ราเม็งที่ทั้งร่านมีให้เลือกชนิดเดียวคือ อะยุราเม็ง เป็นราเม็งที่โปะหน้าด้วยปลาอะยุ แบบทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดหาง แน่นอนว่าน้ำซุปก็เป็นน้ำซุปที่เคี่ยวจากปลาอะยุและกระดูกไก่เช่นกัน จึงให้รสกลมกล่อม และสดชื่น เรียบง่าย เริ่มกินเมื่อไรหยุดยาก!

ราเม็งเส้นหนาใหญ่ โปะหน้าด้วยใบ basil ชีส และมะเขือเทศ ไม่ว่าดูยังไงก็เป็นเครื่องพิซซ่านี่นา! ใช่แล้วเพราะว่านี่เป็นราเม็งของร้านอาหารอิตาลี กลายมาเป็นราเม็งลูกผสมสุดแปลกใหม่ รสชาติจะเป็นยังไงนั้นคงต้องไปลองกันเอง

ราเม็ง 1 ชามนั้นจะประกอบไปด้วยวิตามินของมะนาว 1 ลูก หน้าตาพิลึกขนาดนี้แต่กลับเป็นที่นิยมของสาวๆ มากๆ ขนาดแถวยาวตลอดเวลาทุกวันเลยทีเดียว เพราะความเปรี้ยวของมะนาวช่วยเพิ่มความสดชื่นของน้ำซุป และวิตามินเต็มเปี่ยมช่วยบำรุงผิวพรรณด้วยไง

แค่เห็นก็งงแล้ว นี่คือพาย + Tsukemen กลายมาเป็นราเม็งสายพันธุ์ใหม่ โดยในพายนั่นห่อไปด้วยเครื่องและน้ำซุป tsukemen ให้เคาะส่วนบนของพายออกแล้วเอาเส้นจุ่มเข้าไป กินแบบ tsukemen ธรรมดา แต่ให้ความรู้สึกแตกต่างปนสนุกไปอีกแบบ

การผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างมิโสะกับชีส ที่โปะชีสอย่างไม่มียั้งบนราเม็งซุปมิโสะ ชีสจะค่อยๆ ละลายไประหว่างกิน ค่อยๆ เพิ่มรสชาติและกลิ่นชีสให้กับซุปมิโสะ ถ้าใครได้ลองแล้วรับรองว่าจะติดใจ

ร้านนี้เป็นร้านราเม็งที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำซุปต้กระดูกหมูเข้มข้นที่ใส่สัปปะรด ทำให้มีรสอมเปรี้ยวสดชื่น แต่นอกจากสัปปะรดแล้ว ยังมีครีมสตรอเบอร์รี่โปะหน้าแถมประดับด้วยสตรอเบอร์รี่อีกต่างหาก ส่วนรสชาติน่ะเหรอ อืม ซับซ้อนมากๆ แต่ไม่ได้แย่อย่างที่คิดหรอกนะ

น้ำซุปจะเป็นรสชาติคล้ายๆกาแฟใส่นม รสจะออกหวานพอสมควร แต่ก็ยังมีรสเค็มของน้ำซุปราเม็งอยู่ จึงกลายเป็นรสชาติสุดซับซ้อนเกินบรรยาย แล้วถ้ายิ่งไอศรีมที่โปะอยู่ข้างบนละลายลงมาผสมแล้ว ความหวานก็ยิ่งเพิ่ม จริงๆ แล้วให้ความรู้สึกเหมือนกินของหวานมากกว่า เรียกว่าก้าวข้ามผ่านเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างของหวานกับของคาวไปเป็นของที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย

ราเม็งนี้เปลี่ยนสีได้ระหว่างกิน เพราะจากการเคี่ยวผักกาดม่วงลงไปกับน้ำซุป ทำให้ตอนแรกมีสีม่วง และถ้าลองเหยาะน้ำส้มสายชูลงไปแล้ว น้ำส้มสายชูจะไปทำปฏิกริยาทางเคมีกับผักกาดม่วง จึงทำให้น้ำซุปเปลี่ยนเป็นสีชมพู นี่เรียกว่าข้ามเขตอาหารไปสู่วิทยาศาสตร์แล้ว