All About Japan

นั่งรถราง Toden Arakawa Line ชมกุหลาบ พร้อมบรรยากาศของโตเกียวแบบวินเทจ

รถไฟ ดอกไม้ Tokyo Kanto
นั่งรถราง Toden Arakawa Line ชมกุหลาบ พร้อมบรรยากาศของโตเกียวแบบวินเทจ

ชวนนั่งรถรางสายโทเด็น อาราคาวะ (Toden Arakawa Line) ย้อนอดีตไปยุคโชวะ (Showa Period) ชมกุหลาบหลากสายพันธุ์แข่งกันบานประชันสีสันในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประมาณเดือนพฤษภาคมที่จะเพิ่มสีสันให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น

มนต์เสน่ห์ของการนั่งรถรางสายสุดท้ายในโตเกียว (Toden Arakawa Line)

มนต์เสน่ห์ของการนั่งรถรางสายสุดท้ายในโตเกียว (Toden Arakawa Line)

https://pixta.jp/

รู้รึเปล่าว่าในโตเกียวยังมีเส้นทางท่องเที่ยวแบบ Local สุดๆ ไม่ไกลจากอุเอโนะ (Ueno) ที่เราจะได้เห็นบรรยากาศร้านค้า บ้านเมือง ผู้คนแบบญี่ปุ่นท้องถิ่นสมัยโชวะ (Showa Period) และยังมีจุดชมดอกไม้หลายแห่งตลอดทางให้ชมกันด้วยนะคะ และในช่วงเดือนพฤษภาคมแบบนี้แม้ว่าดอกซากุระในโตเกียวอาจจะร่วงโรยไปแล้ว แต่ที่โตเกียวยังมีดอกกุหลาบหลากสีที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนพฤษภาคม รอคอยการมาเยือนของเหล่านักท่องเที่ยวอยู่

รู้จักกับรถรางสายอาราคาวะ (Arakawa Line) หรือ Tokyo Sakura Tram

รู้จักกับรถรางสายอาราคาวะ (Arakawa Line) หรือ Tokyo Sakura Tram

รถรางสาย Toden Arakawa Line หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Tokyo Sakura Tram เป็นรถรางสายสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในโตเกียว โดยรถรางจะวิ่งตั้งแต่สถานีมิโนวะบาชิ (Minowabashi Station) ไปจนสุดสายที่สถานีวาเซดะ (Waseda Station) รวมระยะทางทั้งสิ้น 12.2 กิโลเมตร (30 สถานี)

ซึ่งต้องขอบอกเลยว่า ตลอดทางที่เรานั่งรถรางสายนี้ บรรยากาศโดยรอบทั้งอาคารบ้านเรือน ทางเดินริมราง ร้านค้าและผู้คนที่มาโดยสารรถรางขบวนนี้ยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิกแบบญี่ปุ่นสมัยก่อนมากๆ จนแทบจะลืมไปเลยว่านี่เรายังอยู่ในตัวเมืองโตเกียวด้วยซ้ำ

ค่าโดยสาร: เที่ยวละ 170 เยน (ผู้ใหญ่) หรือจะซื้อเป็นตั๋ววันเดย์พาส (1-Day Pass) ในราคา 400 เยน (สำหรับรถรางเท่านั้น) หรือราคา 700 เยน (สำหรับรถราง, รถไฟใต้ดิน. รถบัสสายโทเอย์ (Toei Bus) และรถไฟสายนิปโปริ-โทเนริ ไลน์เนอร์ (Nippori-Toneri Liner) ก็ได้

※ หมายเหตุ:ตั๋ววันเดย์พาสซื้อบนรถรางหรือที่เคาท์เตอร์ขายตั๋วรถรางที่สถานีในวันเดียวกันได้เลยนะคะ

เที่ยวรถรางสไตล์เรโทร ชมกุหลาบหลากสายพันธุ์ตามริมทาง

เที่ยวรถรางสไตล์เรโทร ชมกุหลาบหลากสายพันธุ์ตามริมทาง

ในช่วงเดือนพฤษภาคมเปรียบเสมือนสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบดอกกุหลาบนานาพันธุ์เลยล่ะค่ะ และด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของอาสาสมัครในเขตอาราคาวะ (Arakawa) จึงเกิดเป็นโปรเจ็ค Rose Highway ขึ้นมาเพื่อปลูกกุหลาบสวยให้ผู้คนได้ชื่นชนกันตลอดทางรถรางสายโทเด็น อาราคาวะนี้

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุก ๆ ปีผู้คนมากมายรวมทั้งตากล้องชาวญี่ปุ่นและต่างชาติต่างก็เดินทางมาเพื่อชมความงามของดอกกุหลาบกว่า 500 สายพันธุ์และรถรางสุดวินเทจนี้โดยเฉพาะ เป็นบรรยากาศที่ดีมาก ๆ เลยล่ะ และวันนี้เราขอแนะนำเส้นทางชมกุหลาบคอร์สเริ่มต้นจากสถานีมิโนวะบาชิ (Minowabashi) กันค่ะ

เริ่มต้นที่สถานีมิโนวะบาชิ (Minowabashi)

เริ่มต้นที่สถานีมิโนวะบาชิ (Minowabashi)

สถานีต้นทางของเรา อยู่ห่างจากสถานีอุเอโนะ (Ueno Station) แค่เพียง 8 นาทีเท่านั้นเองนะ

เราเลือกขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายฮิบิยะ (Hibiya) จากสถานีอุเอโนะมาลงที่สถานีมิโนวะ (Minowa) จากนั้นค่อยเดินไปที่สถานีรถรางชื่อมิโนวะบาชิ (Minowabashi) ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีค่ะ ใกล้มาก ๆ

จุดสังเกตคือพอเดินมาถึงปากทางเข้าช้อปปิ้งสตรีทชื่อ Joyful Minowa ให้หันหน้าไปทางซ้ายจะเจอซุ้มประตูที่มีป้ายเขียนว่ามิโนวะบาชิ (Minowa Bridge หรือภาษาญี่ปุ่นคือ 三ノ輪橋) และมีร้านของที่ระลึกตั้งอยู่ ด้านในมีรถไฟจำลองด้วยนะ น่ารักดี

โอ้โห แค่ตรงจุดเริ่มต้นก็มีกุหลาบสวย ๆ ให้รัวชัตเตอร์กันจนเม็มโมรี่เต็มแล้วค่ะ ชาวญี่ปุ่นก็มาถ่ายรูปตรงจุดนี้กันเพียบเลยนะ เพราะทุกอย่างสวยลงตัวไปหมดจนติดอันดับ 100 สถานีที่ต้องมาเยือนให้ได้ในภูมิภาคคันโตเลยเชียว

ขึ้นรถรางชมวิวสองข้างทางแล้ว ไปแวะที่สถานีอาราคาวะนิโจเมะ (Arakawa Nichome)

ขึ้นรถรางชมวิวสองข้างทางแล้ว ไปแวะที่สถานีอาราคาวะนิโจเมะ (Arakawa Nichome)

หลังจากซื้อตั๋วรถรางหรือแตะตั๋วด้วยบัตร IC Card มาแล้ว แนะนำให้จับจองพื้นที่ริมหน้าต่าง จะได้ชมวิวกุหลาบและบ้านเมืองริมทางที่ย้อนไปในยุคโชวะกันค่ะ

※ พิเศษเฉพาะผู้อ่าน All About Japan เรามีคลิปวิดีโอวิธีขึ้นรถรางมาฝากกันด้วยค่ะ ใครที่กลัวขึ้นผิด ๆ ถูก ๆ ดูคลิปนี้ประกอบ รับรองว่าเข้าใจ เที่ยวได้อย่างไร้กังวล

จากนั้นให้ลงที่สถานีอาราคาวะนิโจเมะ (Arakawa Nichome) ซึ่งเป็นจุดชมกุหลาบแนะนำจุดที่สอง และตรงรอบ ๆ สถานีมีการตัดแต่งซุ้มกุหลาบไว้อย่างสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่ารถรางสายนี้มีหลายสีเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเงิน แดง เหลือง หรือสีชมพู ซึ่งแต่ละสีก็ถ่ายออกมาได้ฟีลลิ่งที่แตกต่างกันไป

แค่ตรงบริเวณสถานีนี้ก็ถ่ายรูปกันเพลินจนลืมเวลาไปเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนที่มีผู้คนรอขึ้นลงรถรางแล้วนั้น เหมือนในละครญี่ปุ่นที่เคยดูมาเลยล่ะ

และที่สถานีนี้ก็มีสวนสวยที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งก็คือสวนสาธารณะอะราคาวะ (Arakawa Nature Park) ซึ่งภายในสวนมีดอกไม้ต้นไม้หลายชนิดที่แข่งกันผลิบานในฤดูใบไม้ผลินี้ แถมยังมีบ่อน้ำที่มีหงส์คู่สีขาวอีกด้วย ที่สำคัญสวนนี้เข้าชมฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายนะคะ

ถ้ามีเวลาสักหน่อย อยากแนะนำให้มาเดินเล่นในสวนนี้ดูนะคะ ผ่อนคลายดีจริงๆ เลย ยิ่งเป็นตอนช่วงพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าด้วยแล้ว แสงสีสวยมากเลยล่ะค่ะ

และสำหรับในปีนี้ เทศกาล Arakawa Rose Week 2022 จะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 6-28 พฤษภาคม 2022 และมีกิจกรรมสะสมสแตมป์แรลลี่ด้วยนะคะ รายละเอียดกิจกรรมดูได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ หรือ ข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม (ภาษาญี่ปุ่น)

ใครที่อยู่ในโตเกียวแล้วยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในเดือนพฤษภาคม เราขอแนะนำให้ตามรอยไปชมดอกกุหลาบกันดีกว่าค่ะ เอาล่ะ รีวิวครั้งหน้าจะพาไปที่ไหนอีก อย่าลืมติดตามชมกันนะค้าาาา

ผู้เขียน: Kotobuki Jaa ญี่ปุ่นอยู่ได้
Japan Travel Photographer & Blogger
จับพลัดจับผลูมาอยู่ญี่ปุ่น + ชอบตะลอนเที่ยวไปเรื่อยๆ เลยหยิบกล้องมาชวนไปอัพเดทญี่ปุ่นกันค่ะ!

know-before-you-go