5 มรดกโลกบนเกาะสวรรค์ Okinawa
Okinawa ซึ่งในอดีตราชอาณาจักรริวกิว และพึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหรัญอเมริกา ทำให้ Okinawa ในทุกวันนี้จึงมีทั้งความผสมสานระหว่างญี่ปุ่นและอเมริกา รวมถึงมีวัฒนธรรมที่พิเศษ และโบราณสถานที่กลายเป็นมรดกโลกหลากหลายแห่งรอให้เราไปเยี่ยมชม โดยเฉพาะ 5 แห่งที่เราได้คัดมาต่อไปนี้
5. ป้อมปราสาท Zakimi
ป้อมปราสาท Zakimi แห่งนี้ เป็นป้อมปราสาทที่ช่วยให้อาณาจักรริวกิวเป็นปึกแผ่น ถูกสร้างขึ้นโดยขุนศึกผู้แกล้วกล้า Gosamaru ผู้ทุ่มเทชีวิตในการรักษาความสงบเรียบร้อยของอาณาจักรหลังจากที่อาณาจักรริวกิวถูกรวมเป็นหนึ่ง ปราสาทนี้ถูกสร้างเสร็จในปีค.ศ. 1420 โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาการณ์จากกองทัพฝ่ายต่อต้าน ถึงแม้ว่าตัวป้อมปราสาทจะไม่ใหญ่นัก แต่ไม่มีปราสาทใดในโอกินาวาที่สามารถเทียบเทียมความประณีตและสวยงามของการจัดเรียงหินแบบที่นี่ได้ นับเป็นโบราณสถานอันมีค่าที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของเทคนิคการสร้างสถาปัตยกรรมจากหินในสมัยนั้น
4. สุสาน Tamaudun
สุสาน Tamaudun เป็นสุสานที่กษัตริย์ริวกิวหลับไหลอยู่หลายชั่วรุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 1501 ในยุคของกษัตริย์ Shin-syo ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเป็นยุครุ่งเรื่องสูงสุดของราชอาณาจักรริวกิว ตัวสุสานสร้างด้วยหินขนาดใหญ่ โดยว่ากันว่าใช้ปราสาท Shuri เป็นต้นแบบ มีห้องสุสานเก็บกระดูก 3 ห้องเรียงจากตะวันออกไปยังตะวันตก และมีกำแพงหินสูงล้อมรอบ สุสาน Tamaudun นี้ยังถูกเลือกให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ ในฐานะที่เป็นตัวอย่างอันมีค่าของอนุสรณ์สิ่งปลูกสร้างด้วยหินที่มีลักษณะเฉพาะที่ถูกสร้างในยุคราชอาณาจักรริวกิว
3. สวน Shikina-en
สวน Shikina-en เป็นที่ประทับของราชวงศ์ที่แยกตัวออกมา ถูกสร้างขึ้นในปี 1799 โดยใช้เป็นที่เลี้ยงรับรองทูตของจักรพรรดิจีน ในช่วงศตวรรษที่ 15 -16 ริวกิวมีความเจริญรุ่งเรืองในฐานะ เขตการค้าแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เพราะว่าตั้งอยู่ระหว่าง จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจได้ตั้งนโยบายการทูตพิเศษที่เรียกว่า “Sappo” และเมื่อจะทำการค้า “กษัตริย์ริวกิว” ต้องได้รับการยอมรับจากจักรพรรดิจีนก่อน โดยทางริวกิวเองทุกครั้งที่กษัตริย์ใหม่ขึ้นครองราชย์ ทูตประจำประเทศของจักรพรรดิจีนจะถูกส่งมาเพื่อถือพระราชโองการอนุมัติพระราชาองค์ใหม่มามอบให้ และจัดการเลี้ยงรับรองทูตประจำประเทศที่สวน Shikina-en นี่เอง
2. ซากปราสาท Shuri
ปราสาท Shuri เป็นปราสาทอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของอาณาจักรริวกิว โดยเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์หลังจากที่อาณาจักรริวกิวถูกรวบรวมเป็นหนึ่ง ถือว่าเป็นปราสาทที่เป็นศูนย์กลางของทั้งการเมืองภายใน การต่างประเทศ โดยพื้นที่ภายในของปราสาทชูริถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆคือ ส่วนที่ใช้ทำพิธีการทางศาสนา ส่วนพื้นที่ส่วนตัวสำหรับเหล่าราชวงศ์ และส่วนที่มีสิ่งก่อสร้างหลักๆ ตั้งอยู่และเป็นส่วนที่ใช้บริหารบ้านเมือง โดยตัวปราสาทหลักสีแดงชาดและบริเวณสวนนั้น เกิดจากการผสมผสานงานสถาปัตยกรรมของจีนและญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันนับเป็นสถาปัตยกรรมจากไม้ที่ใหญ่ที่สุดใน Okinawa เลยทีเดียว
1. ซากปราสาท Katsuren
ปราสาท Katsuren นั้นเคยเป็นปราสาทโบราณที่ตั้งสง่างามอยู่บนผาหิน ตัวกำแพงของปราสาทจะสร้างโดยการก่อหินไปจนถึงส่วนที่เป็นหน้าผาเพื่อใช้ภูมิประเทศตามธรรมชาติให้เกิดประโยชน์ และมีตัวปราสาทอยู่ด้านในสุดที่บริเวณนี้นอกจากจะมีการขุดค้นพบกระเบื้องญี่ปุ่นสมัยโบราณแล้ว ยังมีการเจอร่องรอยของการขุดพื้นหินเพื่อเจาะรูเสาอีกเช่นกัน จุดเด่นก็คือ การที่หลังคาของปราสาทแห่งนี้เป็นหลังคากระเบื้อง ซึ่งจัดว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในสมัยนั้น ก็ทำให้เราได้รู้ดีเลยว่าปราสาทนี้เคยมีความรุ่งเรืองมากเพียงใด
- th.visitokinawa.jp (ภาษาไทย)