นั่งบัสเที่ยวเกียวโตไปกับตั๋ว One-Day Pass
เกียวโต
เกียวโตเป็นอีกหนึ่งจังหวัดยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนอยากแวะไปให้ได้ซักครั้ง ทั้งบริเวณเมืองที่ให้บรรยากาศแบบสมัยก่อน วัดและศาลเจ้าต่างๆ เกียวโตมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่เยอะมาก หากใช้แค่รถไฟและรถไฟใต้ดินก็จะไม่สามารถไปถึงหลายๆที่ได้ การเดินทางในเกียวโตส่วนมากจึงเป็นการใช้รถบัส ซึ่งใครที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการนั่งรถบัสก็อาจจะมีอาการสับสนกันบ้าง ในวันนี้เราจะมาแนะนำการนั่งรถบัสเที่ยวเกียวโตให้ได้รู้กัน
ตั๋ว Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass
เพื่อการเดินทางที่สะดวกสบายและคุ้มค่า ขอแนะนำให้ใช้ Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass ซึ่งเป็นตั๋วสำหรับนั่งรถบัส 1 วัน ในราคาเพียงแค่ 500 เยน โดยสามารถใช้นั่งรถบัสได้แทบทุกสายและไม่จำกัดจำนวนครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมีบัตรโดยสารแบบอื่นอีก เช่น Kyoto Sightseeing Pass ซึ่งใช้นั่งได้ทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัส มีทั้งแบบ 1 วัน (1200 เยน) และแบบ 2 วัน (2000 เยน)
Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass สามารถหาซื้อได้จากหลายๆที่ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมบางแห่ง จุดบริการข้อมูลให้นักท่องเที่ยว หรือเคาน์เตอร์ในสถานีรถไฟใต้ดิน แต่จุดที่น่าจะสะดวกที่สุดคงจะเป็นที่ Kyoto Tourist Information Center จุดบริการนักท่องเที่ยวที่อยู่ในสถานีรถไฟเกียวโต และ Bus Ticket Center ที่อยู่หน้าสถานีเกียวโตใกล้ๆบริเวณท่ารถบัส เมื่อซื้อ Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass แล้ว ก็จะได้รับคู่มือการนั่งรถบัสแถมมาด้วย ภายในจะมีข้อมูลเกี่ยวกับรถบัส สายรถบัส และแผนที่เส้นทางรสบัส
การขึ้นรถบัสในเกียวโต
ด้านหน้าของรถบัสจะมีเบอร์รถบัสและจุดปลายทางบอกอยู่ชัดเจน สำหรับการขึ้นรถบัสให้ขึ้นที่ประตูหลัง แล้วลงที่ประตูหน้า ในรถจะมีหน้าจอคอยบอกป้ายถัดไปอยู่ตลอด หากต้องการจะลงก็ให้กดปุ่มในรถ แต่ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก เพราะป้ายรถใกล้สถานที่ท่องเที่ยวจะมีคนขึ้น-ลงอยู่ตลอด ถ้าใช้ Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass เวลาลงรถก็เพียงแค่โชว์บัตรให้คนขับดูเท่านั้น
หากต้องการศึกษาแผนที่เส้นทางรถบัสในเกียวโตล่วงหน้า ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์ด้านล่างนี้เลยที่นี้
แนะนำเส้นทาง
หลังจากรู้เกี่ยวกับรถบัสในเกียวโตไปบ้างแล้ว ถัดไปเราก็จะขอแนะนำเส้นทางสำหรับนั่งรถเที่ยวใน 1 วัน เริ่มเดินออกเดินทางจากสถานีเกียวโต ไปยังวัดยอดนิยมต่างๆ และกลับมายังสถานีเกียวโต โดยไม่ต้องนั่งย้อนไปมา
Kiyomizu-dera
เริ่มออกเดินทางจากท่ารถบัสหน้าสถานีเกียวโต ป้าย Kyotoeki-mae นั่งรถบัสเบอร์100 หรือเบอร์206 ไปลงที่ป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi แล้วเดินขึ้นเนินต่ออีกราว 10 นาที ซึ่งระหว่างทางก็จะมีร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึกให้แวะอยู่มากมาย
Kiyomizu-dera หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า วัดน้ำใส เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโต จุดเด่นของวัดคือระเบียงไม้ขนาดใหญ่บริเวณอาคารหลักของวัดที่อยู่สูงจากพื้นด้านล่าง 13 เมตร โดยมีเสาไม้กว่าร้อยต้นที่ยึดต่อกันโดยไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ดอกเดียวคอยรองรับอยู่ด้านล่าง
Ginkaku-ji
เมื่อเสร็จจากวัด Kiyomizudera แล้วก็เดินกลับมายังป้าย Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi แล้วนั่งรถบัสเบอร์100 ไปลง Ginkakuji-mae หรือ Ginkakuji-michi เพื่อไปยังวัด Ginkaku-ji กันต่อ
Ginkaku-ji หรือ วัดเงิน มีชื่อเป็นทางการว่า jisho-ji สัญลักษณ์ของวัด คือ ศาลาเงิน (Ginkaku) ซึ่งในตอนเริ่มสร้างมีการวางแผนว่าจะใช้แผ่นเงินแท้ปิดหุ้มด้านนอกของตัวศาลาทั้งหมด แต่เนื่องจากเกิดสงครามในช่วงนั้นทำการก่อสร้างหยุดลงไปโดยยังไม่ได้ปิดแผ่นเงิน นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดค่อนข้างกว้างมีทั้งสวนหิน และบริเวณสวนที่มีต้นไม้และมอสขึ้นปกคลุมอยู่มาก
Kinkaku-ji
เมื่อเดินชมวัด Ginkakuji เสร็จก็ไปทีป้าย Ginkakuji-mae แล้วนั่งรถบัสเบอร์ 102 ปลายทางที่ Kitaoji bus terminal โดยลงที่ป้าย Kinkakuji-michi ก็จะถึงวัด Kinkaku-ji
Kinkaku-ji หรือ วัดทอง มีชื่อเป็ทางการว่า Rokuon-ji จุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของวัด คือ ศาลาสีทอง (kinkaku) นอกจากชั้นใต้ดินแล้ว ตัวศาลาทั้งหลังถูกปิดคลุมด้วยแผ่นทองคำบริสุทธิ์ ภายในใช้เก็บพระพุทธรูปและโบราณวัตถุมีค่าอื่นๆ ซึ่งศาลาทองนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO อีกด้วย
เมื่อเสร็จจากวัด Kinkaku-ji แล้ว ก็สามารถขึ้นรถบัสเบอร์ 101 เพื่อตรงกลับไปยังสถานีเกียวโตได้
นอกจากวัดที่แนะนำไปแล้ว เกียวโตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย ซึ่งถ้าใครคิดว่ายังมีเวลาเหลือให้แวะไปที่อื่นต่อ หรือมีจุดอื่นที่อยากไปก็สามารถศึกษาเส้นทางไปก่อนล่วงหน้าได้