6 เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับหิมะในญี่ปุ่น

เมืองร้อนที่ไม่มีหิมะตกแม้แต่นิดเดียวอย่างประเทศไทยนั้น จะให้คนไทยเข้าใจการใช้ชีวิตของคนเมืองหิมะก็คงจะยาก เหมือนกับที่คนญี่ปุ่นไม่รู้วิธีรับมือกับยุงลาย ฉันใดก็ฉันนั้น ฉะนั้นเราลองมาอ่าน 6 เกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับหิมะในญี่ปุ่นกันดีกว่า
By ขนมโตเกียว1. วิธีเดินบนหิมะไม่ให้ลื่น
คนฮอกไกโดชินกับการเดินหิมะกันมากๆ ขนาดใส่ส้นสูงวิ่งกันได้ไม่ล้มด้วย เคล็ดลับก็คือ เวลาก้าวเท้าลง ให้พยายามเดินลงทั้งฝ่าเท้า อย่าลงแต่ส้น แล้วก็พยายามมองพื้นระหว่างเดิน และก้าวแคบๆ อย่ากว้างมากเพราะจะได้ควบคุมการลงน้ำหนักตัวได้ดีกว่า ประเด็นก็คือต้องมีสติเข้าไว้ หรือไม่ก็สามารถหาซื้อ Shoes Spike หรือยางติดสตัดที่เอาไว้รัดพื้นรองเท้าไม่ให้ลื่น เดี๋ยวนี้มีแบบสำหรับรัดรองเท้าส้นสูงขายแล้วเช่นกัน หาซื้อได้ทั่วไปในเมืองหนาว
2. ญี่ปุ่นมีผีหิมะด้วย
Yuki Onna หรือแปลว่า ผู้หญิงหิมะ เป็นเรื่องของภูติผีหิมะที่เล่าสืบต่อกันมาในจังหวัด Nagano และ Toyama เป็นเรื่องของนายพรานที่ไปเจอ Yuki Onna ในภูเขา และถูก Yuki Onna ขู่ว่าถ้าเอาเรื่องของเธอไปบอกใคร เธอจะตามไปฆ่า มีอยู่วันหนึ่ง นายพรานเผลอพูดเรื่องนี้ออกไปให้ภรรยาฟัง ภรรยาของเขาก็พลันแปลงร่างเป็น Yuki Onna และพยายามจะฆ่านายพราน แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนเพราะความรัก และหายตัวไปกับหิมะที่ตกหนักภายนอก เหมือนๆ จะน่ากลัวแต่ก็เป็นเรื่องของความรักที่อ่านแล้วก็โล่งอกในตอนจบเหมือนกันนะ
3. เรามีโอกาสจะได้เห็นหิมะกับซากุระได้พร้อมๆ กัน
เมื่อหมดฤดูหนาว อากาศเริ่มอุ่นแล้วดอกซากุระถึงจะบาน นี่เป็นลำดับทั่วๆ ไปของฤดูกาลญี่ปุ่น ซึ่งช่วงก่อนซากุระบานนั้นมักจะมีฝนปรอยๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ อันนี้เป็นเรื่องปกติ แต่บางปีก็เกิดสภาพอากาศแปรปรวนคืออยู่ๆ ก็มีอากาศหนาวพัดเข้ามาในญี่ปุ่นช่วงที่มีฝนพอดี ทำให้เกิดเป็นหิมะตกลงมาทับถมบนดอกซากุระ กลายเป็นทิวทัศน์สีชมพู-ขาวที่งดงามที่หาดูได้ยาก
4. เมืองหิมะก็สิ้นเปลืองเงินทองเหมือนกันนะ
เมืองที่มีหิมะเยอะๆ นั้น นอกจากจะเกิดอันตรายจากหิมะถล่มได้ง่ายแล้ว ยังต้องเสียเงินเสียทองไปกับการจัดการมันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการกวาดหิมะก็ต้องใช้เครื่องมืออย่างที่ตักหิมะ ถ้ามากหน่อยก็คงจะต้องมีรถตักหิมะ ไหนจะค่าแรง ค่าน้ำมันอีก นอกจากนี้คนมีรถก็ต้องคอยหมั่นเช็คและเปลี่ยนล้อรถให้เป็นล้อฤดูหนาวพร้อมรับความลื่นของถนนหิมะอีกด้วย ปัญหาเยอะมากมายอย่างนี้บางทีก็คิดว่า เป็นเมืองร้อนอย่างบ้านเราก็สบายดีเหมือนกันเนอะ
5. ให้ทายว่าเมืองอะไรของญี่ปุ่นที่ไม่มีหิมะเลยแม้แต่ก้อนเดียว

คำถามนี้อาจจะง่ายเกินไปถ้าคุณรู้จักจังหวัด Okinawa เพราะ Okinawa เป็นจังหวัดที่อยู่ตอนใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ กว่า 160 เกาะ สภาพอากาศก็จะคล้ายๆ บ้านเราเลย คือภูมิอากาศโดยทั่วไปเป็นพื้นที่ที่มีความอบอุ่น มีความหลากหลายทางธรรมชาติ มีประการังที่สวยงามและสัตว์หายากมากมาย ฉะนั้นไม่แปลกเลยที่ปริมาณหิมะจะเป็น 0
6. หิมะแรก และหิมะสุดท้าย
ญี่ปุ่นมีระบบการบันทึกช่วงเวลาระหว่างหิมะแรกและหิมะสุดท้ายของปีเอาไว้ หิมะแรกก็คือหิมะที่ตกครั้งแรกของฤดูหนาวหรือที่เรียกว่า Hatsuyuki และเมื่ออากาศอุ่นขึ้น หิมะก็จะหยุดตก โดยหิมะที่ตกเป็นครั้งสุดท้ายของฤดูหนาวนั้นจะถูกเรียกว่าหิมะสุดท้ายหรือ Shusetsu
เมืองที่มีระยะระหว่างหิมะแรกและหิมะสุดท้ายที่ห่างที่สุดของญี่ปุ่นคือเมือง Wakkanai จังหวัด Hokkaido เมืองที่เหนือที่สุดของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง โดยหิมะแรกจะเริ่มตกตั้งแต่ช่วงปลายๆ เดือนตุลาคม และหิมะสุดท้ายคือต้นเดือนพฤษภาคม รวมๆ มีระยะห่างเกือบ 200 วันต่อปีเลยทีเดียว นั่นแปลว่ามีฤดูหนาวจัดยาวนานมากกว่าครึ่งปี
ส่วนโตเกียว มีระยะห่างเพียง 68 วัน และโอซาก้ามีระยะห่างประมาณ 80 วัน