สนามบินนาริตะ (Narita International Airport) หากเปรียบเทียบกับสนามบินในไทยก็เหมือนกับสนามบินสุวรรณภูมิที่เน้นใช้งานในการบินเข้าออกระหว่างประเทศเป็นหลักของญี่ปุ่น ตั้งอยู่จังหวัดชิบะ (Chiba) เป็นปริมณฑลของญี่ปุ่น ซึ่งห่างตัวเมืองหลวงอย่างโตเกียว (Tokyo) จึงจำเป็นตั้งวางแผนการเดินทางอย่างรอบคอบทั้งในการเดินทางขาเข้าและขาออกประเทศญี่ปุ่น

โดยอาคารระหว่างประเทศของสนามบินนาริตะจะแบ่งออกเป็น 3 เทอร์มินอล แต่ละอาคารจะมีแผนผังจุดขึ้นรถโดยสารชนิดต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่

ชั้น B1F หรือชั้นใต้ดินของเทอร์มินอล 1-2 เป็นจุดขึ้นรถไฟสถานี สนามบินนาริตะ
ชั้น 1F ของเทอร์มินอล 1-3 เป็นจุดขึ้นรถบัสและรถแท็กซี่ทุกชนิด

*สำหรับผู้ที่อยู่ในเทอร์มินอล 3 แต่ต้องการเดินทางด้วยรถไฟ ต้องเดินเท้ามาตามทางเชื่อมอาคารเพื่อมาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟในเทอร์มินัล 2*
**เราสามารถเลือกขึ้นรถโดยสารสาธารณะที่จุดขึ้นลงรถตามอาคารที่กำหนดได้เลย โดยแต่ละอาคารจะมีสายการบินแตกต่างกัน โปรดตรวจสอบก่อนเดินทาง**

เป็นการเดินทางที่รวดเร็วที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางชนิดอื่น ข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟคือ ระยะเวลาที่แน่นอน สามารถวางแผนการเดินทางไปท่องเที่ยวต่อได้อย่างแม่นยำ ตรงกำหนดการ แล้วยังสามารถจองที่นั่งล่วงหน้าได้อีกด้วย แต่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงสักหน่อย ซึ่งรูปแบบของรถไฟที่เปิดให้เดินทางมาที่สนามบินนาริตะก็มีถึง 3 รูปแบบ ได้แก่

เวลาการเดินทาง：ใช้เวลาเร็วที่สุด 53 นาที(สนามบินนาริตะ～สถานีโตเกียว)
ราคาตั๋วโดยสารต่อใบ：ไป-กลับ ประมาณ 6,140-6,500 เยน/คน (เฉพาะเดินทางในโตเกียว) *ขึ้นอยู่กับปลายทางสถานีที่เลือก*
[Pass]N'EX TOKYO Round Trip Ticket：ผู้ใหญ่ 5,000เยน/คน เด็ก 2,500 เยน/คน

N’EX เป็นรถไฟด่วนพิเศษสำหรับเดินทางเข้าไปในเมืองโตเกียวตามสถานีต่าง ๆ ได้แก่ Tokyo Station, Shinjuku Station, Shibuya Station ฯลฯ มีทั้งแบบตั๋วรถไฟไปกลับและเที่ยวเดียวแบบจองล่วงหน้า และ พาสเดินทาง N'EX TOKYO Round Trip Ticket ซึ่งมีอายุ 14 วันนับจากวันรับพาสเดินทาง ซึ่งหากซื้อเป็นพาสเดินทางต้องสามารถระบุวันที่ขึ้นรถไฟได้นับตั้งแต่วันที่ซื้อตั๋วล่วงหน้าออนไลน์ โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน

แม้ค่าใช้จ่ายของตั๋วโดยสารนี้จะสูงสักนิด แต่ข้อดีของ N’EX ก็คือรูปแบบของการออกตั๋วที่ใช้งานง่ายเพราะเป็นระบบของ JR Pass สามารถไปออกตั๋วโดยสารที่ตู้อัตโนมัติสำหรับ Reserved Seat ได้เลย และระยะเวลาการใช้ตั๋วโดยสารที่ยาวนานแล้วยังสามารถปรับเลื่อนเวลาตั๋วได้ 1 รอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย นับว่าเป็นทางเลือกสำหรับการเดินทางที่คุ้มค่าเมื่อแลกกับความสะดวกสบายที่ได้รับนะ

・รายละเอียดเพิ่มเติมของ N'EX TOKYO Round Trip Ticket：

ใช้เวลาเดินทาง：ใช้เวลาเร็วที่สุด 36 นาที(สนามบินนาริตะ～สถานี Nippori)
ราคาตั๋วโดยสารต่อใบ：เที่ยวเดียว 2,570 เยน/คน ไป-กลับ 5,140 เยน/คน (เฉพาะเดินทางในโตเกียว)
[Pass]Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket：เที่ยวเดียว ประมาณ 2,890 - 3,590 เยน/คน
ไป-กลับ ประมาณ 4,880 - 5,580 เยน/คน

Keisei Skyliner รถไฟด่วนพิเศษของเอกชนที่เป็นรถไฟใต้ดินความเร็วสูงสำหรับเดินทางเข้าไปในเมืองโตเกียวตามสถานีรถไฟใต้ดินต่าง ๆ เช่นกัน ได้แก่ Keisei-Ueno Station, Nippori Station, Aoto Station ฯลฯ มีทั้งตั๋วเที่ยวเดียวและตั๋วไปกลับ แบ่งอายุการใช้งาน 3 แบบ ได้แก่ 24 ชั่วโมง, 48 ชั่วโมง, และ 72ชั่วโมง ราคาแต่ละรูปแบบจะแตกต่างกัน โดยสามารถซื้อตั๋วโดยสารได้จากทางออนไลน์และเอเจนซี่ตัวแทนจำหน่าย

ซึ่งเราแนะนำให้ซื้อพาสเดินทาง Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket โดยเราจะได้รับตั๋วโดยสารมา 2 ชนิดก็คือ ตั๋วโดยสาร Keisei Skyliner ตั๋วโดยสารรถไฟความเร็วสูงเข้าหรือออกจากสนามบินนาริตะ และ ตั๋วโดยสาร Tokyo Subway ที่สามารถใช้นั่งรถไฟใต้ดินโตเกียวได้ทุกสายไม่จำกัดรอบ สามารถขึ้นลงสถานีรถไฟใต้ดินได้ทุกสถานี ซึ่งนี่คือจุดแข็งของรถไฟ Keisei Skyliner ที่นอกเหนือจากความเร็วของรถไฟที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบกับทุกสายที่ใช้เดินทางมาสนามบินนาริตะ ทั้งนี้การใช้งานตั๋วโดยสารจะเป็นไปตามระยะเวลาที่ระบุไว้ หากใครที่ชอบความคุ้มค่ากับการเดินทางแนะนำตั๋วโดยสารนี้เลย

・รายละเอียดเพิ่มเติมของ Keisei Skyliner (Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket)：

ใช้เวลาเดินทาง：ใช้เวลาเร็วที่สุด 90 นาที(สนามบินนาริตะ～สถานีนาริตะ～สถานีโตเกียว)
ราคาตั๋วโดยสารต่อใบ：1,300 เยน/คน

รถไฟเจอาร์ด่วนธรรมดา เป็นสายที่เดินทางไปถึงสนามบินฮาเนะดะแล้วยังเข้าถึงใจกลางโตเกียว ซึ่งข้อดีของ 2 สายนี้ แน่นอนว่าต้องราคาถูกและเข้าถึงสถานีทั้งหลักและย่อย อาทิ Tokyo Station, Asakusa Station, Shinjuku Station ฯลฯ แต่ข้อเสียก็คือ ด้วยความที่เป็นรถไฟธรรมดาทำให้มีการจอดในทุกสถานีบริการ รวมถึงไม่มีเปิดให้จองล่วงหน้า การเดินทางอาจไม่แน่นอนถ้ามีผู้โดยสารหนาแน่นรวมถึงอาจไม่สะดวกสบายในการขนสัมภาระต่าง ๆ ขึ้นลง(โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน) ซึ่งทำให้อาจไม่เหมาะกับผู้ที่เดินทางกันหลายคนเป็นครอบครัวหรือผู้ที่ขนสัมภาระมาหนัก

**โปรดตรวจสอบตารางเวลารถไฟ JR Sobu Line(Rapid)/Narita Line ก่อนการเดินทาง**

รถบัสอาจดูเหมือนไม่สะดวกสบายเท่ารถไฟ แต่แท้จริงแล้วนั้นรถบัสมักมีรอบรถวิ่งค่อนข้างถี่และสายรถที่หลากหลายพอที่จะอำนวยความสะดวกได้ดีสำหรับผู้ที่พักในย่านที่เต็มไปด้วยโรงแรมและที่พัก หรือย่านที่คนใช้บริการเยอะ อาทิ Tokyo Station, Shinjuku, Ginza, หรือบริเวณป้ายใกล้เคียงที่พัก

แล้วอีกหนึ่งข้อดีก็คือเราสามารถแบ่งเบาภาระการขนสัมภาระขนาดใหญ่ เพราะมีเจ้าหน้าที่ช่วยยกขนของให้ตามบริการของรถบัส ไม่ต้องกังวลเลยว่าข้าวของจะเกะกะขวางทางคนเดินหรือไม่ สามารถจองล่วงหน้าได้ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ เอเจนซี่ตัวแทนจำหน่าย หรือ Walk-in ซื้อกับเคาท์เตอร์บริการรถบัสที่สนามบินเทอร์มินัลชั้น 1 ได้เลย

แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ：

ใช้เวลาเดินทาง：35 นาทีโดยประมาณ
ค่าเดินทางโดยประมาณ：1,400-3,600 เยน/คน [ขึ้น-ลงที่ป้าย Shinjuku Ekimae/BUSTA Shinjuku]

รายละเอียดเพิ่มเติมของรถบัสลีมูซีน：

ใช้เวลาเดินทาง：65 นาทีโดยประมาณ
ค่าเดินทางโดยประมาณ：1,300 เยน/คน [ขึ้น-ลงที่ป้าย Tokyo Ekimae-Airport Bus]

รายละเอียดเพิ่มเติมของรถบัสสนามบิน：

ใช้เวลาเดินทาง：60-90 นาทีโดยประมาณ ไปลงบริเวณสถานีโตเกียว
ค่าเดินทางโดยประมาณ：ขั้นต่ำประมาณ 15,000-30,000 เยน/คน ขึ้นอยู่กับระยะทางต่อกิโลเมตรและปลายทางในการเดินทาง

การใช้บริการแท็กซี่ญี่ปุ่นถือเป็นเรื่องที่ส่วนตัวและสะดวกสบายมากที่สุด ตั้งแต่เก้าเท้าขึ้นรถเราก็ไม่ต้องเปิด-ปิดประตูรถเอง เพียงแค่บอกจุดหมายที่ต้องการจะไปเท่านั้น

โดยแท็กซี่ที่ให้บริการนั้นก็แบ่งเป็น 2 แบบ：
・รถแท็กซี่สนามบิน (Airport transfers) คนขับนั้นสามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ ราคาค่าโดยสารถูกควบคุมโดยสนามบินทำให้ถูกกว่า เริ่มต้นที่ 15,000 เยนถึงโตเกียว ควรทำการจองล่วงหน้าก่อนกับทางสนามบิน
・รถแท็กซี่ทั่วไป (Regular taxi) รถแท็กซี่ทั่วไปที่ขึ้นตรงป้ายรถแท็กซี่ของสนามบิน กดมิตเตอร์ปกติคำนวนตามระยะทาง ค่าเดินทางสูงมาก

รายละเอียดรถแท็กซี่สนามบิน (Airport transfers)：