รู้จักกับคิทแคทญี่ปุ่น
1. จนถึงปัจจุบัน ญี่ปุ่นมีคิทแคทมากกว่า 300 แบบ!!
ตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มเปิดตัวคิทแคทในปีค.ศ. 1973 ญี่ปุ่นไม่ได้มียอดขายที่ดีกว่าประเทศอื่นเท่าใดนัก แต่ในปัจจุบันญี่ปุ่นมียอดขายคิทแคทอยู่ที่อันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียงประเทศต้นตำหรับอย่างอังกฤษเท่านั้น! คุณรู้มั้ยว่าที่ญี่ปุ่นมีคิทแคทกี่แบบ? คำตอบคือ มากกว่า 300!
2. ญี่ปุ่นมีร้านขายคิทแคทโดยเฉพาะด้วยนะ!
"คิทแคท" เป็นแบรนด์ที่โด่งดังและมีวางขายในหลายพื้นที่และประเทศต่างๆกว่าร้อยแห่งทั่วโลก อย่างไรก็ตามที่ห้างในประเทศญี่ปุ่น ได้ริเริ่มร้าน "KIT KAT Chocolatory" ขึ้นเป็นแห่งแรกของโลก ที่ร้านแห่งนี้มีสินค้าเฉพาะที่ไม่มีขายที่อื่น รวมถึงคิทแคทรุ่นพรีเมี่ยมต่างๆ โดยมี ทาคากิ ยาสุมาซะ ผู้มีดีกรีเป็นถึงโอนเนอร์เชฟของร้าน "Le Patissier Takagi" ผู้มีส่วนร่วมในการพัฒนา "คิทแคท" ตั้งแต่ปีค.ศ. 2003 เป็นต้นมา และยังเป็นผู้ดูแลการพัฒนาสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งค้นพบเสน่ห์แบบใหม่ของ "คิทแคท" เป็นผู้ดูแลร้าน "KIT KAT Chocolatory" แห่งนี้
ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นไป คุณสามารถสั่งซื้อสินค้าของร้าน "KIT KAT Chocolatory" ได้ที่นี่
3. คิทแคทญี่ปุ่นมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆตลอดเวลา
เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าต่างชาติ คิทแคทได้พัฒนารสชาติใหม่ คือ รสสาเก หรือ เหล้าญี่ปุ่นนั่นเอง โดยจะเริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป
นับได้ว่าเป็นครั้งแรกของบริษัทเนสท์เล่ ในการนำรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของช็อกโกแลตกับสาเกมาผสมผสานเข้าด้วยกัน โดยให้ทั้งพนักงานและชาวต่างชาติทดลองชิมเพื่อนำไปพัฒนาจนสามารถผลิตคิทแคทที่มีรสชาติดีที่สุดออกมาได้
นอกจากนี้ ในช่วง 3 กุมภาพันธ์ ถึง 9 พฤษภาคม เป็นเวลาสามเดือน จะมีการเปิดกิ๊ฟท์ช็อปที่ร้าน Shisui Premium Outlets บริเวณชานเมืองใกล้สนามบินนาริตะ ในจังหวัดชิบะ
น่าลองแวะไปดูสักครั้งใช่มั้ยล่ะ?
4. คิทแคทญี่ปุ่นมีรุ่นที่ขายเฉพาะแต่ละจังหวัด
ในแต่ละท้องที่ของญี่ปุ่นจะมีสินค้าของขึ้นชื่อของเมืองที่เรียกว่า "คิทแคทประจำท้องถิ่น" ซึ่งคุณจะสามารถหาซื้อคิทแคทรุ่นนั้นๆได้ที่ร้านขายของฝากของท้องถิ่นนั้นๆเท่านั้น เหมาะสำหรับซื้อไปเป็นของฝากให้เพื่อน ครอบครัว เป็นที่ชื่นชอบมากในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยรสชาติของคิทแคทจะเป็นรสของของขึ้นชื่อเมืองนั้นๆ และยังถูกออกแบบแพ็คเกจให้มีภาพวิวทิวทัศน์หรือเอกลักษณ์ ของท้องถิ่นดังกล่าว สวยงาม น่ารัก เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากและของที่ระลึก
อาทิเช่น ที่ชินชู เป็น รสแอปเปิ้ลชินชู ที่เลี้ยงใต้ท้องฟ้าใสกระจ่างและน้ำบริสุทธิ์ ส่วนที่ชิซึโอกะเป็นรสวาซาบิ ของขึ้นชื่อเมืองอิซึ
และที่เกียวโต เนสท์เล่ได้ร่วมมือกับร้านอุจิมัทฉะเก่าแก่ "Itohkyuemon" ออกรสชาติ "มัทฉะ" "โฮจิฉะ" และอื่นๆที่สามารถหาได้ที่เกียวโตเท่านั้น เรียกได้ว่ามีแต่รสชาติแปลกใหม่ น่าสนใจ ไม่ควรพลาด
5. คิทแคทญี่ปุ่นมีที่ต้องเอาไปย่างก่อนกินด้วยนะ
ที่ญี่ปุ่นนั้นมีคิทแคทที่เพียงเอาเข้าไปอบในเตาอบ ออกมาก็จะได้คิทแคทรสชาติใหม่กลิ่นหอมละมุนที่ชื่อว่า "ยากิคิทแคท" หรือ คิทแคทย่างนั่นเอง เมื่อเอาเข้าเตาอบ ความนุ่มช็อกโกแลตและสัมผัสกรุบกรอบจะเด่นขิ้น ไม่ว่าจะอบน้อยหรืออบนานก็จะได้สัมผัสกับรสชาติแบบใหม่ของคิทแคทที่ไม่เคยลื้มลองมาก่อน
6. คุณสามารถทำคิทแคทออริจินัลแบบของคุณได้ที่ญี่ปุ่น
ตั้งแต่ญี่ปุ่นวางขายคิทแคทในปีค.ศ. 1973 เป็นต้นมา คิทแคทก็ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนมีบริการที่เรียกว่า Chocollabo KIT KAT ที่ให้คุณนำภาพออริจินัลของคุณเองมาปรินท์ลงแพ็คเกจของคิทแคทได้ แถมยังสามารถส่งข้อความให้คนที่คุณรักได้อีกด้วย
ถ้ามีคิทแคทออริจินัลเป็นของตัวเองคงแฮปปี้ไม่น้อยเลยทีเดียว มีโอกาสอย่าลืมลองทำ "Chocollabo KIT KAT" ดูนะ
7. ที่ญี่ปุ่นคิทแคทได้รับความนิยมในฐานะเครื่องรางสำหรับสอบเข้า
ในภาษาญี่ปุ่นคำว่าคิทแคท อ่านออกเสียงคล้ายๆกับคำว่า คิตโตะ คัทสึ ซึ่งแปลว่า ชนะแน่นอน! และด้วยเหตุนี้เอง มันจึงกลายเป็นที่นิยมขึ้นมาในบริเวณคิวชู และข่าวลือก็แพร่สะพัดไปในหมู่นักเรียนเตรียมสอบทั่วญี่ปุ่นในปี 2002
ในปัจจุบัน มีนักเรียนเตรียมสอบที่พกคิทแคทไปยังสนามสอบ และผู้ที่คอยให้กำลังใจนักเรียนเตรียมสอบอย่างครอบครัวและเพื่อน ก็ยังสามารถซื้อให้เป็นของขวัญ เพื่อให้กำลังใจอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่เรื่องสอบ แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรัก เรื่องกีฬา คิทแคทยังถูกใช้เป็นสิ่งค้ำจุนจิตใจ รวมถึงการให้กำลังใจและการขอบคุณ การส่งมอบความรู้สึกให้คนสำคัญ นับได้ว่าเป็นเครื่องมือในการสื่อความในใจที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมานาน
ไปตามดูเคล็ดลับข้อที่ 8 ทางทีวีกันเถอะ! ดาราตลกญี่ปุ่นคนดัง "วักกี้" จะพาคุณบุกเข้าไปในโรงงานคิทแคทที่ญี่ปุ่น
สามารถเช็คเนื่อหาคร่าวๆและประกาศอื่นๆของรายการ
ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ทางช่อง "ORIGINARU JAPAN"
ออกอากาศเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2016 ทางช่อง AMARIN
เวลา 15.30-16.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)