All About Japan

【บทความสำรวจ】สถานที่ในดวงใจที่คนไทยอยากบอกต่อ

สถานที่ทางประวัติศาสตร์ โบราณสถาน สวนสาธารณะ ถ้ำ ทะเลสาบ Tokyo Kyoto Shinjuku Kochi Shimane Yamanashi Kanto Chubu Kansai Chugoku Shikoku
【บทความสำรวจ】สถานที่ในดวงใจที่คนไทยอยากบอกต่อ

วันก่อนทาง All About Japan ได้ทำแบบสำรวจเกี่ยวกับ “สถานที่ท่องเที่ยวในญี่ปุ่นที่คุณประทับใจจนอยากบอกต่อ” และเราก็ได้รับความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างดี โดยแบบสำรวจครั้งนี้แบ่งเป็นทั้งเพศชายและเพศหญิง อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 35-64 ปี จะน่าสนใจแค่ไหน เราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าค่ะ

Q&A ผู้ตอบแบบสำรวจคนแรก คุณ A (เพศชาย อายุ 55-64 ปี)

ทีมงาน AAJ:สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าประทับใจสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนในญี่ปุ่นมากที่สุดคะ

A:ที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ครับ ได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามมาก ใครเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปชมเลยครับ โดยเฉพาะคนที่ไปเที่ยวครั้งแรกไม่ควรพลาดเลย นอกจากนี้ก็มีสวนชินจูกุเกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen National Garden) ครับ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการชมดอกซากุระหลากหลายสายพันธุ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประทับใจมาก ๆ เลยครับ

ทีมงาน AAJ:รู้จักสถานที่ท่องเที่ยวนี้ได้อย่างไรคะ

A:ผมชอบตามรอยรีวิวในโซเชียลต่าง ๆ ครับ ปกติเคยเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น 4~9 ครั้งก็มักจะดูข้อมูลจากรีวิวของเหล่าบล็อกเกอร์หรือยูทูปเบอร์ประกอบข้อมูลทำแผนการเดินทางครับ

ทีมงาน AAJ:ถ้าหากได้ไปญี่ปุ่นครั้งถัดไป อยากไปเที่ยวที่ไหนคะ

A:ถ้ามีโอกาสผมอยากลองไปฮอกไกโดดูครับ เพราะที่ผ่านมาเคยไปมาทั้งแถบคันโตและคันไซแล้ว

Q&A ผู้ตอบแบบสำรวจคนที่สอง คุณ B (เพศหญิง อายุ 55-64 ปี)

ทีมงาน AAJ:สวัสดีค่ะ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนที่คุณมาญี่ปุ่นแล้วรู้สึกประทับใจจนอยากบอกต่อคนอื่นบ้างรึเปล่าคะ

B:แน่นอนว่าต้องเป็นภูเขาไฟฟูจิ (Mt.Fuji) ค่ะ สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเคยมาญี่ปุ่นควรซื้อทัวร์ฟูจิ 1 วันนะคะ รับรองว่าต้องประทับใจอย่างแน่นอน นอกจากนี้ที่เกียวโตเองก็น่าสนใจมาก ๆ ที่นั่นมีริมน้ำที่สามารถผ่อนคลายได้ค่ะ

ทีมงาน AAJ:ริมน้ำเกียวโตเหรอคะ แปลกจังเลย ทำไมถึงเลือกสถานที่แห่งนี้คะ

B:การเที่ยวเกียวโตทั้งวันอาจไม่เห็นภาพวิถีชีวิต เพราะเราสนใจในสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าผู้คน การนั่งพักผ่อนริมน้ำ คุณจะได้เห็นชาวญี่ปุ่นมาพักผ่อนเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะมาเที่ยวกี่ครั้งควรมาสัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงของชาวญี่ปุ่นค่ะ

ทีมงาน AAJ:น่าทึ่งมากเลยนะคะ แล้วถ้าหากได้ไปญี่ปุ่นครั้งถัดไป อยากไปเที่ยวที่ไหนคะ

B:หมู่บ้านโบราณ (Kayabuki No Sato) ที่เกียวโตค่ะ เพราะเมื่อปี 2018 มีแพลนจะไปเที่ยวอยู่แล้ว แต่วันนั้นฝนตกหนักจนน้ำท่วม ทำให้รถบัสหยุดบริการ สุดท้ายก็ต้องยกเลิกแพลนไป

Q&A ผู้ตอบแบบสำรวจคนที่สาม คุณ C (เพศชาย อายุ 45-54 ปี)

ทีมงาน AAJ:สวัสดีค่ะ เคยมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นกี่ครั้งแล้วคะ

C:ผมไปมากกว่า 10 ครั้งครับ เรียกได้ว่าเที่ยวครบครบทุกภูมิภาค 9 ภูมิภาคแล้ว ไปเที่ยวมาทั้งหมด 45 จังหวัด

ทีมงาน AAJ:โอ้โฮ เรียกได้ว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ญี่ปุ่นตัวจริงเลยนะคะ แล้วจากการเที่ยวทั้งหมด 45 จังหวัดมีที่ไหนที่ประทับใจมากที่สุดบ้างคะ

C:ผมชอบทะเลสาบชินจิ (Lake Shinji) ในจังหวัดชิมาเนะครับ ถึงจะดูเป็นแค่ทะเลสาบน้ำเค็มยาวๆ แคบๆ แต่มีทิวทัศน์สวยบาดใจ แล้วก็อีกที่หนึ่งคือถ้ำริวงะ (Ryugado Cave) ซึ่งเป็น 1 ในถ้ำหินปูนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ในจังหวัดโคจิครับ ผมอยากแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ให้กับคนไทยที่ส่วนใหญ่มักจะเที่ยวแต่สถานที่ยอดฮิตลองไปดูครับ

ทีมงาน AAJ:แล้วหากได้ไปญี่ปุ่นครั้งถัดไป อยากไปเที่ยวที่ไหนคะ

C:ผมอยากไปเที่ยวที่จังหวัดฟุกุชิมะ จังหวัดกุมมะและจังหวัดชิบะครับ เพียงเท่านี้ก็จะเที่ยวครบทุกจังหวัดในญี่ปุ่นแล้ว

เป็นอย่างไรบ้างคะ จะเห็นได้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่ประทับใจของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันใช่มั้ยคะ คาดว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักสถานที่ดังกล่าวกันอยู่บ้างแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะมาแนะนำข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้นเพิ่มเติม รับรองว่าใครที่ได้อ่านบทความนี้จะต้องอยากลองไปเที่ยวอย่างแน่นอน

1. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ (Lake Kawaguchiko, Yamanashi)

1. ทะเลสาบคาวากุจิโกะ จังหวัดยามานาชิ (Lake Kawaguchiko, Yamanashi)

ทะเลสาบคาวากุจิโกะเป็นอีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังไม่เพียงแต่ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นเท่านั้น ยังรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทะเลสาบคาวากุจิโกะเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจิและเดินทางมาถึงได้ง่ายที่สุดจากโตเกียว ซึ่งทะเลสาบที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟฟูจินั้นทั้งหมดมี 5 แห่ง ในบริเวณโดยรอบทะเลสาบมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอนเซ็น พิพิธภัณฑ์ แหล่งตกปลา รวมไปถึงกิจกรรมที่น่าสนใจอย่างการเช่าจักรยานปั่นโดยรอบทะเลสาบ ที่นี่จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสกับธรรมชาติพร้อมทั้งทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิอย่างใกล้ชิด และยังเป็นสถานที่ผ่อนคลายสำหรับหลีกหนีความวุ่นวายจากโตเกียวได้อีกด้วย

การเดินทาง:จากสถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) โดยสาร JR Chuo Line มายังสถานีโอสึกิ (Otsuki Station) จากนั้นให้เปลี่ยนมานั่งสาย Fujikyuko Line เพื่อมุ่งหน้าสู่สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง

สถานที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/kunzZnbUy8B47M378

2. สวนชินจูกุเกียวเอ็น โตเกียว (Shinjuku Gyoen National Garden, Tokyo)

2. สวนชินจูกุเกียวเอ็น โตเกียว (Shinjuku Gyoen National Garden, Tokyo)

ท่ามกลางเมืองอันวุ่นวายอย่างชินจูกุ ยังมีสถานที่ที่สามารถหลีกหนีผู้คนและผ่อนคลายจิตใจ นั่นก็คือ "สวนชินจูกุเกียวเอ็น" สวนนี้สร้างขึ้นเป็นสวนสาธารณะของพระราชวงศ์เมื่อประมาณ 100 ปีมาแล้ว มีทั้งหมด 3 รูปแบบคือสวนสไตล์ญี่ปุ่น สไตล์อังกฤษ และสไตล์ฝรั่งเศส ทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ที่นี่เป็นหนึ่งในจุดชมดอกซากุระช่วงฤดูใบไม้ผลิชื่อดัง เนื่องจากมีต้นซากุระนานาสายพันธุ์กว่า 10,000 ต้น ที่สำคัญยังเดินทางง่าย เป็นสถานที่ที่สามารถท่องเที่ยวได้ทั้งกับครอบครัว เพื่อนฝูง คู่รักหรือแม้แต่เที่ยวคนเดียว

การเดินทาง:โดยสาร JR Yamanote Line, Keio Line หรือ Odakyu Line ลงที่สถานีชินจูกุ (Shinjuku Station) ออกทางออกทิศใต้ (South Exit) และเดินเท้าต่อประมาณ 10 นาที

สถานที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/VM35Nb1q66Tt9PZq9

3. หมู่บ้านโบราณคายาบุกิ โนะ ซาโตะ จังหวัดเกียวโต (Kayabuki No Sato, Kyoto)

3. หมู่บ้านโบราณคายาบุกิ โนะ ซาโตะ จังหวัดเกียวโต (Kayabuki No Sato, Kyoto)

หมู่บ้านโบราณสุดคลาสสิกในเมืองเก่าชื่อดังอย่างจังหวัดเกียวโต ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุคสไตล์ญี่ปุ่นอันเป็นเอกลักษณ์ หมู่บ้านโบราณคายาบุกิ โนะ ซาโตะนั้นถูกสร้างขึ้นมาในช่วงยุคกลางของสมัยเอโดะจนถึงตอนปลายของสมัยเอโดะ อาคารหมู่บ้านที่เป็นทรงโบราณหลังคามุงจากที่มีอายุยาวนานมากกว่า 100 ปีนั้นเปรียบเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ แม้หมู่บ้านแห่งนี้จะมีอายุยาวนานแต่ก็ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีจึงคงสภาพสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นอาคารประวัติศาสตร์ประจำชาติอีกด้วย

การเดินทาง:จากสถานีเกียวโต (Kyoto Station) โดยสาร JR San-in Line มาลงที่สถานีฮิโยชิ (Hiyoshi Station ) จากนั้นเปลี่ยนไปโดยสารรถบัส Nantan Citi Bus ลงที่ป้ายคิตะ คายาบุกิ โนะ ซาโตะ (Kita Kayabuki no Sato) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง

สถานที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/yVu5nJoUC25uJ5g96

4. ทะเลสาบชินจิ จังหวัดชิมาเนะ (Shinji Lake, Shimane)

4. ทะเลสาบชินจิ จังหวัดชิมาเนะ (Shinji Lake, Shimane)

ทะเลสาบชินจินั้นเป็นทะเลสาบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 7 ของญี่ปุ่น และยังได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย ทะเลสาบชินจิเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยที่เชื่อมต่อกับทำเลสาบน้ำเค็มนะคะอุมิที่อยู่ติดทะเล ทำให้ที่นี่อุดมไปด้วยสัตว์น้ำนานาสายพันธุ์ รวมไปถึงที่นี่ยังเป็นทางผ่านของฝูงนกอพยพจำนวนมาก ทำให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้ชมนกป่าอยู่บ่อยครั้ง หากได้มาเยือนที่นี่ อาหารที่ไม่ควรพลาดเลยคือ "หอยชิจิมิ" ซึ่งมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนแปรรูปไปเป็นสินค้าอื่น ๆ วางจำหน่ายอยู่มากมาย

การเดินทาง:หากเดินทางจากเมืองโอคายาม่า สถานีโอคายาม่า (Okayama Station) โดยสาร Limited Express YAKUMO ไปลงที่เมืองมัตสึเอะ (Matsue Station) จากนั้นเดินเท้าต่อ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที

สถานที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/jrxYHdyNMPhD8N517

5. ถ้ำริวงะ จังหวัดโคจิ (Ryugado Cave, Kochi)

5. ถ้ำริวงะ จังหวัดโคจิ (Ryugado Cave, Kochi)

ถ้ำริวงะนั้นถือถ้ำหินปูนศักดิ์สิทธิ์ว่ากันว่ามีอายุราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าล้านปี ถ้ำมีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร แต่จะเปิดให้เข้าชมได้ทั่วไปในระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่านั้น ภายในถ้ำจะได้พบกับร่องรอยการดำรงชีวิตของมนุษย์ในยุคญี่ปุ่นโบราณอย่าง "ยุคยาโยอิ" รวมไปถึงได้ชมประติมากรรมอันงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหินรูปทรงแปลกตา หินปูนหรือหินงอกย้อยแทบทุกขนาด ที่นี่ได้มีการติดตั้งแสงสี และเครื่องฉายภาพบนพื้นผิววัตถุ ภายใต้ธีม "ดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของจิตใจ" เพื่อเพิ่มความน่าอัศจรรย์ให้กับก่อตัวทางธรณีวิทยาอันสง่างามนี้ ไฮไลท์ของถ้ำแห่งนี้คือจุดที่มีน้ำตกอันยิ่งใหญ่ภายใต้แสงสีฟ้าและดนตรีแบบดั้งเดิมที่หากใครได้มาเยือนแล้วจะไม่มีวันลืมเลือน

การเดินทาง:จากสถานีโคจิ (Kochi Station) โดยสาร Gomen Nahari Line ไปลงที่สถานีโนอิจิ (Noichi Station) จากนั้นนั่งแท็กซี่ต่อ ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 40 นาที หรือหากเดินทางจากเมืองโอคายาม่า สถานีโอคายาม่า (Okayama Station) โดยสาร JR Special Express สายรถไฟ JR Dosansen Line ไปลงที่สถานีโทสะยามาดะ (Tosayamada Station) จากนั้นต่อรถบัส Tosaden Kotsu ไปลงที่ป้าย Ryugado Cave ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

สถานที่ตั้ง:https://goo.gl/maps/Xr2PnzCNWUV8h73G7

บทส่งท้าย

All About Japan กำลังมองหาประสบการณ์ของคุณอยู่ค่ะ!

เป็นอย่างไรบ้างคะกับแบบสำรวจของเรา มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายอีกมากเลยใช่ไหมคะ
สำหรับใครที่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากบอกต่อให้เพื่อนๆ ได้รับทราบ มาร่วมตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับ "ญี่ปุ่นในแบบที่ฉันแนะนำ" กันดีกว่า!

แชร์เรื่องราวและประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่คุณอยากบอกต่อให้พวกเราทราบ
ข้อมูลของคุณเป็นประโยชน์กับทางเราเป็นอย่างมาก อย่าลืมมาร่วมตอบกันเยอะๆ นะ!

แบบสำรวจ "ญี่ปุ่นในแบบที่ฉันแนะนำ"

know-before-you-go