว์หน้าตาน่ารักขวัญใจคุณหนูอย่างนกเพนกวิ้น โลมาหรือเต่าทะเลที่นี่เขาก็มีเหมือนกัน เฉพาะนั้นจะมาดูการแสดงโลมาก็มาได้ไม่เสียเที่ยว

ส่วนมุมไฮไลท์ของพพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เห็นจะเป็นโซนจัดแสดงแมงกระพรุมที่ถูกจัดแต่งเอาไว้อย่างสวยงามและปล่อยให้พวกมันได้เรืองแสงสลับกับไฟสีสวยงาม ดูแล้วเพลินตาราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราในห้องนั้นกำลังเรืองแสง

หากได้มาแล้วก็อย่าลืมรอดูกิจกรรมพิเศษของที่นี่อย่างการแสดงโชว์ภาพ 3D สุดอลังการผ่านตู้ปลาที่จะมีนักแสดงนำเป็นเหล่าสัตว์น้ำทั้งหลาย รับรองว่าวสวยงามประทับใจแน่นอน


ที่อยู่ 2-19-1, Katasekaigan Fujisawa, Kanagawa
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Odakyu-Enoshima Line มาลงที่สถานี Katase-Enoshima จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที
เวลาทำการ มีนาคม-พฤศจิกายน 9.00-17.00 น. ธันวาคม-กุมภาพันธ์ 10.00-17.00 น.
ราคา ผู้ใหญ่ 2,100 เยน, นักเรียนมัธยมปลาย 1,500 เยน, นักเรียนมัธยมต้นและประถม 1,000 เยน, เด็กอนุบาล 600 เยน
โทรศัพท์ 04-6629-9960
Website Enoshima Aquarium

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

10. Samuel Garden and Sea Candle : ชมวิวยามค่ำคืน

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งเมืองคามาคุระที่เราอยากจะแนะนำให้รู้จักแห่งนี้ เหมาะกับการไปเดินเล่นในยามค่ำคืนที่สุด เพราะในช่วงเวลากลางคืนสวนแห่งนี้จะประดับประดาด้วยไฟสีสีนสวยงามพร้อมบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้ทั้งหลาย

อีกทั้งยังมีหอชมวิวซึ่งมีลักษณะคล้ายประภาคารที่เราสามารถขึ้นไปชมทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองคามาคุระได้ ซึ่งหอชมวิวนี้มีระดับความสูงอยู่ที่ 120 เมตร ทำให้เราสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา แถมยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นหากได้มาคามาคุระก็อย่าลืมแวะมาใช้ช่วงเวลาค่ำคืนกันที่นี่กันก่อนเดินทางกลับนะ

หรือใครจะมาชมวิวเดินเล่นในสวนนี้กันต่อกลางวันก็ไม่ว่ากัน เพราะที่นี่มีดอกไม้ปลูกไว้ทุกฤดูกาลทำให้ไม่ขาดทิวทัศน์สวยงามไปเลยสักวัน


ที่อยู่ 2-3 Enoshima, Fujisawa, Kanagawa Prefecture 251-0036, Japan
วิธีเดินทาง นั่งรถไฟสาย Enoshima Dentetsu Line ลงที่สถานี Enoshima จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 24 นาที
เวลาทำการ 9.00-20.00 น.
ราคา ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
โทรศัพท์ 04-6623-0623
Website Samuel Garden and Sea Candle

- chillchilljapan.com (ภาษาไทย)

บทความที่เกี่ยวข้อง

8 เมนูห้ามพลาดที่มา Kamkura Komachi Street แล้วต้องกิน
5 เมืองรอบโตเกียว ที่ห้ามพลาด วันเดย์เที่ยวสบาย ไปกลับแบบชิลล์ๆ