การเช่ารถยนต์ขับท่องเที่ยวหรือ Road Trip ในญี่ปุ่นเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการวางแผนเที่ยวอย่างอิสระตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งข้อดีหลายอย่างสำหรับนักท่องเที่ยวไทยก็คือ ในญี่ปุ่นก็ขับรถเลนซ้ายเหมือนกัน ทำให้การขับรถยนต์เที่ยวไม่ใช้เรื่องยุ่งยากเกินไปนัก

อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาเดินทางและสัมภาระเมื่อต้องย้ายเมืองบ่อยๆ ถ้าหากมากับครอบครัวที่มีเด็กและผู้สูงอายุก็ต้องบอกว่าเหมาะมากและสะดวกมาหรือถ้ามากับกลุ่มเพื่อนหลายคนการเช่ารถขับก็ยังช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเดินทางได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

• ผู้ขับรถจำเป็นต้องมีใบอนุญาตขับขี่สากล (International Driving Permit;IDP)
• ควรศึกษาข้อมูลการขับรถที่ญี่ปุ่นและกฎการจราจรต่างๆ
• ป้ายบอกทางบนถนนสายหลักส่วนใหญ่มีภาษาอังกฤษ
• ราคาในการเช่าจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทและประเภทของรถยนต์
• มีหลายบริษัทให้บริการเช่ารถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น
• บริเวณใจกลางเมืองบางแห่งมักจะหาที่จอดรถได้ยากและการจอดรถในที่ห้ามจอดนั้นถือว่าผิดกฎจราจรต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินจำนวนมาก
• สำหรับค่าทางด่วน ขอแนะนำให้ใช้ Expressway Pass ใช้ขึ้นทางพิเศษได้ไม่จำกัด

บทความที่เกี่ยวข้อง
・5 พื้นฐานรู้ไว้ก่อนขับรถในญี่ปุ่น
・เช่ารถขับ 10 จังหวัดญี่ปุ่นขึ้นทางด่วนไม่จำกัด
・รีวิว 3 บริษัทเช่ารถในญี่ปุ่น จากประสบการณ์จริง
・ไปญี่ปุ่น นั่งรถไฟหรือเช่ารถขับดี

นอกจากนี้ความน่าสนใจอีกอย่างของการเช่ารถยนต์ขับในญี่ปุ่นก็คือ สถานีริมทาง (Michi no Eki) หรือ Roadside Station ซึ่งเป็นมากกว่าแค่จุดแวะพักรถหรือเติมน้ำมัน ตามที่ได้นำข้อมูลมาฝากในหัวข้อถัดไปนี้

สถานีริมทาง (Michi no Eki) หรือ Roadside Station ในประเทศญี่ปุ่นเป็นพื้นที่เพื่อการพักผ่อนสำหรับผู้ใช้รถยนต์ตามนโยบายของรัฐบาลซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การขับขี่บนถนนปลอดภัยและสะดวกสบายด้วยการสร้างพื้นที่ที่มีชีวิตชีวามากกว่าแค่การเป็นจุดพักรถหรือเติมน้ำมัน โดยจะเน้น 3 ฟังก์ชั่นหลักๆ ในการออกแบบพื้นที่ ได้แก่

1. ฟังก์ชั่นการพักผ่อน เช่น ที่จอดรถและห้องน้ำที่ใช้งานได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
2. ฟังก์ชันให้ข้อมูล เช่น ข้อมูลถนน ข้อมูลท่องเที่ยว ข้อมูลทางการแพทย์ฉุกเฉิน
3. ฟังก์ชันความร่วมมือระดับภูมิภาค ที่เน้นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในด้านวัฒนธรรม ด้านการท่องเที่ยวและนันทนาการ เช่น ลานตั้งแคมป์ หอดูดาว บ่อน้ำพุร้อน

ภาพรวมคือการมุ่งเน้นให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินได้ด้วยการแสดงลักษณะและความเป็นเอกเทศของแต่ละพื้นที่นั้นๆ อาทิ การส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ที่ระลึกจากท้องถิ่นตลอดจนการโปรโมตจุดขายของทำเลที่ตั้งสถานีที่เป็นจุดชมวิว เหล่านี้เป็นต้น

จากข้อมูลเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ระบุว่ามีสถานีริมทางถึง 1,160 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นและครั้งนี้ก็มีสถานีริมทางที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการเป็นจุดท่องเที่ยว ชมทิวทัศน์และพักผ่อนหย่อนใจจากการขับรถยนต์เป็นระยะทางไกลมาแนะนำ 5 แห่งต่อไปนี้

สถานีริมทางในแถบอิโตะออนเซ็น (Ito Onsen) จุดเด่นคือสิ่งปลูกสร้างสีสันสดใสบรรยากาศแบบเมืองท่าริมชายทะเล ในพื้นที่ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมทั้งยังสามารถผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางที่มุมน้ำพุร้อนแช่เท้าซึ่งได้รับความนิยมมากจากผู้ที่แวะมาพักผ่อนสถานีริมทางแห่งนี้

นอกจากนี้ ยังมีตลาดสดที่ขายอาหารทะเลสดๆ หรือถ้าเป็นช่วงใกล้ค่ำก็จะได้พบกับวิวพระอาทิตย์ตกริมท่าเรือซึ่งเป็นภาพทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะกับการถ่ายภาพสวยๆ กลับไปเป็นที่ระลึกเช่นกัน

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหาชื่อภาษาญี่ปุ่น：道の駅 伊東マリンタウン

สถานีริมทางที่ตั้งอยู่ใกล้กับน้ำวนนารุโตะ (Naruto Whirlpools) และสะพานโอนารุโตะ (Onaruto Bridge) ถือเป็นจุดชมวิวสะพานและน้ำวนที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่ง

รวมทั้งยังมีร้านอาหารขึ้นชื่อยอดนิยมอย่างแฮมเบอร์เกอร์ Awajishima Burger กับเมนู Awajishima Onion Kitchen หรือ เบอร์เกอร์เนื้อหัวหอมอาวาจิชิมะ แฮมเบอร์เกอร์ชื่อดังระดับประเทศที่เคยได้รับรางวัล Local Burger Grand Prix อันดับ 3 ซึ่งใช้หัวหอมจากเกาะอาวาจิมาเป็นวัตถุดิบในการทำเบอร์เกอร์ เรียกว่าเป็นเมนูที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาพักผ่อนที่สถานีริมทางแห่งนี้

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหาชื่อภาษาญี่ปุ่น：道の駅うずしお

สถานีริมทางในเมืองโทมิอุระ (Tomiura) จังหวัดชิบะ (Chiba) ที่เคยได้รับรางวัล National Road Station Grand Prix เมื่อปี 2000 จุดเด่นของที่นี่คือการนำเสนอความโดดเด่นของเอกลักษณ์ท้องถิ่นในหลายๆ แง่มุม อาทิ ผลิตภัณฑ์จากโลควอท (Loquat) ซึ่งเมืองโทมิอุระถือว่าเป็นแหล่งเพาะปลูกโลควอทชื่อดังระดับประเทศ

ที่สถานีริมทางแห่งนี้จึงมีผลิตภัณฑ์จากโลควอทให้ได้เลือกซื้อเลือกชิมมากมาย โดยเฉพาะไอศกรีมโลควอทแสนอร่อย นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ พื้นที่พักผ่อนท่ามกลางสวนดอกไม้ที่ชวนให้รู้สึกผ่อนคลายด้วย

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหาชื่อภาษาญี่ปุ่น：道の駅 とみうら枇杷俱楽部

สถานีริมทางที่มีแนวคิดการออกแบบคือ “พื้นที่เปิดโล่งที่ผ่อนคลายและเล่นสนุกได้” และได้ตั้งศูนย์การผลิตสินค้าและอาหารสด อาหารแปรรูปจากวัตถุดิบของเกษตรกรในพื้นที่โดยตรง รวมถึงร้านอาหารกับเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อ อาทิ ยาโยอิราเมน พาร์เฟต์ผลไม้ น้ำแอปเปิ้ล

นอกจากนี้ ยังมีบริเวณสวนสนุกพร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กและสวนสาธารณะให้เดินเล่น ได้บรรยากาศของการมาพักผ่อนแบบครอบครัวหรือถ้าเดินทางไปในช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน บริเวณใกล้ๆ สถานีริมทางสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิว ศิลปะบนนาข้าว (Tanbo Art) ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอาโอโมริจากบนหอดูดาวยาโยอิโนะซาโตะ (Yayoi no Sato Tenbojo) ได้ด้วย

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหาชื่อภาษาญี่ปุ่น：道の駅いなかだて 弥生の里

สถานีริมทางในเมืองน้ำพุร้อนที่มีภูเขา แม่น้ำและป่าไม้เขียวขจีโอบล้อม ในแต่ละฤดูกาลก็จะได้พบเจอกับทิวทัศน์ที่แตกต่างกัน เช่น ฤดูใบไม้ร่วงกับสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี ภายในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของสถานีมีทั้งร้านค้าขายสินค้าจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ร้านอาหาร กับเมนูขึ้นชื่ออย่างเนื้อฮิดะ (Hida Gyu) สามารถพักผ่อนด้วยการแช่ออนเซ็นพร้อมทั้งชมวิวเทือกเชาแจแปนแอลป์ตอนเหนือได้ทุกฤดูกาล

นอกจากนี้ ยังมีแคมป์กราวน์ให้ตั้งแคมป์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบเอาท์ดอร์ (Outdoor) พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันให้บริการด้วย

※ คีย์เวิร์ดในการค้นหาชื่อภาษาญี่ปุ่น：道の駅 奥飛騨温泉郷上宝

เป็นอย่างไรบ้างคะกับข้อมูลที่เราได้นำเสนอทุกคนในวันนี้ หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านที่สนใจลองเช่ารถขับในญี่ปุ่นกัน และใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขับรถ การทำใบขับขี่สากล และข้อมูลอื่นๆ ก็สามารถดูเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความต่อไปค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง
・5 พื้นฐานรู้ไว้ก่อนขับรถในญี่ปุ่น
・เช่ารถขับ 10 จังหวัดญี่ปุ่นขึ้นทางด่วนไม่จำกัด
・รีวิว 3 บริษัทเช่ารถในญี่ปุ่น จากประสบการณ์จริง
・ไปญี่ปุ่น นั่งรถไฟหรือเช่ารถขับดี