ศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าแห่งความรัก
ศาลเจ้าเมจิ (明治神宮) เป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของประเทศญี่ปุ่นครับ ด้วยความงดงามตามแบบฉบับศาลเจ้าของชินโต สถานที่ตั้งที่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสุดชิคอย่างฮาราจูกุ และเหนือสิ่งอื่นใดคือความศักดิ์สิทธิ์ของเครื่องรางที่เกี่ยวกับความรัก เรียกได้ว่าใครโสดก็ได้แฟน ใครมีแฟนก็ได้แต่งงาน ใครแต่งงานแล้วชีวิตคู่ก็จะดียิ่งๆขึ้นไปเลยครับ
ศาลเจ้าเมจิ ศาลเจ้าดังใจกลางฮาราจูกุมีอะไรดี
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่าศาลเจ้าเมจินั้นตั้งอยู่ใกล้กับย่านฮาราจูกุ ซึ่งวิธีการเดินทางนั้นก็ไม่ยากเลยครับ เนื่องจากมีสถานีรถไฟที่ใกล้กับทางเข้าทั้งหมด 2 สถานีด้วยกัน นั่นก็คือสถานีของ JR Yamanote line (山手線) สายวงกลมสีเขียวที่วิ่งวนภายในโตเกียว ชื่อสถานี Harajuku (原宿駅) ครับ
อีกสถานีคือสถานีของ Tokyo Metro Chiyoda line (千代田線) หรือ Fukutoshin Line (副都心線) ครับ ชื่อสถานี Meiji-Jingumae (明治神宮前駅) โดยหากมาด้วย JR ทางออกจะมีทางเดียว เมื่อเดินออกมาแล้วให้เลี้ยวขวาครับ ตรงมาเรื่อยๆจนเห็นลิฟท์ก็เลี้ยวขวาข้ามสะพานใหญ่ไปก็จะเจอทางเข้าศาลเจ้าดังรูปเลยครับ และหากมาด้วยรถไฟ Metro ล่ะก็ ให้ออกประตูหมายเลข2 ครับ จะออกมาเจอลิฟท์เช่นกัน ให้เลี้ยวขวาข้ามสะพานใหญ่ไปเพื่อมาเจอกับทางเข้าดังรูปเช่นเดียวกันครับ
ศาลเจ้าเมจิแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปีคศ.1920 เพื่อเป็นการรำลึกถึงสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิครับ และด้วยความร่วมมือของประชาชนที่บริจาคต้นไม้กว่า 100,000 ต้น ทำให้ศาลเจ้าแห่งนี้ร่มรื่นเป็นอย่างยิ่ง และด้วยขนาดที่ใหญ่ ทำให้ระยะทางในการเดินเข้าไปจนถึงตัวศาลเจ้าไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกได้ว่าใช้ระยะทางเพื่อพิสูจน์ความรักเลยก็ว่าได้นะครับ
จากประตูฝั่งสถานีฮาราจูกุ เดินมาได้ครึ่งทางก็จะพบกับ..
หากเห็นถังเหล้าเรียงรายแล้วล่ะก็ คุณจะรู้ได้ทันทีว่านั่นคือระยะทางครึ่งทางของการเดินเข้ามาแล้วครับ ขอให้มีกำลังใจในการเดินต่อไปนะครับ
ถังเหล้าเหล่านี้ เป็นถังเหล้าจริงที่เก็บไว้มาอย่างยาวนานนะครับ และฝั่งตรงข้ามก็เรียงรายไปด้วยถังบ่มไวน์ชั้นยอดเช่นเดียวกัน แต่ข้างในนั้นจะมีเหล้าหรือไวน์จริงหรือไม่อันนี้ก็ไม่สามารถทราบได้นะครับ
เมื่อเดินมาถึงหน้าทางเข้าแล้วก็จะเห็นเสาโทริอิอีกอันหนึ่ง อย่าลืมล้างมือ กลั้วปากก่อนเข้าวัดกันนะครับ เพื่อเป็นการทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้าศาลเจ้า เมื่อเข้ามาถึงแล้ว ก็สามารถทำการสักการะเทพเจ้าได้ทันทีเลยครับ
ภายในศาลเจ้าจะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ ใกล้ๆกันเราสามารถไปหาซื้อแผ่นไม้ขอพรที่เรียกว่า “เอมะ” ได้เลยนะครับ จากนั้นก็เขียนขอพรหรือสิ่งที่เราตั้งใจว่าจะทำเอาไว้ครับ จากนั้นนำไปแขวนตรงที่แขวนที่จัดวางไว้รอบต้นไม้ครับ คุณสามารถเขียนเป็นภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยก็ได้นะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญคือแรงใจในการอธิษฐานของตัวเองอยู่แล้วครับ และเราเชื่อว่าระดับพระเจ้าแล้วมีล่ามแน่นอน
และสุดท้ายสำหรับศาลเจ้าชื่อดังแห่งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องรางแห่งความรักครับ อย่าลืมหาซื้อกันไว้นะครับ เพราะเขาว่ากันว่ามันศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ศาลเจ้าแห่งนี้ศักดิ์สิทธิ์เรื่องความรักขนาดไหน ทางเราก็ขอบอกเลยว่า ศักดิ์สิทธิ์ขนาดที่มีคู่บ่าวสาวมากมายมาทำพิธีแต่งงานกันที่นี่เยอะแยะเลยยังไงล่ะครับ
หากใครไปเที่ยวแล้วพบเห็นพิธีแต่งงานก็อย่าได้แปลกใจไปนะครับ ขอให้ตื่นตาตระการใจในความอลังการงานสร้างของเสื้อผ้าและขบวนแห่ที่เดินตามกันมาในพิธีแต่งงานนะครับ ยืนถ่ายภาพอยู่ห่างๆได้ แต่ระวังอย่าไปรบกวนเข้าล่ะ