ที่เที่ยวธีมโอลิมปิคโตเกียว 2020 ที่ไม่ควรพลาด
แม้ว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค 2020 ที่โตเกียวจะจบลงไปแล้ว แต่กระแสเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันต่างๆ ก็ยังได้รับความสนใจจากผู้ชมกีฬาชาวไทยในหลายๆ แง่มุม รวมทั้งเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวเกี่ยวกับโอลิมปิครั้งนี้ด้วย ในครั้งนี้ก็จะขอแนะนำแหล่งท่องเที่ยวและโลเคชั่นที่มีชื่อเสียงด้านกีฬา รวมทั้งการแข่งขันโอลิมปิค ดังนี้
1. พิพิธภัณฑ์โอลิมปิคแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Olympic Museum, Tokyo)
พิพิธภัณฑ์โอลิมปิคแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japan Olympic Museum) เป็นส่วนหนึ่งของ Japan Sport Olympic Square ในกรุงโตเกียว (Tokyo) ที่นี่คือศูนย์กลางการบริหารงานกีฬาโตเกียวโอลิมปิค 2020 และในส่วนของพิพิธภัณฑ์โอลิมปิคก็เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2019 ภายใต้แนวคิด “โอลิมปิคมิวเซียมของทุกคน” แบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ เริ่มจากด้านนอกเป็น Monument Area ด้านในอาคารชั้น 1F เป็น Welcome Area และชั้น 2F เป็น Exhibition Area
Monument Area เป็นการตกแต่งภายนอกอาคารด้วยสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติความเป็นมาของโอลิมปิค เช่น กระถางจุดคบเพลิงโอลิมปิคจำลองเมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพครั้งแรก รวมทั้งสัญลักษณ์ของกีฬาโอลิมปิค 5 ห่วง ให้ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
Welcome Area มีทั้งพื้นที่จัดแสดงเรื่องราวโอลิมปิคผ่านจอภาพขนาดใหญ่ กำแพงที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์โอลิมปิค 5 ห่วงรูปแบบต่างๆ ทำขึ้นโดยเด็กๆ ในจังหวัดฮอกไกโดและโตเกียวสำหรับนำมาจัดแสดงที่นี่โดยเฉพาะ มีการนำคบเพลิงโอลิมปิคมาให้ได้ชมรายละเอียดอย่างใกล้ชิด รวมถึงภาพโปสเตอร์โอลิมปิคทั้งภาพวาด ภาพถ่าย ที่สำคัญคือส่วนของ มิวเซียม ชอป ที่มีสินค้าที่ระลึกจากการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิค 2020 ให้เลือกซื้อด้วย เช่น เข็มกลัด ตุ๊กตา เครื่องเขียน
Exhibition Area สำหรับโซนนี้จะเป็นการนำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของการแข่งขันโอลิมปิคตั้งแต่ครั้งแรก ในแง่ของความเป็นมา สัญลักษณ์ในการแข่งขันแต่ละครั้ง เช่น คบเพลิงตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน และบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ในแต่ละช่วงไทม์ไลน์ เหล่านี้ป็นต้น
เวลาทำการ : 10.00-17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : โซน Exhibition ผู้ใหญ่ 500 เยน, ผู้สูงอายุ (65 ปี ขึ้นไป) 400 เยน, เด็กเล็ก-มัธยมปลายเข้าชมฟรี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro Ginza Line ไปลงสถานีไกเอนมาเอะ (Gaiemmae Station) ออกทางออก Exit 3 และเดินอีกประมาณ 5 นาที
2. ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ แจแปน โอซาก้า (Universal Studios Japan : USJ, Osaka)
มาริโอ้ (Super Mario) คาแรกเตอร์จากเกมชื่อดังของนินเทนโด้ (Nintendo) ก็เป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนมาสคอตของการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิค 2020 และเมื่อต้นปี 2021 ที่ผ่านมานี้ที่สวนสนุกยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอ แจแปน หรือ USJ ในจังหวัดโอซาก้า (Osaka) ก็ได้เปิดให้บริการโซนใหม่ ซุปเปอร์ นินเทนโด้ เวิลด์ (Super Nintendo World) โดยเป็นสวนสนุกในธีมเกมมาริโอ้ (Mario) ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปผจญภัยในการตะลุยด่านของเกมมาริโอ้จริงๆ เช่น วิ่งตะลุยด่านอิฐบล็อก กระโดดเก็บเห็ด เก็บเหรียญ
รวมทั้งฉากในเกมมาริโอคาร์ทที่จำลองบรรยากาศคล้ายสนามแข่งรถในเกมมาให้ได้ตื่นเต้นกันด้วย ซึ่งเกมต่างๆ ที่กล่าวถึงนี้จะมี Power Up Band หรือสายรัดข้อมือสำหรับเก็บข้อมูลคะแนนแบบลิงค์กับแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนถือเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
นอกจากนี้ยังมี Mario Cafe & Store คาเฟ่ที่ตกแต่งเหมือนอยู่ในโลกของมาริโอ้พร้อมบริการอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ และร้านขายสินค้าที่ระลึกกับของสะสมมากมายให้ได้เลือกซื้ออย่างจุใจ
เวลาทำการ : เวลาทำการจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและแตกต่างกันไปในแต่ละวัน (ตรวจสอบรายละเอียดได้ในเว็บไซต์)
ค่าเข้าชม : ตั๋วเข้าชมมีหลายประเภท หลายราคา เช่น 1 Day Studio Pass ผู้ใหญ่ 8,200 เยน สามารถเข้าโซน Super Nintendo World ได้ และยังมีตั๋วประเภท Express Pass ให้เลือกหลายราคา (ตรวจสอบรายละเอียดได้ในเว็บไซต์)
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟ JR Osaka Loop Line ขบวนที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสาย Yumesaki Line ไปลงที่สถานียูนิเวอร์ซัล-ซิตี้ (Universal-City Station) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
3. ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน โตเกียว (Kanda Myojin Shrine, Tokyo)
ศาลเจ้าคันดะเมียวจิน (Kanda Myojin Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่อายุราว 1,300 ปี ตั้งแต่สมัยเอโดะ มีความเชื่อสืบต่อกันมาว่าที่นี่คือศาลเจ้าที่คอยช่วยปกปักรักษาคุ้มครองเมืองเอโดะ และเป็นที่สถิตของเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมมาขอพรด้านต่างๆ เช่น เรื่องความรัก ความมั่งคั่ง โชคลาภ รวมถึงความโชคดีในเรื่องการแข่งขันกีฬาด้วย
เทพประจำศาลเจ้ามีทั้งเทพแห่งการปัดเป่าเรื่องร้าย (ไทระ โนะ มาซาคาโดะ) เทพแห่งโชคชะตา (โอคุนินุชิ) จึงถือเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาสักการะ รวมไปถึงอาจได้ชัยชนะต่าง ๆ ตามแบบขุนศึกสมัยเฮอัน จนเป็นที่นิยมในหมู่ผู้กำลังหางานและผู้ที่แข่งขันกีฬานั่นเอง ศาลเจ้าคันดะเมียวจินนั้นอยู่ในโตเกียวทำให้เดินทางสะดวก จึงมีผู้คนจำนวนมากนิยมเข้ามาขอพรเรื่องการแข่งขันกีฬา รวมไปถึงกองเชียร์นักกีฬาโอลิมปิคเองก็นิยมมาขอพรให้นักกีฬาที่ตนชื่นชอบชนะด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ที่ตั้งของศาลเจ้าคันดะเมียวจินยังอยู่ใกล้กับย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) ย่านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้ก็ยังเป็นโลเคชั่นที่ปรากฏในอนิเมะยอดนิยมหลายเรื่อง จึงได้รับความสนใจจากแฟนอนิเมะที่เดินทางมาเที่ยวชมสถานที่จริงและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้ง ยังมีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างในศาลเจ้าที่น่าสนใจ ตั้งแต่เสาโทริอิทางเข้า ประตูซุยชินมง (Zuishin-mon) สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงามและมีเครื่องรางประจำศาลเจ้าที่เหมาะกับการซื้อเพื่อพกพาติดตัวให้เกิดความโชคดีหรือซื้อกลับไปเป็นของฝาก
เวลาทำการ : ตลอด 24 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ไม่มี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro Marunouchi Line ไปลงสถานีโอชาโนะมิสุ (Ochanomizu Station) ออกทางออก Exit 1 และเดินอีก 5 นาที
4. โตเกียว วอเตอร์ฟรอนท์ ซิตี้ (Tokyo Waterfront City)
โตเกียว วอเตอร์ฟรอนท์ ซิตี้ (Tokyo Waterfront City) เป็นแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบอ่าวโตเกียวในโอกาสที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิค 2020 ภายใต้แนวคิด “ไลฟ์สไตล์คนเมืองมาพบกับกีฬา” หลักๆ คือการพัฒนาสถานที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและทำกิจกรรมด้านกีฬาในย่านต่างๆ รอบอ่าวโตเกียว เช่น โอไดบะ (Odaiba), อาริอาเกะ (Ariake), อาโอมิ (Aomi) เป็นต้น
โดยในภาพรวมเป็นการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในรูปแบบของการเล่นกีฬาบรรยากาศกลางเมือง ซึ่งมีอีเวนท์เด่นๆ ที่จัดขึ้น อาทิ งานเทศกาลเมือง (Urban Festival) กับการแข่งขันกีฬาประเภทเอ็กซ์ตรีม อย่างสเก็ตบอร์ด จักรยาน BMX, มีสนามเด็กเล่นและสนามกีฬาบาสเกตบอลกลางแจ้งขนาด 3x3 ตลอดจนพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจและบริการร้านอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือ แลนด์มาร์คเกี่ยวกับโอลิมปิคและจุดถ่ายภาพใหม่ๆ เช่น สัญลักษณ์โอลิมปิค 5 ห่วงกลางน้ำริมเกาะโอไดบะ
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่
ค่าเข้าชม : ไม่มี
การเดินทาง : ขึ้นรถไฟสาย New Transit Yurikamome (เชื่อมต่อ Yamanote Line) ไปลงสถานีโอไดบะไคฮินโคเอน (Odaibakaihinkoen Station) จากจุดนี้สามารถต่อรถไฟ รถบัส หรือเดินเที่ยวในโซน Tokyo Waterfront City ได้อย่างสะดวก
5. เมืองอิซุและชูเซ็นจิออนเซ็น จังหวัดชิซุโอกะ (Izu-Shuzenji, Shizuoka)
นอกจากในกรุงโตเกียวแล้ว โอลิมปิค 2020 ก็มีการใช้สนามแข่งในจังหวัดอื่นๆ หลายแห่งด้วย เช่น ในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) ซึ่งมีสถานที่แข่งขันจักรยานทั้งประเภทลู่และจักรยานเสือภูเขาที่มีทิวทัศน์สวยงามนั่นคือสนาม Fuji International Speedway ในเมืองอิซุ (Izu) ซึ่งที่เมืองนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น ชูเซ็นจิออนเซ็น (Shuzenji Onsen)
ชูเซ็นจิออนเซ็น (Shuzenji Onsen) หนึ่งในเมืองน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เก่าแก่ที่สุดในชิซุโอกะ มีทำเลตั้งอยู่กลางหุบเขาและธรรมชาติของป่าไม้ที่รายล้อม มีบ่อแช่เท้าสาธารณะกลางแจ้งกระจายอยู่ทั่วเมืองซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถแช่เท้าคลายความเมื่อยล้าจากการเดินเที่ยวได้ อีกทั้งในพื้นที่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง ได้แก่ ป่าไผ่ขนาดเล็ก (Chikurin no Komichi) โรงอาบน้ำสาธารณะฮาโคยุ (Hakoyu) วัดชูเซ็นจิ (Shuzenji Temple) ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองและสวนชูเซ็นจิ-นิจิโนะซาโตะ (Shuzenji-Niji No Sato) สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีทุ่งดอกไม้หลากสีสันตามฤดูกาลที่แตกต่างกันให้ได้ชมตลอดปี
เวลาทำการ : ขึ้นอยู่กับสถานที่
ค่าเข้าชม : ขึ้นอยู่กับการใช้บริการ
การเดินทาง : จากโตเกียว ขึ้นรถไฟด่วนสาย JR Odoriko Line ไปลงสถานีชูเซ็นจิ (Shuzenji Station) ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าเริ่มต้นที่สถานีมิชิมะ (Mishima station) จังหวัดชิซุโอกะ ให้ขึ้นรถไฟสายท้องถิ่น Izuhakone Railway Sunzu Line ไปลงสถานีชูเซ็นจิ (Shuzenji Station) ใช้เวลาประมาณ 35 นาที
ผู้เขียน: หนึ่ง
นักอ่านและนักเขียนที่ชอบการเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยเฉพาะญี่ปุ่น รักการดูอนิเมะญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจ :)