แฟชั่น 9 สไตล์ของหนุ่มญี่ปุ่น
หนุ่มญี่ปุ่นก็ช่างแต่งตัวไม่แพ้สาวๆ เลยเหมือนกัน จุดเด่นของแฟชั่นคนญี่ปุ่นก็คือ แต่ละคนมีสไตล์ที่ชัดเจนของตัวเอง แบรนด์ต่างๆ ก็สร้างทางเลือกทางเสื้อผ้าสำหรับแต่ละสไตล์มากขึ้น หลายๆ คนจึงสนุกกับการแต่งตัวมากขึ้นนั้นเอง นั่นทำให้เราเห็นหนุ่มๆ ญี่ปุ่นแต่งตัวกันหลากหลาย และสไตล์เหล่านั้นมันมีมากเกินกว่าจะสาธยายได้หมด คราวนี้เอาเด่นๆ 9 สไตล์ไปดูก่อนนะ
1. สไตล์เรียบง่ายดูดี (Kireime-kei)
คำว่า Kireime หมายถึง ดูดีหน่อย ดูสวยหน่อย นั่นคือหนุ่มสไตล์นี้จัดว่าเป็นหนุ่ม preppy นั่นเอง แต่จะพยายามทำทุกอย่างให้กลมกลืนไม่มีอะไรหลุดโดดเด่นออกมา เสื้อผ้า ผม และ accessory ต่างๆ ก็จะเน้นที่ความเนี๊ยบแต่ก็ไม่หรูและไม่เป็นทางการเกิน เรียกได้ว่าเป็นสไตล์มาตรฐานของหนุ่มญี่ปุ่นทั่วๆ ไปเลย
2. สไตล์หนุ่มร้านเสริมสวย (Biyo-Kei)
Biyo-Kei คำว่า Biyo หมายถึงร้านเสริมสวย นั่นคือเป็นสไตล์ของหนุ่มๆ ที่ทำงานหรือเรียนเกี่ยวกับการเสริมสวย เราคงจะเคยเห็นว่าช่างทำผมผู้ชายหลายคนเก่งกว่าช่างผู้หญิงใช่ไหมล่ะ โดยหนุ่มๆ สไตล์นี้จะเน้นการผสมผสานแบรนด์ราคาแพงเข้ากับแบรนด์ทั่วๆ ไป และเน้นไปที่เครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็นหมวก ผ้าพันคอ เข็มขัด และแน่นอนว่าการจัดแต่งทรงผมจะต้องเป๊ะแบบไม่เป็นรองใคร
3. สไตล์เรียบหรูดูดี (Mode-Kei)
แน่นอนว่าหนุ่มสไตล์ Mode จะมีลิสต์แบรนด์ high-end ทั้งหมดอยู่ในมือพร้อมจะอัพเดทว่าแบรนด์อะไรออกอะไรใหม่ และจะหามาครอบครองเป็นคนแรก พวกเขาจะมองแต่สูทของแบรนด์หรูอย่าง Prada หรืกระเป๋าของ Dior Homme ซึ่งถ้าดูเผินๆ อาจจะเหมือน Kireime-Kei แต่ต่างกันตรงราคาและแบรนด์ที่สูงลิบลิ่วต่างชั้นกันนั่นเอง
4. สไตล์วิชัวล์ (Visual-kei)
Visual-Kei เป็นแฟชั่นที่ยึด subculture ด้านแพลงเป็นหลัก มีรากมาจาก J rock โดยส่วนใหญ่จะผสมการแต่งตัวของ punk และ rock รวมถึง gothic เข้าด้วยกัน สังเกตุง่ายๆ คือทรงผมที่ไม่ทองก็จะดำไปเลยและเซ็ทแบบดูเป็นหนุ่ม rock บวกกับเมคอัพหนาหนัก เครื่องประดับอย่างถุงมือหนัง แว่นดำใหญ่ๆ กำไลข้อมือติดหนามต่างๆ ก็ขาดไม่ได้
5. สไตล์กึ่งวินเทจ (Urahara kei)
Uraraha หรือ Ura Harajuku ที่หมายถึงด้านหลังของ Harajuku นั่นเอง ฉะนั้นเสื้อผ้าก็จะต่างจาก Harajuku ธรรมดาคือจะเน้นเป็นเสื้อผ้าแบบวินเทจ mix เข้ากับเสื้อผ้ายี่ห้อที่มีอยู่ใน Harajuku มักจะใส่เสื้อผ้าทับหลายชั้น รองเท้าผ้าใบรุ่นใหม่สุด และบางทีก็จะมีเครื่องประดับแปลกๆ เหมือนเป็น hipster ของญี่ปุ่นนั่นเอง
6. สไตล์ร็อค-แอนด์-โรลล์ (Rockabilly)
Rockabilly เป็นสไตล์ subculture ของคนที่ชอบแฟชั่น rock'n roll ของอเมริกาในยุค 50s และพวกเขาเก็บรายละเอียดมาได้อย่างครบ ไม่ว่าจะเป็นผมทรงเสยไปด้านหลังหมด แจ็คเก็ตหนังและกางเกงหนังสีดำ รวมถึงท่าเต้นโดยส่วนใหญ่ชาว Rockabilly จะรวมตัวกันในสวนสาธารณะ Yoyogi ถ้าใครสนใจก็ไปร่วมแจมได้
7. สไตล์ Gyaru-o (Gyaru-o)
เราอาจจะเคยได้ยินสไตล์สาว Gyaru ของผู้หญิงมาแล้ว นี่คือสไตล์ Gyaru ของผู้ชาย ที่เรียกว่า Gyaru-o (o ที่ต่อหลังคือตัวอักษรคันจิที่แปลว่า ผู้ชาย นั่นเอง) แน่นอนว่าแรงไม่แพ้ฝ่ายหญิงเลย ทั้งทรงผมหลากสี แต่งทรงกันแบบใช้สเปรย์หมดกระป๋อง อาบผิวดำ แต่งหน้ากันแบบหลุดโลก นอกจากนี้ Gyaru-o ยังแบ่งย่อยออกไปเป็น military, rocker และ biker ต่างๆ ได้อีกหลายแขนง
8. สไตล์พี่ชาย (Onii-kei)
Onii-kei ส่วนใหญ่จะใส่เสื้อผ้าสีเข้มๆ ผมสีอ่อน ถ้าเป็นเสื้อยีดก็จะเป็นเสื้อยืดพอดีตัวที่เว้าคอลึก มักจะมีโซ่คล้องตรงเอว อาจจะคล้ายๆ Gyaru-o แต่จะดูเป็นคนธรรมดามากกว่า เป็นสไตล์ยอดฮิตของหนุ่ม host club ในญี่ปุ่น และบางทีก็จะผสมของแบรนด์หรูเข้าไปในรายละเอียด อย่างกระเป๋าตังค์ Chanel หรือกระเป๋าถือของ Vuitton
9. สไตล์สตรีท (Street-kei)
หนุ่มๆ Street-Kei รู้ทันเทรนด์จากทั่วโลก และของใช้ส่วนใหญ่จะมียี่ห้อ โดยผสมของวินเทจน้อยหว่าหนุ่ม Urahara-Kei รองเท้าผ้าใบรุ่นล่าสุด กางเกงแบรนด์ street wear และหมวกแก็ปแนวฮิปฮอป และ accessory สไตล์สเก็ตบอร์ดก็เป็นจุดสังเกตุง่ายๆ ของหนุ่มสไตล์นี้เช่นกัน แบรนด์ที่พวกเขาชอบมักจะเป็นแบรนด์ที่มี culture ควบด้วยอย่าง Supreme หรือ Bape
- www.complex.com (อังกฤษ)