5 ความต่างระหว่างเรียวกังและโรงแรม

ญี่ปุ่นมีสถานที่ให้บริการที่พักนักท่องเที่ยวรวมแล้วมากกว่า 80,000 แห่ง แบ่งออกได้เป็นโรงแรมกว่า 10,000 และเรียวกังอีกว่า 50,000 ที่เหลือก็จะเป็นพวก hostel เล็กๆ รวมถึงบ้านพักเล็กๆ ว่าแต่ว่าโรงแรมกับเรียวกังมันแตกต่างกันยังไงล่ะ? ลองไปอ่านดูคำตอบกัน
By ขนมโตเกียว1. ตามกฏหมาย

ตามกฏหมายแล้ว เรียวกังนั้นจะหมายถึงที่พักที่ใช้โครงสร้างอาคารรวมทั้งของใช้ภายในเป็นของแบบญี่ปุ่น ในขณะที่โรงแรมจะหมายถึงที่พักที่ใช้โครงสร้างอาคารรวมทั้งของใช้ภายในเป็นของแบบตะวันตก (หรือสไตล์ของประเทศอื่นๆ) หรือแปลง่ายๆ ก็คือเรียวกังจะเป็นที่พักแบบใช้ฟูกญี่ปุ่น (Futon) บนพื้นห้องที่เป็นเสื่อญี่ปุ่น (Tatami) และต้องใช้ประเพณีธรรมเนียมแบบญี่ปุ่นในการเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการถอดรองเท้าก่อนเข้าต่างๆ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เรียวกังหลายๆ ที่ก็เรียกตัวเองว่าเป็นโรงแรม และโรงแรมหลายๆ ที่ก็เรียกตัวเองว่าเป็นเรียวกัง การจะขีดเส้นแบ่งอาจจะยากไปหน่อย
2. การบริการลูกค้า

ความต่างที่สุดระหว่างเรียวกังและโรงแรมก็คือการให้บริการลูกค้า โดยปกติแล้ว ถ้าเป็นโรงแรมก็จะมีฟร้อนท์ และมีอาหารให้ในร้านอาหารภายในโรงแรม พนักงานโรงแรมจะไม่ค่อยเข้ามาในห้องของแขก แต่กลับกัน เรียวกังจะมีอาหารมาเสริฟให้ถึงในห้อง และพนักงานก็จะมีการพูดคุยกับแขกบ่อยครั้งกว่า
3. ที่มา

เรียวกังมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ในยุคสมัย Nara ที่พระจะสร้างที่พักเอาไว้ให้นักแสวงบุญให้ได้มาพักระหว่างเดินทางเพื่อความปลอดภัย ที่พักสำหรับนักแสวงบุญจึงถือกำเนิดขึ้นมากมายหลังจากนั้น และได้เปลี่ยนแปลงพัฒนาเป็นที่พักอื่นๆ สำหรับนักเดินทางรวมถึงเจ้าครองแคว้นต่างๆ และหลังจากนั้นแขกชาวต่างชาติก็เพิ่มขึ้นในสมัยปลาย Edo ที่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดประเทศ จึงทำให้ที่พักเหล่านั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองให้รองรับแขกฝรั่ง จนกลายมาเป็นโรงแรมนั่นเอง
4. ห้องพัก

คงไม่ต้องพูดถึงว่าความต่างที่เห็นได้ชัดในห้องพักเลยก็คือ ห้องพักในเรียวกังจะเป็นแบบเสื่อญี่ปุ่น (tatami) ที่แขกที่มาพักจะนอนบนฟูกญี่ปุ่น ห้องส่วนมากมักจะมีขนาดตั้งแต่ 8 เสื่อไปจนถึง 12 เสื่อ บางทีก็จะมีเตียงแทน futon ที่พึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาไม่กี่ปีนี้เอง คล้ายๆ จะเป็นลูกผสม แต่ก็ยังคงความเป็นเสื่อ tatami เอาไว้อยู่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ที่นอนภายในโรงแรมจะเป็นเตียงแสียส่วนใหญ่
5. Omotenashi
Omotenashi เป็นบริการเฉพาะแบบเรียวกังแท้ๆ นั่นคือเพื่อนำเสนอบริการสูงระดับให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนที่มีความต้องการและอาชีพที่แตกต่างกัน ซึ่งต่างจากโรงแรมที่จะให้บริการแบบตามมารตฐาน โดยทางเรียวกังจะอาศัยการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อจะเรียนรู้รสนิยมและความต้องการลูกค้านั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสริฟอาหารที่ถูกปากลูกค้านั้นๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้เรายังจะได้ยินพนักงานเรียวกังแนะนำเราเสมอๆ ว่า วันนี้อะไรสวย อะไรอร่อย อยากจะให้ได้ลองดูลองชิม เพราะว่าเรียวกังมักจะอยากนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของตอนนั้นให้กับลูกค้ามากกว่าจะให้บริการตามมารฐานนั่นเอง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า Omotenashi ของญี่ปุ่น