All About Japan

แนะนำ 1-Day Trip เส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe มือใหม่ก็ไปได้!

ภูเขา การเดินทาง Chubu
แนะนำ 1-Day Trip เส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe มือใหม่ก็ไปได้!

เจแปนแอลป์ (Japan Alps) เป็นจุดหายปลายทางที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากไปเยือนให้ได้สักครั้ง หากแต่หลายคนอาจยังคิดไม่ตกในการวางแผนเส้นทางเที่ยวเจแปนแอลป์ในครั้งนี้ว่าจะเริ่มจากจุดใด JR Pass รวมอยู่ในเส้นทางเจแปนแอลป์หรือไม่ จุดไหนบนเจแปนแอลป์น่าเที่ยวบ้าง ครั้งนี้เราได้รวมเส้นทางและจุดเที่ยวเจแปนแอลป์ที่ต้องไปให้ได้สักครั้งนึงมาให้คุณแล้วค่ะ

เจแปนแอลป์ (Japan Alps) คืออะไร

เจแปนแอลป์ (Japan Alps) คืออะไร

https://pixta.jp/

หากอยากชมวิวธรรมชาติอันสุดแสนอลังการ ไม่ต้องไปไกลถึงเทือกเขาแอลป์ (Alps) ในทวีปยุโรป เพราะที่ญี่ปุ่นเองก็มีวิวที่คล้ายคลึงกับสถานที่ดังกล่าวเช่นเดียวกัน จนได้รับฉายาว่าเป็น "เจแปนแอลป์ (Japan Alps)" โดยเจแปนแอลป์นั้นเป็นเทือกเขาสำคัญทางตอนกลางของเกาะฮอนชู (Honshu) แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
1. เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือหรือเทือกเขาฮิดะ (Hida Mountains)
2. เทือกเขาแอลป์ตอนกลางหรือเทือกเขาคิโสะ (Kiso Mountains)
3. เทือกเขาแอลป์ตอนใต้หรือเทือกเขาอะกะอิชิ (Akashi Mountains)

เบื้องต้นเกี่ยวกับเส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์

เบื้องต้นเกี่ยวกับเส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์

https://pixta.jp/

เส้นทางชมเจแปนแอลป์มีหลากหลายเส้นทางตามความต้องการของนักเดินทาง ทั้งเส้นทางเดินเทรลและปีนเขาชมวิวธรรมชาติ เส้นทางชมวิวโดยขนส่งสาธารณะแวะจุดเที่ยว บริการทัวร์นำเที่ยว เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวก็คือการปีนเขาและตั้งแคมป์นั่นเอง โดยช่วงเวลาที่เปิดให้เข้าไปท่องเที่ยวจะเปิดเหมือนกันตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน - 30 พฤศจิกายนของทุกปี หรือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงเดือนแรกของฤดูหนาวที่หิมะเริ่มตก โดยบัตรโดยสารต่าง ๆ และทัวร์ท่องเที่ยวของพื้นที่จะเริ่มเปิดให้ทำการจองล่วงหน้าตั้งแต่เดือนมีนาคม

แล้วในช่วงเวลาไฮไลท์ที่เกิดเทศกาลชมกำแพงหิมะ (Yuki no Otani) สองข้างทางตั้งแต่ช่วงสถานีมุโรโดะ (Murodo Station) จะมีการกวาดหิมะทั่วบริเวณเส้นทางการเดินทางภูเขาทะเทยามะก่อขึ้นมาเป็นกำแพงสูงถึง 20 เมตรเต็มสองข้างทาง เกิดขึ้นกลางเมษายน - สิ้นเดือนมิถุนายน หรือช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อนญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นช่วงยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวแวะเข้ามาชมความสวยงามของทิวทัศน์ทั่วบริเวณนี้ หากกำลังวางแผนเที่ยวช่วงเวลาดังกล่าวควรทำการจองบริการล่วงหน้า

เส้นทางเที่ยวเจแปนแอลป์รวมใน JR Pass หรือไม่?

เส้นทางเที่ยวเจแปนแอลป์รวมใน JR Pass หรือไม่?

https://touristpass.jp/th/alpine/

เส้นทางชมวิวเจแปนแอลป์มีใน JR Pass โดยใช้ชื่อว่า “Alpine - Takayama - Matsumoto Area”
Tourist Pass ซึ่งต้องทำการซื้อแยกจากบัตรโดยสารปกติของ JR Pass สำหรับโดยสารรถไฟ JR ที่ไม่ใช่รถไฟด่วนและชินคันเซ็น ระยะเวลาบัตรโดยสารนี้มีอายุ 5 วันนับจากวันซื้อที่ระบุในบัตร ครอบคลุมจังหวัดโทยามะ นาโกย่า กิฟุ และนากาโนะ(เฉพาะรอบเจแปนแอลป์) ที่เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเจแปนแอลป์ ดังนี้

Toyama -Tateyama เป็นรถไฟ JR Limited express
Tateyama - Nagoya เป็นรถไฟ JR Limited express
Nagoya - Matsumoto เป็นรถไฟ JR Limited express
Matsumoto - Shinano Omachi เป็นรถไฟ JR Non-Limited express

** หากเริ่มเดินทางมาจากเส้นทางที่ไกลกว่าจุดดังกล่าว อาจต้องพิจารณาซื้อบัตรโดยสาร JR Pass กลุ่มอื่นเพิ่มเติม อาทิ JR West pass , JR Central หรือ JR All Pass เป็นต้น **

อ่านบทความเต็ม: touristpass.jp (ภาษาไทย)

เจแปนแอลป์เส้นทางทะเทยามะ - คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

เจแปนแอลป์เส้นทางทะเทยามะ - คุโรเบะ (Tateyama Kurobe Alpine Route)

สำหรับการเดินทางเข้าไปสัมผัสเจแปนแอลป์แบบใกล้ชิดบริเวณจุดชมวิวต่าง ๆ ช่วงภูเขาทาเทยามะและภูเขาอากาซาวะดาเกะนั้น เรานิยมเดินทางแบบไป - กลับแบ่งเป็น 2 โซน ดังนี้

1. ทาเทยามะ - เขื่อนคุโรเบะ

เส้นทางทาเทยามะ - เขื่อนคุโรเบะ เป็นเส้นทางที่เริ่มขึ้นจากฝั่งจังหวัดโทยามะ (Toyama) ขึ้นและข้ามภูเขาทะเทยามะทั้งลูก ซึ่งเป็นทางที่ผ่านจุดเที่ยวกลางป่าและมีทางที่ค่อนข้างลาดชัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศป่าเขาโดยสมบูรณ์ จากนั้นจึงไปตามจุดชมวิวยอดนิยมที่เห็นวิวภูเขาทะเทยามะมุมกว้าง เหมาะแวะมาชมในช่วงฤดูร้อนของญี่ปุ่นอย่างมาก เมื่อผ่านจุดที่เป็นทางขึ้นเขาจะพบเป็นป่าเขียวชอุ่ม แต่เมื่อผ่านไปทางจุดกำแพงหิมะทาเทยามะและวิวมุมสูงบริเวณที่ราบสูงมุโรโดและเขาไดคังโบนั้นกลับได้ทิวทัศน์สีเขียวพร้อมกับหิมะปกคลุมพื้นที่ซึ่งหาชมได้ยาก

ซึ่งการเดินทางแวะชมวิวแต่ละจุดรวมกันต้องใช้เวลาตั้งแต่เช้าถึงช่วงเย็นเลย เดินทางสะดวกสำหรับผู้ที่วางแผนเที่ยวภายในภูมิภาคชูบุหรือพักผ่อนในจังหวัดโทยามะ

2. โองิซาวะ - มุโรโดะ

เส้นทางโองิซาวะ - มุโรโดะ เป็นเส้นทางขึ้นเขาเริ่มจากเขาอากาซาวะดาเกะฝั่งจังหวัดนากาโนะแล้วไปสิ้นสุดตรงที่ราบสูงมุโรโดะซึ่งอยู่ฝั่งจังหวัดโทยามะ ซึ่งเป็นกลางเส้นทางของภูเขาทาเทยามะ โดยเส้นทางนี้ผ่านจุดเที่ยวชมวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่าเห็นวิวภูเขาชัดเจน ลักษณะเส้นทางเนินลาดแล้วขึ้นภูเขาค่อย ๆ ไต่ระดับความชันขึ้นไป

เส้นทางนี้เหมาะกับการมาชมวิวในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นอย่างมาก เดินทางค่อนข้างสะดวกในการกลับไปฝั่งโตเกียว

อ่านบทความเต็ม: www.alpen-route.com (ภาษาไทย)

จุดชมเจแปนแอลป์ Tateyama Kurobe ที่ต้องไปให้ได้!

เส้นทางสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ เป็นเส้นทางที่อยู่ใกล้กัน สามารถเดินทางเก็บได้ภายใน 1 วัน โดยการเดินทางเราจะแนะนำตั้งต้นตั้งแต่ที่สถานีโตเกียว (Tokyo Station) กันเลย และจะเริ่มจากเส้นทางฝั่งมุโรโดะ (Murodo) ตามเส้นทางไปเรื่อยๆ จะมีที่ไหนกันบ้างไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า

※ หากเดินทางจากโตเกียว ขอแนะนำให้ออกเดินทางล่วงหน้าก่อน 1 วัน หรือเดินทางแต่เช้าเนื่องจากใช้เวลาค่อนข้างนาน
※ แนะนำให้ดูแผนที่ด้านบนประกอบจะได้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น

1. กำแพงหิมะทาเทยามะ (雪の大谷/雪の回廊)

1. กำแพงหิมะทาเทยามะ (雪の大谷/雪の回廊)

https://pixta.jp/

กำแพงหิมะ (Yuki no Otani) ที่ก่อขึ้นจากการกวาดหิมะทั่วบริเวณเส้นทางการเดินทางภูเขาทะเทยามะมาเป็นเต็มสองข้างทางสูงถึง 20 เมตร ไฮไลท์ที่เกิดขึ้นแค่เพียงช่วงกลางเมษายน - สิ้นเดือนมิถุนายนหรือช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูร้อนญี่ปุ่นเท่านั้น โดยในช่วงเวลานี้จะมีเทศกาลชมกำแพงหิมะสองข้างทางตั้งแต่ช่วงสถานีมุโรโดะ (Murodo Station) ในพื้นที่กำแพงหิมะที่เปิดให้นักท่องเที่ยวลงสัมผัสเดินชมได้นั้น กำแพงหิมะจะมีความสูงถึง 8 เมตร เป็นที่เที่ยวยอดนิยมซึ่งหากกำลังวางแผนเที่ยวช่วงเวลาดังกล่าวควรทำการจองบริการล่วงหน้าเสียก่อน

กำหนดการเปิดให้บริการปี 2023:22 พฤษภาคม (จันทร์) - 25 มิถุนายน (อาทิตย์)

การเดินทาง:จากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) นั่งรถไฟสาย Joetsu Shinkansen ขบวน TOKI ไปลงที่สถานีเอจิโกะยูซาว่า (Echigo Yuzawa Station) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที จากนั้นต่อรถไฟสาย Hakutaka ไปลงที่สถานีโทยามะ (Toyama Station)

จากนั้นเดินไปยังสถานี Dentetsu Toyama แล้วเปลี่ยนไปนั่ง Toyama Chiho Railway Tateyama Line เพื่อไปลงที่สถานีทาเทยามะ (Tateyama Station) ใช้เวลาประมาณ 60 นาที จากนั้นขึ้นเคเบิ้ลคาร์ และไปต่อรถบัสเพื่อมุ่งไปสู่สถานีมุโรโดะ (Murodo)

2. จุดชมวิวมุโรโดะ (室堂山展望台)

2. จุดชมวิวมุโรโดะ (室堂山展望台)

https://pixta.jp/

จุดชมวิวมุโรโดะ (Murodoyama Observatory) เป็นจุดชมวิวที่อยู่บนยอดเขามุโรโดะ ของสถานีมุโรโดะ แล้วก็ยังเชื่อมต่อกับเส้นทางทางธรรมชาติสำหรับเดินสำรวจป่าเขากระทั่งยอดเขามุโรโดะอีกด้วย ซึ่งจุดนี้จะเต็มไปด้วยดอกไม้และพรรณไม้บนเขาอันสวยงามที่สุดในช่วงฤดูร้อน แล้วยังคงความเป็นเจแปนแอลป์ด้วยภาพที่ดูเหมือนความฝันกับบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวแต่มีหิมะโปรยอ่อน ๆ พร้อมดอกไม้ที่บานในช่วงต้นฤดูร้อน หลังจากนั้นหากคุณแวะมาชมก็จะพบสัตว์ป่าหายากบริเวณนี้ด้วย

การเดินทาง:จากสถานีมุโรโดะ (Murodo Station) เดินไม่เกิน 5 นาที

3. จุดแคมป์ปิ้งไรโชซาว่า (雷鳥沢キャンプ場)

3. จุดแคมป์ปิ้งไรโชซาว่า (雷鳥沢キャンプ場)

https://pixta.jp/

จุดแคมป์ปิ้งไรโชซาว่า (Raichozawa Campsite) นั้นมีความสูงจากพื้นถึง 2,277 เมตรเหนือน้ำทะเล เหมาะกับสายแบคแพ็คเกอร์ตั้งแคมป์ปิ้งด้วยตนเองอย่างมาก ซึ่งช่วงเวลาสวยที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยวิวจุดนี้ใกล้กับฝั่งมุโรโดะ สามารถเดินทางโดยรถบัสแล้วเดินต่อมาไรโชซาว่า รวมถึงกลุ่มปีนเขา ขับรถเที่ยวเดย์ทริปก็สามารถแวะมาจุดนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ในตอนกลางคืนก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ เพราะจะเห็นดาวเต็มฟ้าท่ามกลางธรรมชาติอันสวยงาม

การเดินทาง:จากสถานีมุโรโดะ (Murodo Station) เดินไม่เกิน 5 นาที

4. บ่อน้ำมิคุริงะ (みくりが池)

4. บ่อน้ำมิคุริงะ (みくりが池)

https://pixta.jp/

บ่อน้ำมิคุริงะ (Mikurigaike Pond) เป็นบ่อน้ำลึก 15 เมตรอันกว้างใหญ่ที่มีเสน่ห์มากกว่าที่คุณคิด ในทุกช่วงฤดูที่เกิดขึ้นที่นี่บรรยากาศโดยรอบจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กล่าวได้ว่าเป็นปรากฏการณ์เลยก็ว่าได้

- หากมาในช่วงต้นฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จะเกิดปรากฏการณ์แพหิมะปกคลุมบนผิวน้ำและพื้นที่โดยรอบทั้งหมดให้เป็นสีขาวโพลน
- หากมาช่วงฤดูร้อนบ่อน้ำจะสีใสเหมือนกระจกสะท้อนป่าเขียวโดยรอบและร่องรอยหิมะอ่อน ๆ บนภูเขาซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การมาถ่ายรูปมากที่สุด
- หากมาช่วงฤดูใบไม้ร่วง คุณก็จะพบที่มาของคำว่า ทะเลสาบภูเขาไฟจากภูเขา 3 ลูกข้างหน้าซึ่งเป็นภูเขาไฟทาเทยามะ ใบไม้บนนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงทำให้ทิวทัศน์ดูแห้งเหือดไปเลย

การเดินทาง:สถานีมุโรโดะ (Murodo Station) เดินประมาณ 20 นาที

5. เขาไดคันโบ (大観峰)

5. เขาไดคันโบ (大観峰)

https://pixta.jp/

เขาไดคันโบ (Daikanbo) เป็นเขาที่สามารถชมวิวได้แบบพาโนราม่าที่ที่จากจุดชมวิว 2 จุด ซึ่งวิวจากทั้งสองจุดจะให้ประสบการณ์สัมผัสธรรมชาติที่แตกต่างกันด้วย ได้แก่ กระเช้าลอยฟ้าทาเทยามะ (Tateyama Ropeway) ให้ความรู้สึกตื่นเต้นจากความสูง 2,316 เมตรเหนือน้ำทะเล และ ไดคันโบ อุนโจเทอร์เรซ (Daikanbo Unjo Terrace) ระเบียงเมฆแห่งไดคันโบ ซึ่งมีที่นั่งรับรองนักท่องเที่ยวทุกท่านที่แวะเข้าชมเหนือหน้าผาพร้อมวิวด้านหน้าให้ความรู้สึกเหมือนล่องลอยบนท้องฟ้าแล้วกลางเทือกเขาเป็นจุดที่ไม่ควรพลาดเลย

การเดินทาง:จากสถานีมุโระโดะ (Murodo Station) นั่งรถรางประมาณ 10 นาทีจะถึงกระเช้าลอยฟ้าทาเทยามะ (Tateyama Ropeway) จากนั้นให้นั่ง กระเช้าลอยฟ้าไปลงที่สถานีคุโรเบะไดระ (Kurobe Daira Station)

6. เขื่อนคุโรเบะ (黒部ダム)

6. เขื่อนคุโรเบะ (黒部ダム)

https://pixta.jp/

เขื่อนคุโรเบะ (Kurobe Dam) เป็จุดชมวิวพาโนราม่าอีกแห่งที่ควรค่าแก่การแวะมาชม เพราะวิวที่ได้จากเขื่อนนี้จะเหมือนอยู่ริมผาในบริเวณสันเขื่อน ชมบรรยากาศต้นไม้โดยรอบสีเขียว น้ำสีมรกตใส ซึ่งนักท่องเที่ยวก็มักจะมาชมในช่วงวันเวลาที่ทางเขื่อนนั้นปล่อยน้ำออกมาพอดี โดยมักจัดขึ้นช่วงปลายเดือนมิถุนายน - กลางเดือนตุลาคม หรือ ช่วงกลางฤดูร้อนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วง แล้วในบางครั้งหากบรรยากาศเป็นใจให้เรา จุดนี้ก็จะเกิดรุ้งกินน้ำด้วย

การเดินทาง:จากสถานีคุโรเบะไดระ (Kurobe Daira Station) จะเปลี่ยนจากการนั่งกระเช้าลอยฟ้า เป็นนั่งเคเบิ้ลคาร์ (Kurobe Cable Car) แทน ให้เรานั่งไปลงที่สถานีทะเลสาบคุโรเบะ (Kurobe Kawa Station) ใช้เวลาประมาณ 5 นาที แล้วเดินต่อตามเส้นทางประมาณ 15 นาทีจะเจอกับเขื่อนคุโรเบะ

7. น้ำตกโซเมียว (称名滝)

7. น้ำตกโซเมียว (称名滝)

น้ำตกโซเมียว (Shomyo Falls) เป็นน้ำตกกลางหุบเขาล้อมด้วยป่าสนที่มีวิวสวยใน ติด 1 ใน 100 ของญี่ปุ่น มีความสูงกว่า 1,000 เมตร ที่นี่เหมาะกับสายขับรถเที่ยวเจแปนแอลป์ สามารถแวะมาชมเพิ่มเติมจากเส้นทางเจแปนแอลป์เส้นหลักนั้น ช่วงเวลาที่แนะนำให้มาชมที่นี่คือปลายฤดูใบไม้ผลิถึงช่วงฤดูร้อนเพราะนอกจากน้ำจะมากแล้ว บรรยากาศที่นี่ยังสวยสดชื่นมาก ๆ สามารถเล่นน้ำบริเวณนี้ได้ด้วย (หรือหากใครที่อยากชมบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสีก็ขอแนะนำให้มาช่วงฤดูใบไม้ร่วง)

การเดินทาง: สามารถนั่งรถบัสจากสถานีทาเทยามะ (Tateyama Station) สายน้ำตกโซเมียวโดยเฉพาะมาลงที่นี่ได้ค่ะ

ตรวจสอบรอบรถบัสสายน้ำตกโซเมียวได้ที่ : https://www.alpen-route.com/_wp/wp-content/uploads/2022/03/timetable_syomyosen.pdf

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลเส้นทางเจแปนแอลป์ที่เราได้นำเสนอในวันนี้ หวังว่าจะทำให้ใครหลายคนที่กำลังงงเรื่องวิธีการเดินทางได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น หากศึกษาข้อมูลดีๆ แล้วจะรู้ว่าการเดินทางไม่ยากอย่างที่คิดจริงๆ ค่ะ เพียงแต่ต้องกะเวลาการเดินทางให้ดีเท่านั้น มั่นใจว่าหากได้ไปเยือนแล้วจะต้องประทับใจกับความงดงามของที่นี่อย่างแน่นอน

แล้วพบกันใหม่บทความถัดไป สุดท้ายนี้ อย่าลืมติดตาม All About Japan และช่องทาง Social Media ของเรากันด้วยนะคะ

https://www.facebook.com/AllAboutJapan.th
https://www.instagram.com/allabout_japan_thai/

know-before-you-go