โดยปกติแล้วเราสามารถจองที่นั่งบนรถบัสได้ออนไลน์แบบง่ายมากๆ ตามเว็บไซท์ต่างๆ แถมมีภาษาอังกฤษด้วย อย่างเช่นเว็บ WILLEREXPRESS หรือจะไปซื้อที่เคาน์เตอร์ตัวแทนจำหน่าย JR Highway Bus ที่หน้าสถานี Tokyo ทางออก Yaesu ก็ได้ นอกจากนี้ สามารถซื้อแล้วขึ้นภายในวันนั้นได้เลยเช่นกันถ้ายังมีที่นั่งเหลือ บางบริษัทก็รับจองทางโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน

ราคาแพงหรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่จะไป บริษัทรถบัส รวมถึงประเภทของรถบัส ยิ่งรถบัสหรูสบายเท่าไหร่ก็ยิ่งแพง (ถ้าเลือกหรูสุดๆ บางทีก็เกือบๆ เท่าชินคันเซ็นหรือเครื่องบินเลยล่ะ) แต่ถ้ารถบัสมาตรฐานทั่วๆ ไปแล้ว ราคาสู้ไหวแน่นอน ราคาปกติแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,500 เยนไปจนถึง 13,000 เยน โดยราคาจะแพงขึ้นนิดหน่อยในวันก่อนวันหยุด อย่าง Tokyo ไป Osaka ราคารถบัส (แบบนั่งสบาย ไม่หรูมาก) ราคาเที่ยวละประมาณ 3,500 เยน ในขณะที่ชินคันเซนตกเที่ยวละ 14,890 เยน

รสบัสใช้เวลาเดินทางนานกว่า Shinkansen และรถไฟธรรมดา อย่างเช่น ถ้าสตาร์ทที่โตเกียว
ไปบริเวณภูเขา Fuji : ใช้เวลาประมาณ 2.5 ชม.
ไป NAGOYA : ใช้เวลาประมาณ 5 ชม.
ไป KYOTO & OSAKA : ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชม.
ไป HIROSHIMA : ใช้เวลาประมาณ 12 ชม.
แต่กำไรของการนั่งรถบัสก็คือ Shinkansen ไม่สามารถเดินทางตอนกลางคืนได้ แต่คุณสามารถขึ้นรถบัสตอนกลางคืน นอนหลับบนรถบัส และไปถึงจุดหมายในตอนเช้าแล้วเที่ยวต่อได้เลย ประหยัดค่าโรงแรมไป 1 คืน แถมประหยัดเวลาเดินทางได้อีก ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลยใช่ไหมล่ะ

ในกรณีรถบัสธรรมดา การนอนบนรถบัสอาจจะไม่สะดวกสบายนอนโรงแรม แต่ก็รับรองว่าสบายกว่าเครื่องบินชั้น economy แน่ๆ เพราะยืดขาได้สุด เอนได้มากกว่าจนแทบจะนอนได้เลย มีม่านกั้นแต่ละที่นั่ง มีที่วางเท้า ปิดหน้าต่างมืดสนิท เงียบ สบาย และบางบริษัทก็มีที่ชาร์จแบตและมีทีวีประจำที่นั่งด้วย มีห้องน้ำสะอาดภายในรถ และบางรอบก็เป็นรถบัสแบบหญิงล้วนอีกต่างหาก นี่พูดถึงรถบัสชั้นธรรมดา ไม่ใช่แบบหรูนะ

ถ้าอยากเที่ยวหลายๆ เมืองแบบชิลๆ มีงบประมาณพอควร และแต่ละเมืองอยู่ไกลกันมากๆ ก็ขอแนะนำให้เลือก Shinkansen และซื้อ JR Rail Pass มาจากไทยดีกว่า เพราะจะขึ้นได้คุ้มค่ากว่า แต่ถ้าอยากประหยัดเงินและเดินทางตอนนอนเพื่อประหยัดเวลา ขอให้เลือกรถบัสเลย ถ้าเป็นรถบัสสองชั้น ถ้าเลือกชั้นล่างก็อาจจะไม่ได้เห็นวิว แต่เอาเถอะ ยังไงก็นอนเอาแรงไปเที่ยวต่ออยู่ดีแหละ สนุก สบาย แถมได้ประสบการณ์ด้วยนะ