Tokyo 1st Time! ญี่ปุ่นครั้งแรกทำไมต้องโตเกียว
เพราะเป็นเมืองหลวง จึงมีทุกอย่าง
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่กระจายความเจริญได้ดีพอสมควร สำหรับคนญี่ปุ่นที่ "ใช้ชีวิต" ที่ญี่ปุ่นนั้น แม้จะอยู่ต่างจังหวัดหรือที่ไทยเรียกว่า "บ้านนอก" ก็ยังสามารถมีคุณภาพชีวิต เงินเดือน สิ่งแวดล้อม ความบันเทิง สถานที่ช้อปปิ้งพักผ่อนหย่อนใจ ความพร้อมของสาธารณูปโภค และความสะดวกสบายอื่นๆที่ไม่แพ้โตเกียวเลยครับ
จะค่อนข้างต่างกับประเทศไทยอยู่บ้าง เนื่องจากประเทศไทย ปกครองโดยเน้นการรวมศูนย์ความเจริญไว้ที่กรุงเทพมหานคร ทั้งการลงทุน การเมือง วัฒนธรรม ล้วนแล้วแต่ไปกระจุกอยู่ที่กรุงเทพ ทำให้ในเรื่องของความสะดวกสบาย ความบันเทิง และอื่นๆนั้น ต่างจังหวัดจะยังสู้กรุงเทพไม่ค่อยได้ครับ
แต่ว่าสำหรับนักท่องเที่ยวนั้นต่างกัน เพราะนักท่องเที่ยวนั้นมา "เที่ยว" ไม่ได้มา "ใช้ชีวิต" เป้าหมายต่างกัน เวลาก็มีจำกัด ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งที่ไปเที่ยวเมืองไทย หรือคนไทยที่ไปญี่ปุ่น หรือไปประเทศอื่นๆก็ตาม การเริ่มเที่ยวจากเมืองหลวงนั้นเป็นทางเลือกที่ดีครับ เพราะความพร้อมในสาธารณูปโภค จำนวนที่เที่ยว ที่ช้อป จำนวนโรงแรม ความพร้อมของป้ายภาษาอังกฤษ ความพร้อมของระบบรถไฟและแท็กซี่ เป็นต้น
เมืองไม่ได้เป็นเมืองหลวงกันง่ายๆ มีเหตุผลหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความสะดวกสบาย ที่ทำให้เมืองหลวงเป็นเมืองหลวง เพราะฉะนั้นส่วนตัวผมจึงเชื่อว่า เวลาไปต่างประเทศครั้งแรก ควรเริ่มจากเมืองหลวง ดูของดังๆ ที่คนเยอะๆก่อน ถ้าเราชอบ เราสนุก แล้วค่อยไปครั้งที่สอง สาม สี่ ค่อยๆเริ่มเดินทางไปที่ๆดังน้อยกว่า คนน้อยกว่า ไปยากกว่า ในครั้งต่อๆไปครับ
แน่นอนว่า คนที่ไม่เห็นด้วยก็คงมี ซึ่งก็ไม่ผิดครับ อย่าลืมว่าบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นและมุมมองหนึ่งเท่านั้นครับ
แต่สำหรับคนที่สนใจโตเกียวอยู่แล้ว เรามาค่อยๆอ่านไปด้วยกันดีกว่า
ความพร้อมเรื่องภาษา
เมืองใหญ่นั้นมีความพร้อมเรื่องภาษามากกว่าเมืองเล็กแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นป้ายบอกทาง เมนูในร้านอาหาร แคตาล็อกในห้าง แผนที่ๆแจกฟรี เป็นต้น หากไปตามที่เที่ยวดังๆ สถานที่สำคัญๆในโตเกียวในปัจจุบันละก็ แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องมีภาษาอังกฤษแล้ว ส่วนภาษาไทยก็กำลังไล่ตามมาติดๆ โดยองค์กรใหญ่ๆ อย่างเช่นสนามบิน บริษัทรถไฟ องค์กรท่องเที่ยวประจำเมืองเป็นหัวหอกในการติดป้ายภาษาต่างประเทศอื่นๆ เช่นภาษาไทย
โตเกียวพิเศษยิ่งกว่าเมืองใหญ่อื่นๆ เพราะกำลังเตรียมการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ป้ายต่างๆตอนนี้พร้อมยิ่งกว่าเมื่อก่อนเสียอีก ใครที่เคยมาโตเกียวเมื่อนานมาแล้ว ถ้ามาอีกทีคงตกใจในความพร้อมของโตเกียวในด้านภาษาอังกฤษแน่นอน
แต่ในต่างจังหวัดนั้น สถานการณ์จะต่างกับในเมืองใหญ่พอสมควร ทั้งป้าย ทั้งใบปลิวที่แจกตามสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ยังมีมากมายหลายสถานที่ๆไม่พร้อมในเรื่องภาษาอังกฤษ (และถ้าที่ไหนไม่มีภาษาอังกฤษ แน่นอนภาษาไทยยิ่งไม่ต้องพูดถึง)
ที่เที่ยวใหญ่ ดัง คนเยอะ และสิ่งที่ขึ้นชื่อว่าเป็น"สัญลักษณ์"ของประเทศต่างๆ มักรวมอยู่ที่เมืองหลวง
อาจไม่จริงเสมอไปนะ "สัญลักษณ์" ที่เห็นแล้วนึกถึงญี่ปุ่น นึกถีงไทยทันที ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเมืองหลวงทั้งหมด แต่ก็ต้องยอมรับว่า "แนวโน้ม" ที่จะอยู่ในเมืองหลวงมีมากกว่าที่อื่น เพราะเมืองหลวงเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจนั่นเอง จึงเป็นเรื่องธรรมดามากที่จะมีอาคารสวยๆ แลนด์มาร์กใหม่ๆ สิ่งก่อสร้างที่สำคัญที่สร้างโดยบุคคลสำคัญ
พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว วัดโพธิ์ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ห้างดังระดับภูมิภาคอย่างสยามพารากอนและเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนข้าวสาร สวนสาธารณะใหญ่ๆอย่างสวนลุม สวนจตุจักร ตึกชมวิวที่สูงที่สุดในไทยอย่างใบหยก ทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในกรุงเทพมหานครทั้งสิ้น นี่แหละครับพลังของการเป็นเมืองหลวง
ส่วนญี่ปุ่นนั้น มองรวมๆจะค่อนข้างกระจัดกระจายกว่าไทย สัญลักษณ์เบอร์หนึ่งอย่างภูเขาฟูจิอยู่นอกโตเกียว(แต่ไม่ไกลมาก) มรดกโลกอย่างศาลเจ้ากลางน้ำ อิทสึคุชิมะ ก็อยู่ไกลถึงฮิโรชิม่า วัดดังหลายๆวัดก็อยู่เกียวโต แต่เมืองหลวงอย่างโตเกียวเอง ก็ยังเป็นเมืองที่แข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยวอยู่ดีครับ แม้วัดเก่าๆ ปราสาท สิ่งก่อสร้างโบราณจะไม่ค่อยมี เพราะหายไปตอนแผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต พ.ศ. 2466 แต่ถ้าเป็นเรื่องสิ่งก่อสร้างยุคใหม่ๆ ที่อายุไม่ถึงร้อยปีนั้น โตเกียวไม่แพ้ใครแน่นอน อย่างหอคอยที่เป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นทั้งเก่าและใหม่ เช่นโตเกียวทาวเวอร์และโตเกียวสกายทรี ก็ล้วนอยู่ที่โตเกียวเป็นต้น
แลนด์มาร์กอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่นและโตเกียว หอคอยโตเกียวทาวเวอร์ ที่นอกจากจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงแล้วยังตั้งชื่อตามเมืองหลวงเป๊ะๆ อิทธิพลของความเป็นเมืองหลวงนี่ไม่ธรรมดาเลย
แม้ปัจจุบัน คนจะไม่ค่อยนิยมขึ้นมากเท่าเมื่อก่อน เพราะมีหอคอยที่สูงกว่าอย่างโตเกียวสกายทรี แต่ก็ยังเป็นแลนด์มาร์กที่ใครๆอยากให้ติดอยู่ในรูปถ่ายของตัวเองอยู่ดี (แม้แต่คนที่ขึ้นสกายทรี ก็ขึ้นไปเพื่อถายรูปหอคอยโตเกียวทาวเวอร์นี่แหละ)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กดังของประเทศญี่ปุ่น ที่ทั้งตั้งอยู่ในโตเกียวและมีชื่อว่าโตเกียว ก็คือโตเกียวสกายทรีครับ
ความสะดวกในการหาห้องพักและการเดินทาง
เช่นเดียวกับที่กรุงเทพมีรถไฟฟ้า MRT BTS ทำให้การเดินทางสะดวกกว่าจังหวัดอื่น การเดินทางในเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นนั้นก็สะดวกกว่าการเดินทางในต่างจังหวัดเช่นเดียวกัน
มีทั้งรถไฟฟ้าของ Tokyo Metro ที่ครอบคลุมแทบทุกย่านทุกหัวมุมในโตเกียว รถไฟบนดินของ JR ที่ครอบคลุมที่สำคัญๆอยู่ครบ รถไฟเอกชนอื่นๆอย่าง Keisei, Tokyo Monorail, Seibu, Tobu เป็นต้นครับ
โรงแรมก็เช่นกัน ในเมืองใหญ่อย่างโตเกียวมีโรงแรมเหลือเฟือ แถมรวมกันอยู่อย่างหนาแน่นกว่า ทั้งประเภทและราคาก็มีให้เลือกเยอะกว่าครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองนั้นถ้าเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่น เวลาไปที่เมืองใหญ่จะแทบไม่จองล่วงหน้าเลย เพราะยังไงห้องก็พอแน่นอน แถมถ้ารอวันสุดท้ายอาจจะมีโรงแรมที่ลดราคาห้องที่ขายไม่ออกอีกด้วย หลายครั้งลดจนถูกกว่าจองล่วงหน้าเสียอีก (แต่เทคนิคนี้ คนต่างชาติต้องระวัง ไม่ชัวร์100%ก็จองล่วงหน้าดีกว่าครับ ) แต่ถ้าไปต่างจังหวัด ตามป่าเขา ออนเซ็น ที่ๆมีโรงแรมจำกัดละก็ ยังไงก็ต้องจองก่อน เพราะห้องมีจำกัด อาจเต็มหรือราคาแพงขึ้นในช่วงวันสุดท้ายได้ครับ
ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของโตเกียวนั้น หนาแน่น จำนวนสถานีเยอะ ครอบคลุมอย่างเห็นได้ชัด แทบไม่มีที่เที่ยวดังๆ แห่งไหนในโตเกียวที่อยู่ห่างจากสถานีรถไฟเกิน15-20นาทีด้วยการเดินเท้าเลย
(ดาวน์โหลดแผนที่ในภาพได้ที่นี่)
เมื่อเทียบกันแล้ว ซัปโปโร แม้จะเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของฮอกไกโดที่มีประชากรหลักล้านคน แต่การเดินทางโดยรถไฟก็ยังไม่สะดวกครอบคลุมเท่าเมืองหลวงอย่างโตเกียวเลย
เวลาไปเที่ยว ต้องนั่งรถบัสต่อเยอะมากๆครับ ที่เที่ยวดังๆบางที่ก็ไกลจากป้ายรถบัสและสถานีรถไฟเหลือเกิน ความสะดวกยังสู้โตเกียวไม่ได้ครับ แต่ก็แน่นอนว่า มีวิธีแก้ปัญหามากมาย เช่น เช่ารถ เป็นต้น
(ดาวน์โหลดแผนที่ในภาพได้ที่นี่)
แต่ว่า โตเกียวแพงกว่าเมืองอื่น?
สำหรับ "ผู้อยู่อาศัย" นั้นจริงแท้แน่นอน เหมือนที่กรุงเทพค่าเช่าแพงกว่าต่างจังหวัดนั่นแหละครับ
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวนั้นผมว่าไม่จริงครับ
เหตุผลสั้นๆง่ายๆก็คือ ค่าใช้จ่ายหลักๆอย่างค่าเดินทาง โดยปกติแล้วเที่ยวโตเกียวใช้น้อยกว่าเที่ยวต่างจังหวัดเยอะครับ เพราะสถานที่ต่างๆอยู่ใกล้ๆกัน เที่ยวทั้งวันก็เสียค่ารถไฟแค่ไม่กี่ร้อยเยนเท่านั้น แต่ถ้าไปต่างจังหวัดละก็ ที่เที่ยวแต่ละที่อยู่ห่างๆกัน หรือบางทีก็ไม่มีรถไฟเลย ทำให้ต้องเช่ารถ หรือนั่งรถบัสระหว่างเมือง ทำให้ค่าเดินทางแพงกว่าโตเกียวเยอะครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาด้วยเครื่องบิน เพราะสนามบินนั้นอยู่ใกล้โตเกียว ทำให้การไปเที่ยวโตเกียวสะดวกและประหยัดกว่ามาก ลองเทียบระหว่างการลงสนามบินนาริตะแล้วเที่ยวโตเกียว กับการต่อรถไปเที่ยวทากายามะ นิกโก้ นางาโนะดูสิ
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือค่าโรงแรม
โรงแรมนั้น เหมือนจะแพงตามราคาที่ดิน แต่จริงๆแล้ว ราคาที่ดินมีปัจจัยน้อยมากกับค่าโรงแรม โรงแรมในโตเกียวนั้นไม่ได้แพงกว่าในต่างจังหวัดหลายเท่าเหมือนกับค่าเช่าบ้านแต่อย่างใดครับ
กลับกัน เมืองใหญ่อย่างโตเกียวมักจะมีตัวเลือกเยอะกว่า อย่างเช่นโรงแรมแคปซูลอันเลื่องชื่อของญี่ปุ่นเป็นต้น ซึ่งต่างจังหวัดจะไม่ค่อยมีตัวเลือกแบบนี้ให้เลือกมากนัก ซึ่งถ้าเราหาได้ บางทีการพักในโตเกียวก็ถูกกว่าต่างจังหวัดเสียอีก
กลับกัน ตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะจุดที่ใกล้ที่เที่ยวดังหรือออนเซ็น โรงแรมที่มีจะยกระดับตัวเอง มีบ่อน้ำร้อน ปรับปรุงเป็นโรงแรมออนเซ็น เพิ่มอาหารให้ทุกห้อง และปัจจัยอื่นๆ ที่เราไม่สามารถเลือกไม่เอาได้ ทำให้เอาจริงๆแล้ว ในต่างจังหวัดบางที่หาโรงแรมถูกๆ ยากกว่าในโตเกียวเสียอีก
โอเค ถ้างั้นตกลงไปโตเกียวละกัน
ชาวโตเกียวยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทุกท่านครับ
แต่สำหรับผู้ที่อยากไปเมืองอื่นนอกจากโตเกียวก็ไม่มีปัญหาครับ อย่าลืมว่าบทความนี้เป็นแนวทางที่พื้นฐานสุดๆ สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าควรไปไหนในญี่ปุ่นเท่านั้น
ไม่ว่าจะมือเก่า มือใหม่ หากท่านมีเป้าหมายของตัวเองแล้วละก็ จงไปเถิดครับ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนในญี่ปุ่น เมืองอะไร คนเยอะหรือน้อย ไปยากหรือง่าย ดังมากดังน้อย ชาวเมืองจะยินดีต้อนรับพวกคุณแน่นอน
ขอให้สนุกกับการเที่ยวญี่ปุ่นครับ