พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวสวนน้ำและสกีหิมะญี่ปุ่น
บทความชุดนี้ แม่บ้านจะแนะนำคีย์เวิร์ดภาษาญี่ปุ่นสำหรับให้ผู้อ่านได้ทดลองค้นหาสถานที่ด้วยตนเอง และในแต่ละหัวข้อ แม่บ้านจะแนะนำ 3 สถานที่ที่น่าสนใจเป็นตัวอย่างค่ะ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันค่ะ!
สำหรับใครที่สนใจตอนอื่น สามารถอ่านได้ที่
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวสวนสัตว์และฟาร์มญี่ปุ่น
1. สวนน้ำ (ウォーターパーク)
สวนน้ำญี่ปุ่นจะไม่ได้เปิดทั้งปีแบบบ้านเราที่มี 3 ฤดู คือฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนตับแตก สวนน้ำที่ญี่ปุ่นจะเปิดเฉพาะฤดูร้อน ช่วงเดือนกรกฎาคม – เดือนกันยายน ดังนั้นพอถึงฤดูร้อนปุ๊บเราจะไปไหนไม่ค่อยรอด นอกจากการสระค่ะ (แดดเผาอีก ฮาาา) ไปจนเบื่อเพราะเราจะได้สัมผัสความร้อนนรกแตกปีละครั้ง หลังจากนั้นเราก็จะโหยหาหน้าร้อนในช่วงฤดูหนาวเป็นวงจรชีวิตประเทศ 4 ฤดูค่ะ
※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา
สวนน้ำ = ウォーターパーク
1.1 จัมโบ้พูล (Jumbo Pool )
สวนน้ำแนะนำ:
Jumbo Pool (ジャンボプール) จังหวัดคานากาวะ (Kanagawa)
เป็นสวนน้ำที่มีขนาดกลาง ราคามิตรภาพแบบไปทุกวันก็ได้ ถ้าไปหลัง 15:30 น. ค่าตั๋วราคาผู้ใหญ่ลดทันที 300 เยนต่อคน หน้าร้อนปีนี้แม่บ้านกับครอบครัวไปแต่สระนี้ค่ะ ทุ่มทุนขับรถจากบ้านไปสระ 1 ชั่วโมง ขับรถกลับอีก 1 ชั่วโมง ไปมันทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ตลอดเดือนสิงหาคม วันหยุดและวันเสาร์ - อาทิตย์คือคนทะลักอย่างกับไม่มีโควิด แม่บ้านเคยไปวันเสาร์ที่จอดรถจะแน่นมากค่ะ สามีเคยวนรถนานกว่า 1 ชั่วโมงกว่าจะได้เข้าจอดค่ะ
ไฮไลท์คือสระคลื่นที่กว้างใหญ่มาก มีโซนสำหรับเด็กเล็กที่ยังเดินไม่ได้เป็นบ่อน้ำตื้นมีปลาวาฬสุดน่ารักพ้นน้ำอยู่ มีสไลด์เดอร์สำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อยบนเนินเขา และสไดล์เดอร์สูงเท่าตึก 4 ชั้นสำหรับผู้ใหญ่ที่มีคิวยาวตลอด บ่อน้ำวนขนาดใหญ่ที่มีน้ำตกให้ได้ซู่ซ่า สระจัมโบ้อยู่ใกล้หาดทรายและเกาะ Enoshima ที่ฮาคือจะมีวันพิเศษที่ไลฟ์การ์ดสุดหล่อผิวเข้มกล้ามแน่นมาเป็นผู้นำแอโรบิกหน้าสระคลื่นด้วยค่ะ (สระในรูป) แม่บ้านก็มัวเล่นกับลูก ก็สงสัยว่าทำไมคลื่นไม่มาสักที อ๋อ เขาแอโรบิกหมู่กันอยู่ ฮาาา เป็นสิ่งที่หาได้ยากในโตเกียวค่ะ
การเดินทาง : ป้ายรถบัส Futtsu Park (富津公園)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าร้อน ทุกวัน 9:00 - 18:00
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 850 เยน (หลัง 15:30 น. ลดราคาเหลือ 520 เยน)
อายุ 12 - 15 ปี 520 เยน
อายุต่ำกว่า 12 ปี 210 เยน
- www.kanagawa-park.or.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
1.2 เรนโบว์พูล (Rainbow Pool)
สวนน้ำแนะนำ:
Rainbow Pool (レインボープール) มหานครโตเกียว (Tokyo)
สระน้ำที่มีพื้นที่ 63,000 ตร.ม. มีสระทั้งหมด 9 สระ ประกอบไปด้วย 5 โซนหลักที่จะทำให้ครอบครัวได้ใช้เวลาในสวนน้ำสนุกกันทั้งวัน ซึ่งเป็นสระน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียว เนื่องจากเป็นของรัฐบาล ราคาจึงน่ารักเช่นกันค่ะ เป็นสระที่นิยมในช่วงวันหยุดฤดูร้อน คนที่ซื้อตั๋วแล้วสามารถเข้าออกสระได้ตลอดทั้งวัน ถ้าเล่นน้ำจนเบื่อหรือหิวก็สามารถออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นหรือทานข้าวแล้วค่อยกลับเข้ามาใหม่ได้ค่ะ
ภายในและรอบ ๆ สระ มีพื้นที่สำหรับย่างบาร์บีคิว และปั่นจักรยานในขณะที่สวมชุดว่ายน้ำอยู่ได้ค่ะ ซึ่งสระเรนโบว์ตั้งอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งชาติอนุสรณ์โชวะ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่แห่งหนึ่งในโตเกียว มีพื้นที่ประมาณ 39 เท่าของโตเกียวโดม และมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมายนอกเหนือจากสระว่ายน้ำ สไลเดอร์น้ำเป็นที่นิยมอย่างมากของเด็กๆ มี 4 เลนตั้งแต่ 27 ถึง 98 เมตร มีห่วงยางและร่มกันแดดให้เช่าด้วยค่ะ
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Nishi Tachikawa (西立川駅)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าร้อน ทุกวัน 9:30 - 18:00
อัตราค่าบริการ : อายุ 15 ปีขึ้นไป 2,500 เยน
อายุ 12 - 18 ปี 1,400 เยน
อายุ 4 - 11 ปี 500 เยน
อายุต่ำกว่า 4 ปี ฟรี
- www.showakinen-koen.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
1.3 อิจิมันนิน พูล (Ichimannin Pool)
สวนน้ำแนะนำ:
Ichimannin Pool (一万人プール) จังหวัดโทชิกิ (Tochigi)
นี่ก็เป็นสวนน้ำประจำครอบครัวที่ "ต้องไปทุกปี" เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่แบบแค่เดินจากจุดนึงไปยังอีกจุดนึงก็เหนื่อยแล้ว เป็นสระว่ายน้ำที่แดดร้อยแผดเผามาก โซนเด็กที่ใหญ่โตมโหฬาร ลูกชายก็เล่นไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางทีแม่บ้านก็ทิ้งสามีไว้กับลูกแล้วหนีไปเล่นสไลเดอร์สูงเท่าตึก 5 ชั้นบนเนินเขาอย่างสนุกสนาน มีสระน้ำวนขนาดใหญ่ สไลเดอร์หลากหลายแบบให้เลือกเล่น มาแล้วไม่มอดไหม้ให้รู้ไป
สำหรับสระ Ichimannin เป็นสวนน้ำที่ใหญ่มาก จนเขาเคลมว่า Ichiman = 10,000 และ Nin = คน ที่มาของชื่อคือสระนี้บรรจุได้ถึง 10,000 คนเลยทีเดียว จุดเด่นของที่นี่คือสามารถนำเต้นท์ไปกางได้ เล่นน้ำแล้วเหนื่อยก็นอนที่เต้นท์ก่อน ตื่นมาค่อยเล่นน้ำต่อ คืออยู่ตั้งแต่สวนน้ำเปิดยันสวนน้ำปิดคือคุ้ม!
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Mooka Hokuryokoko Mae (真岡北陵高校前)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าร้อน ทุกวัน 9:00 - 17:00
อัตราค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 1,400 เยน
อายุ 15 - 18 ปี 1,300 เยน
อายุ 6 - 15 และอายุ 65 ปีขั้นไป 500 เยน
เด็กเล็ก 3 ขวบขึ้นไป 200 เยน
อายุต่ำกว่า 3 ปี ฟรี
- www.park-tochigi.com (ภาษาญี่ปุ่น)
2. สกีรีสอร์ท (スキー)
หลังจากแนะนำแนวทางการท่องเที่ยวกับเด็กได้ทุกฤดูกาลไปกันแล้ว ขอแนะนำกิจกรรมหน้าหนาวสำหรับครอบครัวที่ต้องการหนีร้อนมาเล่นเย็นกันค่ะ ฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเล่นหิมะคือกลางเดือนมกราคม - ปลายเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของปีนั้น ๆ ด้วยว่าหน้าหนาวมาเร็วหรือช้า มีหิมะตกหนักช่วงไหนบ้าง คนที่ตั้งใจจะมาเล่นหิมะต้องวางแผนและติดตามสภาพอากาศของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดค่ะ
สกีรีสอร์ทมักจะประกอบไปด้วยโรงแรม พื้นที่เล่นสกีที่มีรถกระเช้าพาไปด้านบนเขา โรงเรียนสอนสกีหลักสูตรระยะสั้นและยาว แต่ใครที่ต้องการไปเช้าเย็นกลับแบบครอบครัวแม่บ้านก็สามารถใช้บริการได้เช่นกันค่ะ ซึ่งจะมีอัตราค่าบริการที่แตกต่างกันไป แม่บ้านเลยจะมาแนะนำสกีรีสอร์ทที่น่าสนใจให้ชมกันค่ะ ส่วนแม่บ้านขอเป็นสายดูกับเล่นหิมะอย่างเดียว เคยลองเล่นแล้วไม่ไหวค่ะ ตัวเขียวก้นจ้ำเบ้าไปหมด ปล่อยสากับลูกไปกันสองคน
※ คีย์เวิร์ดในการค้นหา
เล่นหิมะ = 雪遊び
สกี = スキー
หลักสูตรสำหรับครอบครัว = ファミリーレッスン
2.1 นาเอบะสกีรีสอร์ท (Naeba Ski Resort)
สกีรีสอร์ทแนะนำ :
Naeba Ski Resort (苗場スキー場) จังหวัดนีกาตะ (Niigata)
สกีรีสอร์ทขวัญใจคนโตเกียวที่ไปเช้าเย็นกลับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง Naeba อยู่ทางตอนใต้ของ Yuzawa ซึ่งมีรีสอร์ทมากถึง 20 แห่ง มีสกีรีสอร์ทยอดนิยมคือ Naeba Prince Hotel เป็นเส้นทางที่เหมาะสำหรับนักสกีทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงมือโปร แม่บ้านชอบที่ตัวโรงแรมอยู่หน้าลานสกีเลย เวลาที่มากับเด็กจะสะดวกมากค่ะ เมื่อไหร่ที่เด็กเหนื่อย เราก็สามารถเดินกลับเข้าโรงแรมไปพักผ่อนก่อน แล้วจีงออกมาเล่นต่อ
ที่ Naeba ยังมีรถกระเช้าที่มีความยาว 5.5 กิโลเมตร นั่งดูป่าสีสันสวยงานช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งสวยมาก อากาศก็ดี สดชื่นมาก ถ้าอยากไปสกีที่เดินทางสะดวก ไปเช้าเย็นกลับจากโตเกียวได้ แนะนำ Naeba เลยค่ะ
การเดินทาง : ป้ายรถบัส Shirakaba Kuchi (白樺口)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าหนาว ทุกวัน
อัตราค่าบริการ : สำหรับเล่นสกี 1 วัน (อัตราค่าบริการขึ้นอยู่กับจำนวนชั่วโมง)
ผู้ใหญ่ 6,000 เยน
ผู้สูงอายุ 5,300 เยน
อายุ 12 - 18 ปี 4,600 เยน
- www.princehotels.com (ภาษาญี่ปุ่น)
2.2 คารุอิซาวะ พรินส์ โฮเทล สโนว์รีสอร์ท (Karuizawa Prince Hotel Snow Resort)
สกีรีสอร์ทแนะนำ :
Karuizawa Prince Hotel Snow Resort (軽井沢プリンスホテルスキー場) จังหวัดนากาโน (Nagano)
เป็นหนึ่งในลานสกียอดฮิตติดลมบน อยากเล่นสกี อยากสัมผัสหิมะ อยากช้อปปิ้ง ที่นี่มีครบจบในที่เดียวค่ะ เดินทางจากโตเกียวก็ง่าย สบาย นั่งชินคันเซ็นปรู๊ดเดียวถึง เมื่อเดินถึงสถานี Karuizawa เดินลงมาจากสถานีจะพบกับ Karuizawa Prince Shopping Plaza ที่ใหญ่มาก มากกว่า 240 ร้านค้า ช้อปได้จุใจ คือแค่มาเดินที่นี่อย่างเดียวทั้งวันก็ไม่หมดค่ะ หลายร้านก็เป็น Outlet ราคานี่แบบอยากโกยกลับโตเกียวมากกก
เมื่อเดินเข้าไปช้างในจะเจอกับโรงแรมและลานสกีค่ะ สำหรับคนที่จองโรงแรมด้วยเขาจะมีรถให้บริการค่ะ มีทั้งแบบโรงแรม ห้องพักและเป็นบ้านบังกะโลหลังเล็ก ๆ แต่การตกแต่งสวยงามสะดวกสบายค่ะ มีโซนเล่นหิมะและกิจกรรมสำหรับเด็ก อย่างบ้านลม เครื่องเล่นต่าง ๆ และคลาสสกีสำหรับเด็กด้วยค่ะ สำหรับคนที่จะมาท่องเที่ยวที่นี่อยู่ได้ 1 - 2 คืนเลยค่ะ มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก มาทั้งทีก็เล่นหิมะให้เต็มอิ่มหนำใจไปเลย สำหรับผู้ใหญ่ที่เล่นสกีเป็นมีกระเช้าพาขึ้นไปยังภูเขาถึง 9 เส้นด้วยกัน ตั้งแต่ความสูง 274 เมตร ไปจนถึง 1,000 เมตรเลยค่ะ มีเส้นทางที่หลากหลาย เล่นทั้งวันก็ไม่มีเบื่อ
การเดินทาง : สถานีรถไฟ Karuizawa (軽井沢駅)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าหนาว ทุกวัน 8:00 - 16:30 หรือ 8:00 - 17:00 (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
อัตราค่าบริการ : สำหรับเล่นสกี 1 วัน (อัตราค่าบริการตามช่วงเวลา)
ผู้ใหญ่ 5,700 เยน
เด็กนักเรียนและผู้สูงอายุ 4,700 เยน
- www.princehotels.com (อังกฤษ)
2.3 ภูเขานิเซโกะ (Mt. Niseko)
สกีรีสอร์ทแนะนำ :
Mt. Niseko (ニセコ全山) จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido)
ขึ้นชื่อว่ากิจกรรมหน้าหนาว จะขาด Hokkaido ไปไม่ได้เลย Mt. Niseko เป็นภูเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นสกี ติดอันดับ 1 ใน 3 ของสกีที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น ภูเขา Niseko มีความสูง 1,308 เมตร อยู่ทางใต้ของ Sapporo 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ มีคอร์สสกีที่หลากหลายมาก มีโรงแรม 13 โรงแรม โรงเรียนสอนเล่นสกี 5 แห่ง มีร้านอาหารและคาเฟ่ขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ 25 แห่ง ร้านให้เช่าอุปกรณ์เล่นสกี 5 แห่ง แถมที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับชาวต่างชาติมาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของรักเล่นสกีกันเลยทีเดียว
นอกจากการเล่นสกี ที่ Mt. Niseko ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย อย่างการโหนสลิงที่มีความยาว 2,591 เมตร ซึ่งเป็นสลิงที่ยาวที่สุดในญี่ปุ่น หรือการล่องแก่ง พายเรือแคนยอน เดินป่า ขี่จักรยานช่วงหน้าร้อน Mt. Niseko เป็นอีกสถานีปลายทางที่คุ้มค่าในการทำกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวค่ะ
การเดินทาง : ป้ายรถบัส Niseko Annupuri (ニセコアンヌプリ)
เวลาให้บริการ : เปิดช่วงหน้าหนาว ทุกวัน 8:30 - 19:30
อัตราค่าบริการ : สำหรับเล่นสกี 1 วัน (อัตราค่าบริการตามช่วงเวลา)
ผู้ใหญ่ 5,600 เยน
เด็กนักเรียนและผู้สูงอายุ 4,100 เยน
นักเรียนชั้นประถม 3,300 เยน
- www.niseko.ne.jp (ภาษาญี่ปุ่น)
แม่บ้านฝากติดตามซีรี่ย์พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! และผลงานอื่น ๆ ของแม่บ้านด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาถึงตรงนี้ด้วยค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ เบิ้บบู :D
งานเขียนทั้งหมดของแม่บ้านเมกุโระ
บทความที่เกี่ยวข้อง
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวพิพิธภัณฑ์และห้องสมุดญี่ปุ่น
・พาลูกเที่ยวแบบคนญี่ปุ่น! ตอน : เที่ยวสวนสัตว์และฟาร์มญี่ปุ่น
อ่านบทความเต็ม: allabout-japan.com (ภาษาไทย)